เมื่อเดือน พ.ค. 2022 มีข่าวว่า “บรูซ วิลลิส” นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง ซึ่งมีผลงานเป็นที่จดจำหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Die Hard หรือภาพยนตร์โลกแตกอย่าง Armageddon ต้องประกาศถอนตัวจากงานแสดงทั้งหมด หลังมีภาวะ “อะเฟเซีย (Aphasia)” หรือภาวะบกพร่องในการสื่อสาร
แต่ล่าสุดอาการป่วยของวิลลิสเหมือนจะแย่กว่านั้น เมื่อทางครอบครัวของเขาออกมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) ว่า บรูซ วิลลิส ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็น “โรคสมองส่วนหน้าเสื่อม (Frontotemporal Dementia; FTD)”
ครอบครัวบอกว่า ภาวะอะเฟเซียของวิลลิสเป็นอาการส่วนหนึ่งของโรคจริง ๆ ที่เขากำลังเผชิญ “แม้นี่จะเป็นเรื่องเจ็บปวด แต่อย่างน้อยเราก็โล่งที่ได้รู้ผลการวินิจฉัยโรคที่ชัดเจน”
ครอบครัวกล่าวต่อว่า “FTD เป็นโรคที่โหดร้ายที่พวกเราหลายคนไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนด้วยซ้ำ และมันเป็นโรคที่สามารถเกิดกับใครก็ได้ สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี FTD เป็นรูปแบบหนึ่งของภาวะสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยที่สุด และเนื่องจากการวินิจฉัยโรคอาจใช้เวลาหลายปี FTD จึงมีแนวโน้มที่จะแพร่หลายมากกว่าที่เราทราบ”
ข่าวร้ายสำหรับเรื่องนี้คือ “ทุกวันนี้ไม่มีวิธีรักษาโรค FTD นี้ แต่เราหวังว่าในอีกหลายปีข้างหน้ามันจะมีความเปลี่ยนแปลง ... เราหวังว่าสื่อทุกแขนงจะมุ่งเน้นไปที่การรายงานเกี่ยวกับโรคนี้ ซึ่งต้องการความตระหนักและการวิจัยมากกว่านี้”
ครอบครัวกล่าวในถ้อยแถลงว่า “บรูซเชื่อในเรื่องของการใช้เสียงของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น และเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประเด็นสำคัญทั้งในพื้นที่สาธารณะและส่วนตัว”
พวกเขาเสริมว่า “เรารู้ดีว่า ในวันนี้ ถ้าเขาทำได้ เขาจะต้องการดึงความสนใจจากทั่วโลกและพยายามสื่อสารเรื่องราวของผู้ที่เผชิญกับโรคที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมนี้ และผลกระทบต่อบุคคลและครอบครัวของพวกเขา”
ภาวะสมองส่วนหน้าเสื่อมนั้น เป็นกลุ่มอาการผิดปกติที่เกิดจากเซลล์สมองในสมองส่วนหน้า (หลังหน้าผาก) หรือกลีบขมับ (หลังหู) เกิดความเสื่อมหรือถูกทำลาย อาการมักเกิดขึ้นระหว่างอายุ 45-64 ปี
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP