อายุไม่ใช่อุปสรรค “เอ้ ชุติมา” เตรียมหมั้นแฟนหนุ่มอายุห่าง 31 ปี
ห่างกัน 31 ปีไร้ปัญหา “เอ้-ชุติมา” เปิดเคล็ดลับมัดใจแฟนเด็ก
ความรักไปไม่รอดเจออาถรรพ์ 7 ปีอีกคู่ สำหรับดาราดีกรีอดีตนางงาม “เอ้ – ชุติมา นัยนา” ที่คบหาดูใจกับแฟนหนุ่มอายุห่าง 31 ปี “ฟร้อง ศุภกิจ” มาเกือบ 7 ปี ที่ผ่านมามีข่าวระหองระแหงหลายหน แต่ทั้งคู่ก็ปรับจูนจนเข้าใจกัน
แต่ล่าสุด “เอ้” ที่ประกาศเป็นนัยๆ ว่าโสดแล้วผ่านโซเซียล ก็ออกมาเปิดใจกับทางวันบันเทิง ยอมรับว่าเป็นฝ่ายบอกเลิกฝ่ายชาย พร้อมเผนสาเหตุที่ยอมถอยออกมา โดยเผยว่า
“สภาพจิตใจตอนนี้ โอเคแล้วค่ะ พร้อมให้สัมภาษณ์ ที่ผ่านมามีนักข่าวติดต่อมาเยอะมาก ก็ไม่ได้ไม่อยากให้สัมภาษณ์นะแต่ไม้พร้อมจริงๆ สุขภาพจิตสุขภาพใจมันแย่ ตอนนี้พร้อมแล้ว มูฟออนแล้ว แข็งแรงแล้ว ก็ใช้เวลาอาทิตย์นึง คือจริงๆ ทำใจไว้เป็นปีแล้วแต่ว่ามูฟออนจริงๆ จะพยายามไม่คิดอะไรแล้ว ดีขึ้น ก็คือหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ที่ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ ใช้ชีวิตกับธรรมมะหรือว่ากับเพื่อนๆ
6 ปีที่อยู่กับแฟนเราอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง อยู่ด้วยกันทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด พอช่วงเวลาที่ไม่มีเขาแล้วมันเคว้ง บ้านหลังเดิมเขาออกไปแล้ว ตรงนั้น ตรงนี้ ก็มีเขา เราจะจำภาพเขาหมด เราก็เลยไม่เข้าบ้านหลังนั้นเลย ถามว่าอะไรเป็นสัญญาณให้ทำใจมาปีนึง คืออย่างที่ออกรายการทุกรายการพี่เป็นคนตรงมาก บอกแล้วว่าด้วยวัยที่ต่างกัน 31 ปี ยังไงมันต้องมีวันนี้แน่นอน ด้วยเขาอยากจะมีครอบครัว จะอะไรของเขา แต่เราก็ไม่นึกว่ามันจะขึ้นในปีนี้ มันเร็วเกินไป แต่เราก็ทำใจมาตลอด
เรื่องนึงที่ทำให้พี่ทนไม่ได้แล้วขอเลิกกับเขา พี่เป็นคนขอเลิกเขาเอง นั่นคือเรื่องที่เขาดื่ม เที่ยว แฮงเอาท์กลางคืนถึงเช้าทุกวัน นั่นคือสิ่งที่พี่รับไม่ได้จริงๆ พี่บอกเขามาเป็นปีแล้ว ให้เปลี่ยนพฤติกรรมแบบนี้บ้าง แล้วการที่ผู้ชายเที่ยวกลางคืนก็มีเรื่องผู้หญิงตามมาอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ มีคนรายงานเราเยอะมาก แล้วก็มีผู้หญิงคนเก่าของเขาด้วยที่มีปัญหากับพี่เมื่อปีที่แล้ว ก็แล้วแต่เขา คือตอนนี้เราไม่มีสิทธิ์ไปห้ามน้องหรือไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งแล้ว เพราะน้องเขาเลิกกับเราแล้ว มันเป็นชีวิตของน้องแล้ว เพียงแค่เราห่วง ห่วงอยู่ห่างๆ อยากให้เขาเจอคนที่ใช่ คนที่ดีคนที่รักน้องเหมือนที่เรารัก ชีวิตคู่มันมีอะไรหลายๆ อย่าง มันมีเรื่องอนาคต
ตอนที่พี่บอกเลิกเขา น้องก็ไม่เลิกค่ะ คือที่ผ่านมาบอกเลิกกันบ่อยมาก พี่ไม่เคยไปได้สักทีพี่ไม่เคยเอาตัวเองมูฟออกจากบ้านได้ แต่ครั้งนี้พี่เอาจริงมาก บอกเลิกเสร็จก็ร้องไห้กอดเขา วันนั้นเป็นวันที่พี่ร้องไห้หนักมาก เขาก็งงทำไมพี่ร้องเยอะ เราก็บอกเขาว่ามันถึงเวลาแล้วเนอะ เขาก็คิดว่าพี่พูดเล่น เขาไปเรียนพี่ก็เก็บของออกจากบ้านเลย หลังจากวันนั้นจนวันนี้พี่ก็ยังไม่เคยเข้าบ้านอีกเลย
เราไม่ได้ใจร้ายนะ เราไม่ได้ทิ้ง เราบอกเขามาตลอดว่าเขาควรจะเปลี่ยนพฤติกรรม ถ้าไม่เปลี่ยนเอ้จะถึงจุดๆ นึงที่เอ้จะต้องไป เพราะไม่อยากย่ำยู่ที่เดิมแล้วไม่อยากสู้รบตบมือกับผู้หญิง เบื่อ ตอนนี้ถ้าเขาจะมีชีวิตใหม่มันเป็นเรื่องของเขาแล้ว เราไม่สามารถไปยุ่งได้ เขาจะคบใครก็เรื่องของเขาแล้ว จะผิดจะถูกนั่นคือน้องเลือกเอง
วันนี้เราเป็นกัลยาณมิตรที่ดี ถ้าน้องแต่งงานหรือน้องมีครอบครัวเราก็ยินดีพร้อมจะไปงาน เพราะก็เหมือนครอบครัว เราก็ไม่รู้ในอนาคตน้องเขาจะเชิญหรือเปล่า ถึงตอนนั้นเราอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้ น้องเพิ่ง 24 เอง (หัวเราะ) เราอยากเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะแฟนเก่าๆ ของพี่ เราก็เป็นเพื่อนกันหมดนะ พี่นิสัยผู้ชายนะแมนๆ อดีตก็คือจบ พี่เป็นคนที่จบแล้วจบเลย ไม่ใช่จบแล้วยูเทิร์นกลับมา หลายคนบอกว่าถ้าน้องมาง้อหรือว่าอะไรจะกลับไหม ไม่กลับแล้วค่ะ เป็นคนที่มูฟออนแล้วไปเลย
ถามว่าเขาง้อไหม ง้อค่ะ ง้อเยอะมาก เขารู้ว่าเขาผิด เขาง้อทุกอย่าง แต่เรากลัวไง เรากลัวกลับไปแล้วก็เหมือนเดิม สู้เจ็บครั้งเดียวตอนนี้ดีกว่าเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ็บแล้วต้องจบ พี่ไม่โกรธนะ ถ้าครั้งนี้พี่พูดแล้วจบด้วยดี ไม่ต้องมายืดยาว อยากมองที่เรื่องบวกของพวกเรา จดจำแต่เรื่องดีๆ อย่ามีปัญหาต่อเนื่องอีก ตอนนี้อยู่ในโหมดใจดีมาก โหมดจบด้วยความยุติธรรม โหมดจบด้วยความดี ดังนั้นอยากให้จบกันด้วยดีจริงๆ เพราะเราก็หวังดีกับน้อง อยากให้น้องมีความสุขจริงๆ ถามว่าเจ็บไหมก็เจ็บ น้องเขาก็เจ็บ
เรื่องความรักครั้งใหม่ เรายังไม่พร้อม เรายังไม่มีใคร แต่ถามว่ามีคนจีบเยอะไหม คนจีบเยอะมาก เราก็ไม่นึกว่าเราจะฮอตขนาดนี้ อาจจะเพราะเราผอมลงด้วยมั้ง สวยขึ้น (หัวเราะ) คนก็เลยเข้ามา เราเลือกที่จะคุยมากกว่า อีกอย่างเราไม่รีบ ยังไม่พร้อมจะมีแฟน ไม่พร้อมจะนับหนึ่งกับใคร
ขอเวลา 1 ปีเพื่อรักตัวเอง จะทำตัวเองให้สวยมากๆ ปีนี้ทำงานเยอะมาก ละคร 4 เรื่อง มีขึ้นคอนเสิร์ตด้วย แล้วก็จะมีเซอรไพรส์ที่เอ้ไม่เคยถ่ายชุดนี้เลยในชีวิต (ชุดว่ายน้ำ?) รอดูๆ แซ่บมาก แล้วก็ตัดผมบริจาคให้คนที่เป็นมะเร็งด้วย ทำทุกอย่างให้เป็นบุญเป็นทาน แล้วก็ทำให้ตัวเองค่ะ จากที่ไม่เคยรักตัวเองเลย ที่ผ่านมาปล่อยตัวเองอ้วน โทรม ไมได้ดูแลตัวเองเท่าไหร่ นี่กลับมารักตัวเอง ชอบมากที่ไปไหนคนชมว่าผอม สวย ที่ทำให้ตัวเองสวยขึ้นไม่ได้เพื่อให้เขาเสียดายนะ แต่ให้ตัวเองภูมิใจ
ถามว่าเข็ดไหมกับเด็ก ไม่เข็ด (หัวเราะ) แต่ไม่เอาวัยรุ่นอย่างนั้นแล้ว ขอ 30 ขึ้นไปนะ 40 ขึ้นไป มีลูกก็ไม่ติดค่ะ ขอให้เป็นคนทำงาน อย่าเที่ยวเยอะ อย่าดื่มเยอะ ความรักที่ผ่านมาทำให้เราเรียนรู้เยอะมาก อย่างการคบเด็กอายุน้อยกว่าต้องเข้าใจวัยเขาด้วย มันกลายเป็นเราทิ้งชีวิต ทิ้งเวลาของเรา ไปอยู่กับน้องเขา แล้วพอถึงวันที่เขามูฟออนไป เราอายุมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะลำบากมาก การที่จะเริ่มนับหนึ่งกับใคร จริงๆ ต่อให้อายุเยอะมันก็ไม่ได้ยาก แต่มันยากตรงอายุที่เราจะไปนับหนึ่ง เบื่อกับการนับหนึ่งมาก กว่าจะเรียนรู้ กว่าจะรักกันแล้วมูฟไป รู้สึกเบื่อ แล้วเราเป็นคนซื่อสัตย์ เป็นคนที่ดูเหมือนซ่า ดูเหมือนเปรี้ยว แต่หัวโบราณรักใครรักคนเดียว
ตอนนี้ก็ยิ้มได้แล้ว สบายแล้ว แฮปปี้ รักตัวเองมากๆ แล้วอยากจะบอกหลายๆ คน ถ้าใครมีปัญหาชีวิตแบบเอ้ เอ้อาจจะขึ้นมาเป็นคอนเทนต์ให้คนหลายคนที่ทำไมมูฟออนเร็วมาก หลายคนติดอยู่กับความมูฟออน การมูฟออนของเราก็คือรักตัวเองให้เป็น รักตัวเองให้มาก อยู่กับตัวเองแล้วก็คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ข้างหลัง ทำงานเก็บเงิน สวย รวย เริ่ด แซ่บ
ถ้ามีคนเข้ามาก็ต้องเลือก เพราะไม่รีบ เพราะรีบแล้วกลัวพลาด พอพลาดแล้วคนรักเราก็เยอะ คนเกลียดเราก็แยะ ก็โดนซ้ำไง พวกให้กำลังใจก็คือคนรักเรา แต่บางคนไม่รู้จักเราก็สมน้ำหน้า ด่าโน่นนี่ บางทีด่าหยาบด้วย พวกที่ด่า ที่บูลลี่ ฟังนะหูอย่าเอาไว้ขั้นสมองอย่างเดียว ฉันแจ้งความ ฟ้องหมิ่นประมาท ฟ้องกลับเยอะหลายคน เรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานจะมีหมายไปที่บ้าน ต้องจ่ายเงิน ด่าได้ก็ต้องมีเงินนะ
ถามว่าฝากอะไรถึงน้องเขา ก็ฝากให้มีความสุขมากๆ ขอบคุณใน 6 ปีที่ดูแลกันและกันมา อะไรที่ไม่เข้าใจกันก็ถือเป็นความทรงจำไม่ดีก็ให้มันจบไป แต่อะไรที่เป็นความทรงจำดีๆ ก็ให้เก็บเอาไว้ด้วยกัน ขอให้น้องเจอแต่สิ่งดีๆ โชคดี มีอนาคต เรียนหนังสือให้จบเหลือแค่ 4 ตัวเอง ดูแลตัวเอง รักตัวเองเยอะๆ ขอให้มีความสุข”
