“พีท ทองเจือ” เผยสภาพจิตใจ “น้องเซย่า” ป่วยไทรอยด์ ต้องยุติฝันเป็นศิลปิน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“พีท ทองเจือ” ห่วง ลูกสาวคนโต “น้องเซย่า” หลังป่วยเป็นไทรอยด์ ดับฝันเป็นศิลปิน เผยลูกสาวมีอาการน้ำหนักขึ้นๆลงๆ ผมร่วง ก่อนหน้าประจำเดือนไม่มา 9 เดือน ด้านสภาพจิตใจแย่ ต้องปรึกษาจิตเวช แต่โชคดีไม่ถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า

หลังจากที่ก่อนหน้านี้คุณพ่อคนเก่ง พีท ทองเจือ ออกมาเผยว่าลูกสาวคนโต น้องเซย่า ป่วยไทยรอยด์ จนต้องยุติเส้นทางการเป็นศิลปินโกอินเตอร์ลง และกำลังอยู่ในขั้นตอนการรักษา โดยทางพ่อพีทอัปเดตอาการลูกสาวให้ฟังว่า  

อาการของน้องเป็นอย่างไรบ้าง

“น้องมีอาการเป็นโรคไทรอยด์ แต่โชคดีที่ไม่เป็นไทรอยด์เป็นพิษ เริ่มต้นที่เจอน้องประจำเดือนไม่มา 9 เดือน เด็กอายุ 14 ปี ประจำเดือนไม่มา มันไม่ใช่เรื่องที่เราควรจะอยู่กับมัน ต้องเป็นอะไรสักอย่าง เราเฝ้าดูมาจนเดือนที่ 9 ก็ไม่โอเค ก็ตรวจละเอียด เริ่มเจอค่าทีสามหรือค่าไทรอยด์ต่ำมาก ทำให้มีอาการต่างๆ เช่น ผมร่วงเยอะ ซึ่งน้องเป็นคนผมหนา และมีอารมณ์แปรปรวนเพราะสารเคมีในร่างกายมันผิดปกติ และมีเรื่องน้ำหนัก ที่อยู่ๆ ก็ลดพรวดและขึ้นมาอีก พอเราเจอปุ๊บก็คิดว่าต้องรักษาอย่างจริงจัง”

อันนี้เริ่มเจอหลังจากที่น้องเริ่มเดินทางศิลปินใช่ไหม

“ใช่ครับ”

ที่บอกว่าเป็นอุปสรรคคือยังไง

“พอเป็นปุ๊บ ทุกๆ อย่างก็ไม่ค่อยโอเค เพราะว่าภาวะทางจิตใจ อย่างคุณหมอ เราไม่ได้ไปหาแค่หมอเดียว ไปทั้งหมดประมาณน่าจะ 3 โรงพยาบาล คุณหมอน่าจะ 7-8 ท่าน จริงๆ ท่านหนึ่งก็โอเค แต่เราอยากได้ยินคุณหมอวินิจฉัยหลายๆคน ดูสิว่าท่านวินิจฉัยเหมือนกันหรือเปล่า แต่ก็เหมือนๆกันทั้งหมด”

เริ่มรักษามานานเท่าไหร่

“ตอนนี้รักษาน่าจะ 7 – 8 เดือนแล้ว ก็ดีขึ้นๆ”

สภาพจิตใจของน้องเป็นยังไงบ้าง

“ก็แย่ แต่ผมบอกแล้วว่า อีกหน่อยเราจะดังระดับโลก จะมีเงินกี่ร้อยล้าน พันล้าน แต่ตองมานั่งรักษาตัวตลอดชีวิตไม่น่าจะใช่วิธีที่ถูกต้อง ก็บอกน้องว่าทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ให้ถึงเวลา และเป็นเวลาของเรา ยังไงเราก็ต้องอยู่ตรงนั้นแน่นอน”

ตอนที่ทราบว่าป่วยคือเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศใช่ไหม

“ครับ ก็ต้องขอตัวกลับมา”

ทางต้นสังกัดโอเคไหม

“มันเป็นเรื่องของสุขภาพครับ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ถ้าสมมติว่าไม่มีวินัยในการทำงานหรืออะไรต่างๆ เราพอเข้าใจได้ แต่อันนี้เป็นเรื่องของสุขภาพ ซึ่งถ้าสุขภาพมันไม่ได้ มันเดินหน้าต่อไม่ได้ (ทางนั้นไม่มีปัญหา?) ใช่ๆ”

เส้นทางหลังจากนี้

“ก็ต้องพิจารณาดู ตอนนี้เราพยายามทำให้น้องเข้ามาสู่ภาวะปกติในเรื่องของร่างกายและจิตใจก่อน แล้วพยายามรีคัฟเวอร์ในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ ตอนนี้ก็ยังซ้อมร้อง ซ้อมเต้น ถ้ามีโอกาส ผู้ใหญ่ให้โอกาส ก็จะออกมาร้องเพลง ทำสิ่งที่เขารักอยู่ แต่ก็อาจจะยังทำไม่ได้เต็มที่เท่าไหร่”

คุณหมอบอกไหมต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาเท่าไหร่

“ไม่มีใครบอกได้เลยครับ สุขภาพค่อนข้างกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว ค่าเลือดดี แต่ว่าสิ่งที่ผมไม่ค่อยโอเค คือสภาพจิตใจน้องที่เหมือน...คนเราตั้งใจเอาไว้ อาจจะมีอุปสรรคเดินทางไปเป้าหมาย เราก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นสิ่งที่ทำใจยากนิดนึง คนรอบตัว คนในครอบครัว ก็ต้องช่วยกัน และสิ่งที่แย่อีกอันที่เราไม่ค่อยแฮปปี้คือสุขภาพของน้องที่มันไม่...คือเหมือนร่างกายของน้องตอนนี้น้ำหนักมันค้างอยู่ ขึ้นมาจากเดิม ค้างอยู่ประมาณ 14 กิโลกรัม ไม่ได้บอกว่าน้องอ้วน แต่ว่าน้องกำลังโตและวัยรุ่น เขาดูแลตัวเอง พอน้ำหนักเยอะเป็นปกติที่เครียด (นอยด์ไปเลยเหรอ?) ไม่ขนาดนั้น แต่ก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่”

หวั่นโรคแทรกซ้อน ซึมเศร้าไหม

“เรามีปรึกษาคุณหมอทางจิตเวชอยู่ตลอด คุณหมอบอกว่าน้องยังไม่ไปจุดๆ นั้น เอาจริงๆ แล้วก็เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอด”

ตอนนี้มีกระบวนการรักษายังไง

“จะบอกว่าหลายๆ ท่านที่ดูอยู่ ผมเชื่อว่าคนใกล้ตัวหรือตัวเองอาจจะมีค่าไทรอยด์ต่ำ อย่ายอมแพ้ ต้องสู้ เวลาไปหาคุณหมอ แพทย์ปัจจุบัน ส่วนมากคุณหมอจะให้ทานยา แต่ครอบครัวเราคิดว่าน้องอายุแค่ 14 ปี ถ้าเริ่มทานยา เขาบอกว่าถ้าเริ่มแล้วต้องทานตลอดไป ผมจะบอกว่าใจแข็ง ตรวจแล้วดูว่าร่างกายขาดสารอาหารอะไร เติมสิ่งที่ร่างกายขาด ใจเย็นๆ อยู่กับความเป็นธรรมชาติให้ได้ ร่างกายจะกลับมาเป็นปกติ แต่ถ้าใจร้อนรีบทานยา ก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่หยุดทาน แล้วค่าไทรอยด์ขึ้นมาอีก ก็ต้องทานอีก คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องใจแข็ง และอยู่กับวิธีธรรมชาติให้ได้”

ถ้าน้องรักษาตัวหาย ก็พร้อมสนับสนุนใช่ไหม

“ก็ ยังบอกไม่ได้ครับ แต่เราก็ทำเต็มที่ อย่างมิย่า (ลูกสาวคนที่2) เราก็ให้เขาทำสิ่งที่เขาชอบ ก็มีเส้นทางของเขาแล้ว อย่างเซย่าเราก็ฝากความหวังกับเส้นทางที่เขาได้ตัดสินใจเดิน ที่บ้านเราจะเลี้ยงลูกแบบให้น้องตัดสินใจเอง เราจะไม่บังคับ แต่จะคอยเดินตามอยู่ข้างหลัง ถ้ามีปัญหาจะช่วย คอยซัพพอร์ต”

ตอนนี้ลูกกำลังโต มีความกังวลเรื่องอะไรพิเศษไหม

“ผมว่าสถาบันครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราให้ความอบอุ่น ความใส่ใจได้ดีพอ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือเด็กๆ จะไม่ขาดความอบอุ่น แล้วจะไม่ไปตามหาความรักข้างนอกครอบครัว ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ จะทำให้เด็กมีเส้นทางเดินที่ถูกต้อง”

โอเพ่นเรื่องความรักของลูกใช่ไหม

“ก็ได้นะครับ ถ้าเจอน้องเซย่า ถามเรื่องความรัก เขาจะบอกเลยว่าเขาขอโฟกัสเรื่องเรียน การทำงานก่อน เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ถามว่าหวงไหม ก็หวง จะบอกว่าน้องๆ ที่บ้านเราสอนยิงปืน ดำน้ำได้ ขี่ม้าได้ เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว วิธีหรือสิ่งต่างๆ ที่เราให้เขาได้ทำกิจกรรมต่างๆ เหมือนเป็นการปลูกฝัง และสร้างมาตรฐานของเขา ให้มีมาตรฐานทำได้หลายๆ อย่าง ดังนั้นใครจะเข้ามาต้องมีสกิลหลายอย่างที่เข้ามาและใกล้เคียงหรือคุยกันรู้เรื่อง เรื่องสกรีนผมก็ระดับนึง แต่คุณแม่ก็ไม่เบาอยู่ (หัวเราะ)”

ขอบคุณ IG pete_thongchua.nmg

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ