“มิว ศุภศิษฏ์” เปิดตัวซิงเกิล 2 พร้อมประกาศ 5 บิ๊กโปรเจกต์ แฟนคลับให้กำลังแน่น
“มิว ศุภศิษฏ์” แจงสาเหตุเปลี่ยนผู้จัดการฯ ยันไร้ปัญหาส่วนตัว
โดยทาง Mew Suppasit Studio (สตูดูแลมิว) ได้ออกมาชี้แจง แต่ก็ยังเกิดการโต้เถียงในโลกออนไลน์ยาวนานหลายวัน เพราะมีบางส่วนเรียกร้องให้นักแสดงหนุ่มออกมาขอโทษ และบางส่วนก็ส่งกำลังใจให้ ล่าสุดวันนี้ ( 4 มี.ค.64) มิว ศุภศิษฏ์ พร้อม ทนายนิด้า - ศรันยา หวังสุขเจริญ ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงปมดราม่าดังกล่าว
มิว : ผมขอโทษทุกๆคนที่ลำบากใจกับเรื่องนี้ ขอโทษจากใจจริงครับ (ไหว้) สำหรับเรื่องที่ผ่านมามิวเสียใจมากจริงๆ เราไม่คิดว่าจะทำให้หลายๆคนได้รับผลกระทบวงกว้างขนาดนี้ ทำให้หลายๆคนต้องเสียใจ ทำให้คนรอบตัวของเราได้รับผลกระทบไปด้วย กับเหตุการณ์นี้สียใจมากจริงๆ ขอโทษทุกคนด้วยนะครับ (ไหว้)
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องบอกเจตนาตัวมิวสิควิดีโอที่คัฟเวอร์ของผมคือ Afterglow ได้ที่ลิขสิทธิ์มาจาก วอร์นเนอร์ฯ โดยตรง เจตนาของเราคือ เนื่องจากเรามีแฟนคลับต่างชาติจำนวนนึง อยากให้เขามาตามรอยเวลามาประเทศไทย อยากให้เห็นว่ามีมุมที่สวย น่าสนใจ เลยใช้คอนเซ็ปต์ สตรีทวอร์ค เดินเล่นในกทม. เบื้องหลังเป็นมุมต่างๆในกทม.”
ได้เห็นเอ็มวีที่บอกว่าคล้ายไหม
มิว : หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นมาก็ได้เข้าไปดู ตัวความคล้ายก็มีตามจุดที่แฟนๆได้แคปมาในทวิตเตอร์ มีโอกาสได้เข้าไปดู เราไม่มีเจตนาก็อปปี้หรือทำให้คล้าย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต้องขอโทษจริงๆครับ (ไหว้) พอทราบเรื่องก็ให้ทางทีมงาน ฝ่ายโปรดักชั่น ฝ่ายครีเอทีฟเข้าไปดูว่าคล้ายยังไงบ้าง ในตอนที่เราทราบเรื่องตอนแรก ผมรู้สึกว่าละเอียดอ่อนมาก เราต้องใช้เวลาไตร่ตรอง เรามีแถลงออกมา 3 ฉบับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ทนายนิด้า : ในส่วนของหนังสือชี้แจงที่ออกมา 3 ฉบับโดยทีมงาน เนื่องจากความไม่สบายใจจากเหตุการณ์ที่คนเข้าใจผิดว่านี่คือการก็อปปี้ผลงาน ทางเรายืนยันมาตลอดว่าไม่ได้มีเจตนาก็อปปี้ แต่สมมติว่าตัดมาช็อตต่อช็อตคล้ายคลึงกัน แต่ถ้ามองภาพรวม เอ็มวีมีความยาวประมาณ 5 นาที ถามว่าบนโลกนี้ในความคล้ายคลึงเกิดขึ้นได้ไหม เกิดขึ้นได้ วันนี้มานั่งพูดคนก็ไม่ยอมรับอยู่ดี อาจจะมองว่าไม่ควรบังเอิญ ซึ่งใดๆก็แล้วแต่ ดังนั้นน้องมิวก็ขอโทษที่ทำให้เกิความไม่สบายใจ หนังสือชี้แจงเบื้องต้นได้ทำการขอโทษ เราคงห้ามความคิดใครไม่ได้ว่าจริงใจหรือไม่จริงใจ แต่เมื่อรู้ว่าเกิดกระแสทางเราก็ลบเอ็มวีออกและออกหนังสือชี้แจง เราคิดว่าน่าจะเพียงพอต่อการกระทำที่เกิดขึ้น แต่ ณ วันนี้เป็นคำตอบทำให้เรารู้แล้วว่ามันไม่พอ เรื่องจริงใจหรือไม่จริงใจไม่อยากให้มองตรงนั้น ทุกอย่างที่ทำออกมาจากความจริงใจ ถ้ามองด้วยอคติก็จะยังไม่จริงใจอยู่ดี
วันนี้ในการแถลงข่าว เจตนาตั้งใจจริงเลย อยากออกมาขอโทษ ซึ่งน้องก็ทำไปแล้วว่าขอโทษที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ความไม่สบาย เราคุยกับน้องตลอด น้องและผู้จัดการปรึกษาตลอดว่าสิ่งที่น้องทำมันมีตรงไหนที่ผิด ซึ่งนิด้ายืนยันกับน้องเองว่าการกระทำแบบนี้ไม่ใช่การละเมิดลิขสิทธิ์เลย ไม่ผิดกฎหมายข้อไหนเลย วันนี้ทนายอยากถามเหมือนกันว่า นับจากนี้ต่อไปเราจะเอากฎหมายหรือความพอใจ ถ้าเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง วันนี้น้องอาจจะไม่ต้องขอโทษเลยก็ไม่ได้ เพราะในแง่มุมของกฎหมายของการละเมิดลิขสิทธิ์ไม่มีข้อไหนที่ผิดเลย ถ้าบอกว่าเราจะเอาความพอใจ หมายถึงในทุกๆเรื่อง วันนึงมีเหตุการณ์ที่มิผิดกฎหมายแต่ไม่พอใจ มีการกดดันให้คนออกมาขอโทษ เราจะให้สังคมออกมาแบบนี้หรือเปล่า ก็คุยกันมาตลอดว่าอันไหนถูกต้อง
นับตั้งแต่เกิดเรื่องเราไม่ได้ยินคำขอโทษจากน้องมิว จริงๆนิด้าเป็นคนเสนอและเป็นบอกน้องเองว่าไม่อยากให้น้องขอโทษจากการกระทำครั้งนี้ เพราะมองว่าไม่ได้ผิดกฎหมายและการที่ทางค่ายได้ทำการลบเอ็มวีและออกหนังสือชี้แจง ถ้านี่คือบทลงโทษคิดว่ามันน่าจะเหมาะสมที่ทุกคนน่าจะรับได้ ถ้าทุกคนยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ ชี้มาว่าต้องเป็นที่ตัวมิวเท่านั้น จะทำอะไร กับใคร ก็ต้องมาดูว่ายุติธรรมกับมิวไหม”
กับคอนเซ็ปต์เอ็มวี
มิว : สำหรับเรื่องคอนเซ็ปต์เอ็มวี เรื่องลุคหรือคาแร็กเตอร์ บอกเลยว่าเราคิดไม่ละเอียดเลย เพราะสีผมตอนนั้นเป็นสีนั้นจริงๆ ไม่ได้ทำใหม่ ทำมาตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว ใช้ถ่ายเอ็มวีเพลงที่สามของผม ซึ่งสีผมมันเฟดลง เราไม่ได้ตั้งใจ เรื่องทุนต่างๆเราใช้น้อยมากๆ ใช้กล้อง 1 ตัวตามถ่าย ลุคเลยอยากได้สบายๆ คอสตูมจัดมาให้
ส่วนสตอรี่บอร์ด ผมให้เรฟเฟอร์เรนซ์เพลง i love you 300 ไป ทางทีมไปหาเพิ่มอีก 3 เพลง ซึ่งผมเป็นแฟนคลับของ Boyce Avenue เลยบอกว่ามีเพลง Torn นะที่มันคล้ายที่ถ่ายที่ออสเตรเลีย ซึ่งสตอรี่บอร์ดวางไว้แค่โลเคชั่นในการถ่ายว่าไปที่ไหนบ้าง ยืนยันว่าไม่ได้เรฟเฟอร์เรนซ์มาจากเพลง I Like Me Better
สำหรับความรู้สึกแรกที่ได้เห็นเอ็มวีของเขา รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆ การเดินบนถนน การถ่ายกับถสานที่ต่างๆ มันเป็นสิ่งที่เราทุกคนทำอยู่แล้ว ท่าเดิน ท่าโพสต์ต่างๆ ต้องบอกว่าท่าโพสต์มีเยอะมาก แต่ถ้าท่ามันสวยจริงๆ ถ่ายรูปแล้วสวยหรือเหมาะกับตัวเอ็มวี เป็นภาพจำของทางตากล้องอยู่แล้ว เขาจะรู้ว่ามุมนี้สวยสิ ลองถ่ายแบบนี้สิ เช่นตัวสะพานถ้าถ่ายจากด้านหน้าก็เห็นแม่น้ำอยู่แล้ว
ทนายนิด้า : ในแง่ของนิด้าก็มองว่าเข้าข้าง ถ้าถ่ายแนวสตรีทวอร์คถ่ายได้สักกี่แบบ มันก็ไม่หนีกัน เดินข้ามถนนไปมา เดินเล่นว่าไป ในช็อตของสะพาน มันถ่ายได้สักกี่แบบ ถ่ายด้านหลังก็ไม่เห็นแม่น้ำอยู่แล้ว มันถ่ายได้แค่มุมเดียว ที่คนเปรียบเทียบมีสักกี่ท่าที่น่ารัก ชูสองนิ้ว ก็อปปี้มาแล้วกี่คน มันคล้ายกันมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ พอวันนี้ออกมาเรียกร้องติดแฮชแท็กมิวก็อป เราเข้าใจคำว่าก็อปปี้ได้ดีแค่ไหน เราเข้าใจคำว่าละเมิดลิขสิทธิ์แค่ไหน อะไรที่กฎหมายคุ้มครอง ไม่คุ้มครอง ลิขสิทธิ์ในประเทศไทยลอกมากจาต่างประเทศ ต่างประเทศก็ใช้กฎหมายอันนี้ เรามองว่านี่คือสากลที่สุดแล้ว เอามาเทียบซ็อตถ้ามองว่าเหมือนก็เหมือน แต่นั่นไม่ใช่การละเมิดลิขสิทธิ์ และนี่ไม่ใช่ช่องว่างของกฎหมาย ของแบบนี้สามารถบังเอิญและเกิดขึ้นได้ ซึ่งไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์”
ตอนที่ดูสองเอ็มวีนี้เรามีความเอะใจไหมว่าคล้ายกัน
มิว : ความรู้สึกด้านมูสแอนด์โทน ต้องบอกว่าคล้ายกันทุกเอ็มวีเลยที่เรฟฯมาแล้ว ซึ่งน่าจะไปคล้ายทางที่เราเรฟฯมามากกว่า เพราะเราตั้งมูสแอนด์โทน เซ็ตต่างๆคล้ายแบบเขา เราไม่ได้ก็อปเราใช้เป็นเรฟเฟอร์เรนซ์มากกว่า ส่วนเอ็มวีของทาง แจฮยอน เพิ่งมาได้ดูหลังจากที่เกิดเรื่อง จริงๆ ช่วงเวลาที่เกิดเรื่องผมเสียใจมาโดยตลอด เราโดนโจมตีเราเสียใจอยู่แล้ว แต่มันกลายเป็นว่าคนที่เรารักรอบตัว แฟนๆของเรา แฟนๆของคนอื่นด้วย เกิดความขัดแย้งขึ้นมา ทุกอย่างยิ่งดิ่ง ผมเสียใจมาก จึงออกมาขอโทษวันนี้
ที่ไม่ได้ออกมาก่อนหน้านี้ อยากที่ทนายบอกว่าเราปรึกษาทนายมาตลอดเวลาที่เราควรออกมาคือเมื่อไหร่ คือผมอยากออกมานานมากๆแล้ว เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ มีผลกระทบต่อคนหมู่มากจริงๆ ไม่สามารถคิดและออกมาทำเลยได้
พอทราบเรื่องเราก็ลบเอ็มวีออกเลย ส่วนที่บอกว่าจะปรับปรุงเอ็มวีนั้น คือเราได้รับโจทย์จากทางวอร์นเนอร์ฯ ให้ร้องเพลงนี้ เลยคิดอยู่ว่าจะดัดแปลงหรือเปลี่ยนรูปแบบไปเลย ส่วนเรื่อง สตรีทวอร์ค ครีเอทีฟเป็นคนคิด ทิศทางตอนนี้คาดว่าจะเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ไปเลย
วันนี้ตั้งใจออกมาขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบ ต่อไปจะระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก อยากบอกถึงแฟนๆทุกคน ไม่ใช่แค่แฟนคลับผม ผมเข้าใจทุกคนจริงๆ ทุกคนรักศิลปินของตัว คาดหวังให้ศิลปินของตัวเองไปในทางที่ดี ขอบคุณที่ทุกคนคอยสนับสนุนมาโดยตลอด ผมบอกกับแฟนคลับผมเสมอว่าความรักที่ทุกคนให้มา การสนับสนุนของทุกคนทำให้เราสามารถสร้างผลงานต่อไป เป็นแรงบันดาลใจให้พัฒนาตัวเอง
ในเรื่องของ “แจฮยอน” เสียใจมากจริง ๆ ที่เราดึงเขาไปเกี่ยวข้องด้วย ต้องขอโทษเขาจริงๆ ที่เอาชื่อเขามาเกี่ยวข้องด้วย
สำหรับวันนี้ที่ออกมาขอโทษ เพราะรู้สึกผิดมากจริงๆ ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก อยากขอโทษแฟนคลับทั้งสองฝ่าย และทุกๆคนที่เกิดความไม่สบายใจ ขอโทษคนรอบตัวที่ต้องมาทุกข์ร้อนกับเรื่องนี้ด้วย”
ส่วนประเด็นที่โดนขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีต มิว เผยว่า มันค่อนข้างหลุดจากประเด็นไปไกล แต่ก็ว่าอะไรใครไม่ได้ พร้อมทั้งแจงถึงปมดราม่าถูกขุดคลิปเก่า อาร์ต ภาคภูมิ อดีตคู่จิ้นจากซีรีส์เรื่อง What The Duck รักแลนดิ้ง ออกมาไลฟ์สด จนมองว่ามีปัญหากันนั้น มิว เผยว่า
“ผมกับอาร์ตจบกันด้วยดีมากๆ เป็นพี่เป็นน้องกันที่เจอตามงานสามารถพูดคุยกันได้ตามปกติ เราไม่อยากกลับไปพูดเรื่องที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปที่แชร์ หลังจากนั้นก็ได้มีการปรับความเข้าใจ คุยกันเรียบร้อย สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากการใช้อารมณ์ และก็ใช้สื่อโซเชียลในทางที่ผิด หลังจากนั้นเรามีงานต่อๆมา ซึ่งความสัมพันธ์เราดีอยู่แล้ว”
ด้าน ทนายนิด้า เผยถึงกระแสแฮชแท็กต่างๆว่า “ไม่อยากใช้คำว่าคุกคาม แต่มันเป็นการละเมิด ศิลปินทุกคนอยู่ในสื่อ พึ่งพาในการสนับสนุน แต่ขณะเดียวกันก็ทำลายได้เหมือนกัน เรื่องฟ้องร้องไม่มีอยู่แล้ว ยังไม่ได้มีการคุยกันเรื่องนี้ หลักๆวันนี้มาดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ ซึ่งไม่เคยเจอน้องมิวมาก่อน แต่หลายคนที่ด่าไปถึงพ่อแม่ก็อาจจะลิสต์รายชื่อเอาไว้ รวมถึงการใช้คำว่า SexualHarassment ที่เป็นการปรักปรำขั้นรุนแรง โดยที่ไม่มีความจริงเลยก็อยากให้ยุติ ไม่อย่างนั้นคงต้องปกป้องชื่อเสียงของศิลปิน”