เป็นอีกหนึ่งหนุ่มฮอตที่ยังคว้าใจสาวๆทั่วบ้านทั่วเมือง สำหรับนักแสดงหน้าใส บิวกิ้น - พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ที่นอกจากจะแจ้งเกิดจากการแสดงแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวยังพ่วงดีกรีนักร้องหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง เพราะหลังจากปล่อยซิงเกิล กอดในใจ ออกมาก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีสุดๆ วันนี้ พีพีทีวี จะพาไปล้วงสูตรความสำเร็จของหนุ่มคนนี้มาให้แฟนๆได้รู้จักกันมากขึ้น
“บิวกิ้น พุฒิพงศ์” ทุ่มสุดตัว ซิงเกิ้ลแรก “กอดในใจ”
“การทำงานในวงการของผม ตอนนี้ผมเข้ามาอยู่กับ นาวดาว บางกอก ได้ประมาณ 4 ปีกว่าๆแล้ว จุดเริ่มต้นก็เริ่มจากการเป็นคนเสพก่อน ผมชอบดูศาสตร์การแสดง ชอบดูหนัง ซีรีส์ รู้สึกว่าเจ๋งจังเลย และผมก็มีโอกาสได้มาเจอกับคนของทางนาวดาวฯ พี่เขาก็ชวนให้ผมมาลองแคสดู และได้มีโอกาสมาอยู่ที่นี่ครับ”
“บิวกิ้น” ผ่านงานในวงการมาแล้วหลายอย่างทั้ง พิธีกร งานแสดง และร้องเพลง แต่ละพาร์ทท้าทายยังไงบ้าง
“ผมว่าแต่ละพาร์ทมันยากและง่ายต่างกัน รวมถึงมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลต่างกันด้วย และสำหรับผมยังคงรู้สึกว่า ทุกงานคือความท้าทาย การทำงานในแต่ละชิ้นความท้าทายมันมากขึ้นกว่าเดิมอยู่แล้วครับ”
วันนี้ “บิวกิ้น” ได้รับความนิยมจากแฟนๆมากขึ้น
“ดีใจครับ อยากขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบในตัวผม ผลงานของผม เพราะเวลาผมตั้งใจทำงานก็จะเต็มที่และพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด ไม่ว่าฟีดแบคจะออกมาดีหรือไม่ดี เราก็จะไม่เสียดาย เพราะเราเต็มที่แล้ว แต่พอฟีดแบคดีเกินที่คาดหวังไว้ ก็ทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำไปมันไม่เสียเปล่า มันคุ้มค่าครับ (ยิ้ม) มันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง ผมมาถูกทาง เหมือนเป็นกำลังใจให้ผมอยากสร้างผลงานดีๆออกมาอีกในอนาคตครับ”
ถูกยกให้เป็นคนที่เก่งรอบด้าน สำหรับตัวเรากว่าจะผ่านมาแต่ละจุดมันยากไหม
“ยากครับ ต้องบอกว่าแต่ละพาร์ทก็จะมีความยากในตัวของมันเอง ไม่ว่าจะเป็นงานแสดง งานเพลง หรืองานพิธีกร แต่ผมว่าผมเองก็ไม่ใช่คนที่ถนัดทุกด้านนะ (หัวเราะ) แต่ผมมีใจที่อยากจะทำและรู้สึกว่าผมยังทำมันได้ดีพอประมาณอยู่ ไม่ว่าจะยากหรือง่าย มันสำคัญที่ว่าเราต้องทำมันให้ได้ดี อย่างการร้องเพลง จริงๆผมก็เรียนร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ช่วงปิดเทอมไม่มีอะไรทำ คุณแม่ก็เลยส่งผมไปเรียนร้องเพลง ไปเรียนเต้น ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมไม่ชอบเรียนเต้นเลย ชอบร้องเพลงมากกว่า พอเข้ามาที่นาวดาวฯ ก็ให้โอกาสผมร้องเพลงประกอบละคร เลยเหมือนกับว่าได้โชว์ความสามารถของตัวเองออกมาอีกครั้งนึง ตอนมีซิงเกิลเป็นของตัวเอง ผมตื่นเต้นมาก พอเป็นผลงานใหม่ๆที่จะมีออกไป ไม่รู้ว่าคนจะชอบหรือไม่ชอบ ดังนั้นผมจะพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ”
“บิวกิ้น พุฒิพงศ์” หายเหนื่อย “กอดในใจ” เข้าถึงความรู้สึกแฟนๆ
กว่าจะมาถึงตรงนี้เคยท้อไหม
“ผมว่าทุกคนแหละครับ ต้องมีท้อบ้าง แต่เราก็เต็มที่ กายและใจอาจจะท้อ แต่ผมรู้สึกว่าอีกใจนึงก็ยังผลักให้เรายังเต็มที่ ไม่อ่อนข้อต่อความย่อท้อ ยังใส่เต็มอยู่เสมอ ผมคิดแค่ว่าถ้าวันนี้ยังไม่ใช่วันของเรา ก็ให้ทำไปเรื่อยๆ ตั้งใจไปเรื่อยๆ พลังของความตั้งใจจะส่งผลให้วันนึงมันเห็นผลออกมาเองครับ”
การอยู่ตรงนี้ค่อนข้างถูกจับตามองทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
“ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้มีความลับอะไรที่ต้องปกปิดในเรื่องแย่ๆของตัวเอง ผมก็แค่ทำตัวให้ถูกต้องตามหลักสังคม คนจะรู้หรือไม่รู้ ผมว่ามันไม่ใช่ปัญหาอะไรนะ เพราะต่อให้เราจะเป็นคนที่ถูกจับตามอง หรือไม่ใช่คนที่ถูกจับตามอง เราก็ต้องทำตัวให้ดีและถูกต้องอยู่แล้ว”
การแข่งขันในวงการบันเทิงค่อนข้างสูง มีวิธีผลักตัวเองยังไง
“ผมไม่ได้มองในพาร์ทของการแข่งขัน ผมมองในพาร์ทของความสุขมากกว่า ถ้าตัวเรามีความสุขที่จะทำมัน นี่แหละคือสิ่งที่จะผลักดันให้เราทำมันด้วยใจจริงๆ ผมไม่ได้คิดว่ามันนึงผมจะต้องประสบความสำเร็จแค่ไหน ผมคิดแค่ว่าต้องตั้งใจทำให้ดีเรื่อยๆและมีความสุขที่จะทำ ผมยังเอ็นจอยกับความท้าทายงานด้านนี้อยู่ ถ้าความแฮปปปี้ของผม ทำให้ผมไปต่อได้เรื่อยๆ ผมก็โอเคแล้วครับ (ยิ้ม)”
แฟนคลับมักบอกว่าเราคือความสดใสของเขา ยิ้มเก่ง หัวเราะเก่ง จริงๆมีมุมที่คนอื่นยังไม่รู้กับความเป็น “บิวกิ้น” ไหม
“มุมที่คนยังไม่รู้เหรอครับ เดี๋ยวผมยกตัวอย่าง 3 ข้อแล้วกัน (หัวเราะ) ผมเป็นคนล่ก คือผมจะเป็นคนที่เตรียมตัวไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ถ้าผิดแพลนเมื่อไหร่ จะเอาละ เริ่มละว่าแบบเอายังไงดีๆ มีคำถามในหัวตลอดเวลา ผมเลยพยายามจะไม่ทำให้ตัวเองผิดแผน (หัวเราะ) และผมก็เป็นคนที่ ขี้อาย ด้วยนะ ถ้าทำผมอะไรที่ผมไม่มั่นใจที่จะทำ ผมจะรู้สึกว่าผมอายมากเลย อย่างเช่นให้ผมไปเต้น ผมรู้สึกว่าผมอาย รู้สึกเขิน และไม่มั่นใจเลย ซึ่งจริงๆในเรื่องการแสดง และร้องเพลง ผมก็ปรับตัวนานเหมือนกันนะ กว่าจะรู้สึกมั่นใจกับมัน (หัวเราะ) และสุดท้าย ผมเป็นคนจริงจัง ถ้าผมตั้งใจทำอะไร ผมจะบ้ากับมัน ทำเต็มที่โดยไม่มีเหตุผลและจริงจังมากครับ”
ฝากผลงานกับแฟนๆหน่อย
“ตอนนี้ผมมีเพลงที่ปล่อยออกมาชื่อ กอดในใจ ครับ มิวสิควิดีโอก็ปล่อยให้ได้ชมกันแล้ว ผมตั้งใจมากๆกับเพลงนี้ อยากให้เพลงนี้เป็นเหมือนตัวแทนความรู้สึกของคนในช่วงนี้ที่ต้องเว้นระยะห่างกัน และเร็วๆนี้กำลังเริ่มถ่ายทำซีรีส์ที่เล่นกับ พีพี (กฤษฏ์ อำนวยเดชกร) เป็นอีกโปรเจ็กต์ที่อยากให้ทุกคนได้รอชมกันครับ ได้ชมภายในปีนี้แน่นอน (ยิ้ม) และอยากขอบคุณทุกคนไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับผม หรือคนที่เพิ่งจะรู้จักผม ขอบคุณที่เปิดใจให้ผลงานของผมในทุกๆชิ้นนะครับ หวังว่าจะติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ”