“กันต์” เคลียร์ดราม่า “เจ้าขุน” แย่งไมค์ – ชูนิ้วกลาง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“กันต์ กันตถาวร” เคลียร์ดราม่า “เจ้าขุน – จักรภัทร วรรธนะสิน” แย่งไมค์กลางรายการ ชี้เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง วอนให้ดูเจตนาอีกฝ่าย เชื่อ “เจ - เจตริน วรรธนะสิน” มีความเป็นมืออาชีพในการจัดรายการ

เรียกว่าเป็นดราม่าสนั่นโซเชียลข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว สำหรับกรณี เจ้าขุน – จักรภัทร วรรธนะสิน ลูกชาย เจ – เจตริน วรรธนะสิน แสดงกิริยาไม่เหมาะสมหลังแข่งขันชกมวยเสร็จ ทั้งยกนิ้วกลางให้กองเชียร์ , แย่งไมค์จากมือ กันต์ กันตถาวร พิธีกรรายการขณะพูดอยู่ รวมถึงการแจกเข็มขัดปลอบใจให้ลูกชายจากพ่อเจ ล่าสุด กันต์ ได้ออกมาเคลียร์ดราม่าที่เกิดขึ้นว่า

ประเด็นเมื่อคืนดราม่าหนักมาก

“ในฐานะพิธีกรผมก็ได้อ่านรวมๆทั้งหมด มันมีหลายอย่างรวมเกิดขึ้นโดยเฉียบพลันอย่างมากมาย เอาทีละอย่างครับ เรื่องรายการเนื่องจากรายการนี้เป็นรายการสดเราถ่ายทำมา 10 สัปดาห์ติดต่อกัน พอเป็นรายการสดมีกล้องเกือบ 20 ตัว ทีมงานเกือบ 100 คน ถ้าใครได้ดูในอินสตาแกรมผมก็เห็นว่านั่นคือทีมงานผมทั้งหมด บางคนอาจจะไม่ได้มาด้วย เพราะนัดถ่ายรูปช่วงท้ายๆ เราทำงานกันหนักมาก ทีมงานมาก่อนเราและกลับหลังเราเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด ณ ขณะหนึ่ง ที่ผมใช้คำว่าขณะหนึ่งเพราะเป็นรายการสด อาจจะดีไม่หมด อาจจะไม่ถูกใจทุกๆคน เพราเราไม่สามารถมีเทค 2 ได้ เช่น พูดผิดหรือทำอะไรที่ควรจะดีกว่านี้ เราไม่สามารถแก้ได้แล้ว เพราฉะนั้นหน้าที่ของผมเหมือนกองกลางทีมฟุตบอล ที่คอยดำเนินเกมให้มันสมูทมากที่สุด

เมื่อวานเป็นห่วงทุกๆคน เป็นห่วงความรู้สึกของทีมงานและของ พี่เจ ( เจตริน วรรธนะสิน ) , เจ้าขุน และ แบงค์ ( ธิติ มหาโยธารักษ์ )  คือ..เจ้าขุนเป็นน้องผม แบงค์ก็น้องผม เรารู้จักกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งทีเกิดขึ้นภาพที่ได้เห็นในทวิตเตอร์ ผมจะพูดแค่ของผมแล้วกันไม่ขอพูดพาดพิงคนอื่น ที่เขียนว่าน้องแย่งไมค์ สิ่งที่เกิดขึ้นในฐานะที่ผมเป็นพี่ชายน้อง ผมต้องพูดจริงๆว่าสิ่งที่น้องทำไม่ถูกต้องนะ คุณไม่สามารถแย่งไมค์กับใครก็แล้วแต่แบบนั้นได้ ไม่ถูกต้อง แต่ผิดไม่ผิดต้องดูที่เจตนา น้องไม่ได้มีเจตนาว่า เฮ้ย..เอาไมค์มาเว้ย คือน้องแค่รู้สึกว่าเหมือนมันจบแล้ว พูดเสร็จแล้วก็ไมค์มาคืน คือผมพูดแล้วไมค์ก็หายไป แต่ผมอยากให้ดูสิ่งที่น้องทำต่อคือน้องเอาไมค์ไปขอบคุณแฟนคลับของ แบงค์ นั่นคือเจตนา ซึ่งเจตนาดี แต่การกระทำผมก็กล้าพูดว่าไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นผมว่าน้องได้เรียนรู้แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องไปพูดต่อว่าไม่ถูก น้องเป็นคนที่สามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่การแสดงออกของน้องเป็นคนที่คิดเลยทำเลย เราจะเห็นได้ในทุกอริยบท ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะ สุดท้ายประสบการณ์จะสอนน้องเองว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองครับ เหมือนว่าเรื่องพวกนี้ต้องเจอด้วยตัวเอง ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งดุ แล้วน้องจะค่อยๆเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ปีนี้ผมอายุ 34 แล้ว น้องเพิ่งอายุ 16 เอง น้องยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างกับการอยู่ตรงนี้ เรารู้จักน้องเพราะน้องเป็นลูกพี่เจ น้องทั้งสามคนน่ารักมากนะเวลามาถ่ายรายการก็จะมาทั้งครอบครัว แต่น้องเจ้าขุนเพิ่งก้าวขาข้างเดียวมาในวงการเอง เขายังไม่ได้เล่นละครหลายเรื่อง มีเพลงหลายเพลง ที่จะทำให้เขามีประสบการณ์ในการสัมภาษณ์ การที่มีไมค์จะต้องพูดยังไง เขายังไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากนัก เพราะฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่น้องจะต้องเรียนรู้และผมว่าเรื่องนี้จริงๆน้องรู้แล้ว และผมว่าพี่เจและพี่ปิ่นก็รู้แล้ว ไม่มีใครอยากทำอะไรไม่ดีออกมาให้ประชาชนมานั่งว่าหรอก ผมไม่ได้ปกป้องน้องนะ ถ้าผมได้พูดกับน้องจริงคือรู้อยู่แล้วว่าไม่ถูกต้อง ไม่ต้องพูดกันเยอะด้วย เพียงแต่ว่าเจตนาน้องก็ไม่ได้เจตนาไม่ดีครับ”

เจ้าขุน” มาขอโทษเราไหม

“คือเขาก็ขอโทษบนเวทีแล้วนะ ผมนั่งดูย้อนอยู่หลายครั้งมาก ผมกลับบ้านไปภรรยาผมบอกว่าดราม่าเต็มไปหมดเลยว่าน้องเต็มเลยที่แย่งไมค์ เอาจริงๆผมก็แก้สถานการณ์ไปแล้วนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น คือผมตัดต่อภาพในหัวแล้วว่าถ้าปล่อยนิ่งจะยังไง ขุนจะดูแย่มาก ผมก็ต้องเล่นให้มันตลกไป ไมได้มีเจตนาจะจิกกัดอะไรน้องเลย”

แสดงว่าตอนนั้นเราเหวอไปแล้ว

“เหวอสิครับ ( หัวเราะ )  ยอมรับว่าเหวอจริงๆ แต่ตอนนั้นก็ต้องประมวลผลว่าต้องทำยังไงเพราะเป็นรายการสด หลายๆอย่างไม่สามารถหยุดตรงนั้นได้ มันคัทไม่ได้ การพูดถึง คุณปัญญา นิรันดร์กุล ไม่ดูแรงครับ ถ้าได้ดูผมว่าไม่แรงครับ มันเป็นการแซว ผมว่าน่าจะเข้าใจกันได้ คือถ้าเป็นคำพูดที่พิมพ์มันแปลได้หลายภาษา แต่ถ้าดูสีหน้า อากัปกิริยาและสีหน้าของผมจะรู้ว่าพูดเพื่ออะไร”

มีโอกาสได้คุยกับน้องหลังจากนั้นไหม

“ยังเลยครับ ยังไมได้คุยกับใครเลยครับ”

คนตีความไปว่า “พี่เจ” เป็นคนจัดรายการนี้ขึ้นมาจะทำอะไรกับลูกก็ได้

“ผมว่าพี่เจไม่ได้คิดแบบนั้น อันนี้ผมไม่ได้ปกป้องพี่เจในฐานะโปรโมเตอร์หรือเป็นพี่ชายผมนะ รายการนี้เกิดขึ้นเพราะพี่เจและบริษัทร่วมมือกัน รายละเอียดไม่ขอลงลึกเป็นเรื่องของผู้ใหญ่คุยกัน เพียงแต่ว่าไม่ใช่ว่าใครจะทำอะไรก็ได้ในรายการไหน และผมพี่เจไม่ใช่คนที่ไม่ใช่มืออาชีพ เขารู้อยู่แล้วว่าเขาต้องทำอะไร เพียงแต่ว่าเขาก็พูดเกริ่นมาแล้วนะว่าในฐานะโปรโมเตอร์ อันนี้ในฐานะพ่อ ผมว่าสุดท้ายมันคือเรื่องของเราเองแล้วว่าอาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจ แต่ผมว่าพี่เจเขารู้อยู่แล้วครับว่ามันไม่ใช่ที่ว่านี่รายการตัวเองจะทำอะไรก็ได้ ผมว่าเขาเป็นมืออาชีพอยู่แล้วครับ”

คนมองว่า “พี่เจ” ไม่มืออาชีพเพราะพี่เจปิดความคิดเห็นและน้องก็ยังไม่มาขอโทษ

“อันนี้ผมไม่ทราบครับ เมื่อวานนั่งดูย้อนไลฟ์ในเฟซบุ๊ก ในยูทูป ดูแล้วหยุดๆเยอะมาก ทวิตเตอร์ก็ขึ้นอันดับหนึ่งโลก ผมยังตกใจเลย”

ดราม่าเรื่องเข็มขัดเกิน

 "เข็มขัดไม่ได้เกิน อันนี้จะได้กระจ่างกันเนอะ ในการประกาศคือรางวัลที่โปรโมเตอร์ก็คือพี่เจอยากมอบให้  ถ้าจำได้คือจะมีรางวัลหนึ่งที่ผมต้องมอบให้กับคุณหลุยส์ (พงษ์พันธ์) พี่เจสัน ยัง แต่พี่เจสันยังไม่ได้มารับ เพราะฉะนั้นก็จะเป็นทีมงานที่รับแทน ก็คืออยู่ที่ของทีมไวท์ (ทีมขาว) แต่พอไม่ได้มารับปั๊บ พูดง่ายๆ คือยังไม่มีใครถือยังอยู่ในมือของริงเกิร์ล พี่เจเขาก็พูดในฐานะพ่อนะ ขุนอันนี้ลูก มันเป็นมวลน่ารักแบบนั้นมากกว่า แต่มันอยู่ที่การตีความของเรามั้ง อันนี้ผมไม่ทราบ ผมขอไม่พูดแทนใครแล้วกันนะ ผมขอพูดในฐานะพิธีกร และตัวแทนของรายการ ณ มวลทั้งหมดพี่เจเป็นโปรเฟสชั่นแนลเพียงพอ ผมขอใช้คำว่ารายการผมแล้วกัน รายการที่ผมรับหน้าที่เป็นพิธีกร เป็นแม่ทัพของทีมงานเป็น 100 คน เราทำงานกันหนักมากครับ เสียงชื่นชมไม่ควรอยู่ที่ผมคนเดียว ควรอยู่ที่ทีมงานทุกคน ส่วนคำติผมก็ไม่รับคนเดียว ผมกับทีมงานจะรับด้วยกัน เพื่อทำให้มันดีขึ้น เราจะได้รู้ในสิ่งที่มันมองไม่เห็นว่า มันควรจะทำอะไรบ้าง เพราะว่าตอนนี้เรามีหลายข้อที่เราได้ทำเป็นบูลเล็ตเอาไว้แล้ว การจับคู่มวย ควรจะยังไง  เราควรบอกกติกาการชกมวยให้กับคนดูได้รับรู้ไหม เพราะว่าตอนนี้คนดูรายการนี้ไม่ใช่แค่คนดูมวย บางคนที่ไม่เคยดูมวยมาก่อน เหมือยนผู้หญิงที่ดูบอลแหละครับ ดูแค่นักบอลหล่อ แต่ไม่รู้ว่าล้ำหน้าคืออะไรว่ะ เป่านกหวีดทำไมว่ะ มันจะคล้ายๆ แบบนั้น มันคือสิ่งที่ใหม่มาก สำหรับพวกเรา สำหรับผมแล้วกัน ผมกับทีมงานทุกคนก็จะทำให้มันออกมาดีที่สุด ณ ขณะหนึ่งที่ผมมีแรง มีสมองมีสติจะทำได้ และผมไม่เสียใจเลย ณ ข้อผิดพลาดที่มันเกิดขึ้นก็แล้วแต่ เพราะว่ามันคือรายการสด ณ ขนาดนั้น”

 คนมองว่าที่ “กันต์” ลงรูปกับภรรยาเพราะว่าเราเศร้าหรือเปล่า

 "ผมรักภรรยาครับ  (หัวเราะ) ผมรักภรรยาครับ คือเขาเป็นกำลังใจที่ดี ผมว่าคล้ายๆกับที่พี่แมทธิวพูดในรายการที่เขาไม่โอเคหรอก เอาจริงๆไม่มีใครโอเคที่สามีต้องกลับบ้านดึกๆ แต่ผมก็รักงานผม มันเป็นสิ่งที่แสดงตัวตนของผมในสิ่งที่ผมทำอยู่ ผมกลับบ้านผมก็ยังนั่งเช็ค ยังนั่งดูย้อน ยังทำวิธีโลเทคๆของผมคือกดดูแล้วก็พัก แล้วก็นั่งจดเหมือนเอ็นทรานต์ ว่าอะไรพลาด อะไรที่ควรจะมาปรับปรุง ผมทำแบบนี้ตลอดในทุกๆรายการ ในทุกๆคอนเทนต์ มันเลยกลายเป็นว่ากว่าผมจะได้นอนจริงๆ อย่างรายการเลิก 4 ทุ่ม กลับถึงบ้าน 5 ทุ่ม อาบน้ำ ล้างหน้า คือจะนอนตี 2 พอเห็นข่าวว่ามีทวิตเตอร์ มีเฟซบุ๊คก็รู้สึกว่าเอาแล้ว พอดูกะว่าครึ่งชั่วโมง ผมได้นอน ลากเลยครับ กลายเป็นตี 4 กว่าจะได้นอน ก็คือเห็นใจทุกคน เห็นใจทุกคนจริงๆ ครับ ผมไม่ระบุเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้วกันครับ ทีมงานที่ตั้งใจทำงาน และนักมวยทุกคน โปรโมเตอร์ ผู้จัดเอง โปรดิวเซอร์ ทุกคน รวมไปถึงมวลดีหรือมวลไม่ดี เราจะรับเอาไว้ทั้งหมด แล้วก็มันเป็นการติเพื่อก่อ ผมเชื่อว่ามันเป็นแบบนั้นนะ กับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นดราม่า ณ เมื่อคืน ผมว่าสิ่งที่ทุกคนได้เรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นน้องเจ้าขุนเอง หรือว่าพี่เจ แม่ปิ่น หรือน้องๆทุกคน หรือผมเองก็เถอะ ทีมงานทุกๆคน หรือนักมวยทุกคนก็เถอะ ผมว่าเราได้เรียนรู้ว่าเราควรจะทำอะไร และมีสิ่งใดที่ผิดพลาดบ้าง เพื่อก่อเกิดสิ่งที่ดีในอนาคต"

 มีคนบอกว่าเหมือนเป็นสคริปท์ที่วางไว้

 "รายการนี้นอนสคริปท์ (ไม่มีสคริปท์) รายการผมทุกรายการเป็นนอนสคริปท์ทั้งหมดเลย อันนี้ผมสามารถการันตีได้จากปากพิธีกรเลยว่า นอนสคริปท์ คุณจะเห็นว่าผมไม่เคยมีสคริปท์เลยและสคริปท์ผมก็จำไม่ได้ครับ"

 และเรื่องที่ เจ้าขุน ชูนิ้วกลางบนเวที

 "อันนี้ผมเห็นในทวิตเตอร์ ต้องบอกตรงนี้ก่อนว่าผมไม่เห็นภาพและเหตุการณ์จริง  อย่างที่บอกว่ามันน่าจะเป็นกรณีเดียวกันกับที่เมื่อกี้ถามผมว่าเป็นคำพูดที่แรงไปไหม กับที่ว่าพี่ตา - ปัญญา ยังไม่เคยทำแบบนี้กับผมเลย พอมันเป็นคำเขียนหรือตัวพิมพ์ มันแปลได้หลายอย่างตามอิริยาบถของเราผู้อ่านเลย เห้ย..แรงเปล่าว่ะ แต่มันต้องเห็นมวลทั้งหมด  "กับที่ว่าพี่ตา-ปัญญา ยังไม่เคยทำแบบนี้กับผมเลย" ถ้าคุณได้เห็นน้ำเสียง สีหน้า อากัปกิริยาของผม คุณจะรู้ว่านี่คือการพูดเล่น ผมก็ไม่เห็น  ณ ตอนนั้นจริงๆ เพราะว่าผมทำหน้าที่พิธีกรอยู่ ผมเห็นจากการครอปในทวิตเตอร์ว่ามันเกิดสิ่งนั้นขึ้นจริงๆ แต่ผมไม่รู้ว่า ณ มวลที่น้องทำในตอนนั้น มันคือมวลอะไร แบบไหน อากัปกิริยาอย่างไง อันนี้ผมขออนุญาตจริงๆ ที่ขอไม่พูดแทนน้องแล้วกัน ผมเชื่อว่าน้องก็คงอยากที่จะออกมาพูดเอง เพราะฉะนั้นสัมภาษณ์น้องดีกว่า”

 หลังจากนี้จะคุยกับ พี่เจไหม

 "ก็คุยกันเป็นปกติอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ได้ทำรายการนี้ร่วมกันตั้งแต่แรก ก็ยังคุยกัน เพราะพี่เขาเป็นคนชอบรถ เขาเป็นคนชอบนาฬิกา เราก็คุยกันว่าอะไรยังไงกันดี พอมาได้ทำรายการนี้ ก็กลายเป็นว่าสนิทกับลูกเขาเข้าไปอีก ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไรบาดหมาง แคลงใจกันอยู่แล้ว"

พี่เจ - พี่ปิ่น ได้มีการติดต่อกับทาง กันต์บ้างหรือยัง

 "ยังๆ ยังครับ เอาจริงๆผมว่าก็ไม่รู้ว่าเขาจะต้องติดต่อมาทำไม มันไม่ได้มีประเด็นที่เกิดกับผม ผมก็เห็นดราม่าทั้งหมดแล้ว ซึ่งมันไม่เกี่ยวอะไรกับผมหรอก ผมว่ามันเกิดจากสิ่งที่มันเกิดขึ้น ณ ขนาดนั้น และผมว่าเดี๋ยวคงมีการออกมาพูดคุยกันเอง ผมว่าให้แต่ละฝ่ายออกมาพูดกันเอง ผมไม่อยากที่จะพูดแทนใครเลย เพราะผมเชื่อว่ทุกคนมีความเครียด แน่นอน ณ สิ่งที่เกิดขึ้นมันก่อให้เกิดความเครียดต่อหลายๆ ฝ่ายที่ถูกระบุอยู่ในนั้นอยู่แล้ว ผมก็ขอพูดในมุมของพิธีกรแล้วกันว่า ทำได้ดีที่สุด ณ ขนาดนั้นแล้วจริงๆเราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้ ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นข้อผิดพลาดอะไรนะ เพราะผมถือว่ามันเป็นรายการสด ผมทำได้ดีที่สุดแล้ว และทีมงานของผมได้ทำดีที่สุดแล้วเท่าที่เขาทำได้ ณ ขนาดนั้นจริงๆ"

 มีเสียงชื่นชมว่า กันต์สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี

 "ถ้าถามผม สำหรับผมมันคือหน้าที่พิธีกร มันคือหน้าที่อยู่แล้ว ผมเชื่อว่าต่อให้เป็นพิธีกรคนอื่น อันนี้ก็อ่านในทวิตเตอร์เหมือนกัน ถ้าเป็นคนโน้น คนนี้ จะต้องไม่อย่างนี้แน่เลย ผมเชื่อว่าพอเป็นรายการสด ณ ขนาดนั้น ผมเชื่อว่ามันจะเป็นออโต้ไพรอลเอง คุณจะต้องคิดเอง ว่ามันจะแลนดิ้ง เราจะไปลงจอดตรงไหน แต่ละคนมีวิธีการกระทำที่มันต่างกัน เราจะมีวิธีการที่แตกต่างกัน แต่ ณ จุดหมายปลายทางคือเราจะต้องแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้มันออกมาดีที่สุด คนอื่นอาจจะไม่ทำแบบผม อาจจะดีกว่าผมก็ได้ ก่อให้เกิดมวลที่ดีกว่านี้ ผมทำได้เท่านั้นจริงๆ ในตอนนั้น"

เป็นห่วง “เจ้าขุนไหม

"เป็นห่วงมาก ผมกับภรรยาก็คิดว่าเจ้าขุนจะเป็นยังไงบ้าง กลายเป็นว่าผมระวังไปเลย ผมอยากจะลงรูปกับน้อง เอาจริงๆผมจะลงรูปกับน้องว่าไม่ต้องคิดมากนะ ผมก็กลัวว่าจะเกิดเป็นอะไรอีก ก็ได้คุยกับแบงค์ เขาส่งข้อความมาว่า ผมเต็มที่แล้ว เดี๋ยววันหลังเจอกัน ก็เจอกันน้อง ก็กลัวจะกลายเป็นการเทคไซส์ พอจะมาลงรูปกับแบงค์ แล้วลงรูปกับเจ้าขุน เดี๋ยวเมียคิดมากอีก เพราะเพิ่งลงรูปเมีย อะไรแบบนี้ คือกลายเป็นว่า ไม่ลงเลยดีกว่า ผมว่าสุดท้ายไม่มีใครหมางใจกับใคร แบงค์ – เจ้าขุน ไม่ได้โกรธกัน ทุกคนรักกันดี แต่ ณ มวลที่เกิดขึ้น ผมขออนุญาตไม่พูดแทนใคร ผมขอพูดในมุมของผมแล้วกันในนามของผมและทีมงานแล้วกันครับ”

อัพเดทข่าวบันเทิงได้ใน รายการ POP NEWS DAILY ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00 – 09.15 น. , รายการเข้มบันเทิง ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 20.00 น. และรายการ POP NEWS วันอาทิตย์เวลา 18.20 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36 หรืออ่านข่าวประเด็นฮอตวงการบันเทิงได้ทาง //www.pptvhd36.com/news/ข่าวบันเทิง 

 

 

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ