“ท็อป จรณ” อดีตเคยติสท์ ผันตัวเป็นอิสระเปิดมุมมองใหม่ เล่าอาการป่วยถึงขั้นต้องพักงาน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

นักแสดงหนุ่ม “ท็อป - จรณ โสรัตน์” เล่าเรื่องราวการเป็นนักแสดง จาหนุ่มสายติสท์ ขี้อาย สู่การตกลหุมรักงานแสดง พร้อมเผยถึงอาการป่วย

“ท็อป จรณ” ฝ่ามรสุมชีวิต เผยอาการป่วยต้องหยุดรับงานและเสี่ยงซึมเศร้า

“ลำเพลิน” กราบเท้า “ครูสลา” น้ำตาไหล 7 ปี เพิ่งรู้ความจริง ให้โอกาสเป็นศิลปิน

หลังจากที่นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ “ท็อป - จรณ โสรัตน์” ผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระ แต่ก็ต้องหยุดพักงานหน้าจอไปพักใหญ่จาการเผชิญอาการป่วยโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทขั้นรุนแรง

โดยหนุ่ม “ท็อป” ได้มาเปิดใจใน รายการ “Rise & Shine ชีวิตดีเริ่มที่ตัวเรา” ทาง พีพีทีวี ช่อง 36 พูดคุยหมดเปลือกกับ “นิหน่า สุฐิตา” พิธีกรคนเก่ง ซึ่งนอกจากเล่าอาการป่วยแล้ว ดาราหนุ่มยังเล่าถึงการทำงานในวงการบันเทิง จากความไม่ชอบสู่การตกหลุมรัก 

เขาเริ่มเล่าว่า “ตอนนี้ผมเป็นนักแสดงอิสระ การทำงานก็ต่างหมดทุกอย่างตั้งแต่รับงานเอง ประเภทของงานก็แตกต่างเยอะ ที่คนบอกว่าเมื่อก่อนเป็นสายติสท์ ก็เรื่องจริง (หัวเราะ) ต้องบอกว่าเพราะสมัยก่อนเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่กับตัวเอง จะมีพาร์ทนี้ค่อนข้างเยอะ แล้วเป็นคนก็จริงจังกับการทำงานมาก ต้องทำออกมาให้ดี เคยทำแล้วก็ไม่อยากทำอีก ก็ไม่รับงานแต่ตอนนี้ไม่ติสท์แล้ว

ส่วนนึงจุดเปลี่ยนมันเป็นเรื่องของประสบการณ์ด้วย โตขึ้นด้วย แล้วก็การออกมาเป็นนักแสดงอิสระ ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ การทำงานใหม่ๆ เห็นพี่ๆ ในวงการเก่งและสนุกกับงาน บางทีเราก็อยากเก่งและสนุกเหมือนพี่ๆ คนอื่น ก็ทำให้เปิดใจมากขึ้นว่าเราไม่ได้เป็นแค่นักแสดง เราสามารถมอบความสนุกในรูปแบบอื่นๆ ให้คนดูได้

ผมเริ่มเข้าวงการตั้งแต่ 19-20 ปี ถ่ายโฆษณา จริงๆ ตอนแรกผมไม่ชอบนะ ผมขี้อาย ให้ไปยืนหน้ากล้องก็ไม่เอา ถ่ายรูปก็ไม่เอา แต่ผมเกรงใจ ไม่รู้ปฏิเสธผู้ใหญ่ยังไง ก็เลยทำ จนเริ่มชิน ถามว่าอะไรที่ทำให้ตกหลุมรักวงการบันเทิง จริงๆ ตอนแรกผมไม่เข้าใจนะ แต่พอเจอความกดดัน เหมือนได้เผชิญความท้าทาย พอผ่านมันได้ ทำได้ จะได้รับคำชมไหมไม่รู้แต่มันเหมือนมันสะใจว่าทำได้ ก็เลยชอบ

ผมทำงานในวงการมาหลายรูปแบบ แต่ที่ชอบที่สุดคือ “การเล่นละคร” มีความเข้าใจในการแสดงประมาณนึง มันเป็นช่วงเวลาที่ยังมีความสงสัยกับการแสดงอยู่ ยังอยากทำให้ทุกคนมีความประทับใจ ยังต้องพยายาม มันท้าทาย รู้สึกสนุกมากๆ กับบทบาทที่ได้รับ ตื่นเต้นทุกวันเลย  

สิ่งที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำในวงการ จริงๆ มีความฝันตั้งแต่เด็กแต่ล้มเลิกไปนานแล้ว คือผู้กำกับ และพิธีกร ก็กำลังพยายามศึกษาอยู่ครับ แล้วผมก็อยากทำพอดแคสต์”

จากนั้นได้เผยถึงอาการป่วยที่จ้องเผชิญ จนต้องพักงาน “ผมมีปัญหาเรื่องสุขภาพ คือ หมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท แต่ผมเป็นตรงคอ ผมต้องพักไปประมาณเดือนกว่า เกือบ 2 เดือน ผมเล่นซีรีส์แอคชันตอนถ่ายรู้สึกตัวนิดนึง แต่ตอนนั้นคิดว่าตัวเองแข็งแรงและคิดว่าคงกล้ามเนื้อกระตุกเดี๋ยวก็หาย แต่หลังจากนั้นมันช้าเลย ร่างกายเรามันช้ากว่าหัว แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร

แล้วก็ไปวิ่ง พอวิ่งเสร็จก็ปวดคอ แต่พอหยุดวิ่งมันไม่เป็นไร ก็เลยคิดว่าไม่วิ่งก็ได้ ก็เดิน ตกเย็นก็เริ่มปวดแขนแล้วมันก็เริ่มชา ตอนเช้าเลยจะไปหาหมอ แต่ก่อนจะไปหาหมอเข้าไปอาบน้ำก่อน จะแปรงฟัน มันก็ปวดแขนมาก จนยกไม่ไหว มันเป็นความเจ็บปวดที่มันหยุดไม่ได้ แล้วมันต้องลิ้มรสความเจ็บปวดไปเรื่อยๆ

ซึ่งจริงๆ คนเป็นโรคนี้เยอะมาก ตอนแรก หมอให้เลือก ผ่า หรือกายภาพ คือเบื้องต้นให้กายภาพก่อน แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็ผ่าตัด เราก็กายภาพไป ส่วนสิ่งที่หมอห้ามตอนนั้นเลย ข้อแรกคือห้ามเล่นโทรศัพท์เยอะ แล้วก็ต้องเปลี่ยนลักษณะท่าทางหลายอย่าง แล้วก็กิจกรรมหลายอย่างที่ต้องทำ อย่างเล่นเล่นบาส ต่อยมวย ยกเวท ไม่ได้ มันทำให้รู้สึกหงุดหงิดมาก เกือบซึมเศร้ามากเลยนะ เพราะผมเป็นคนออกกำลังกายตลอด คือ 6 โมงจนถึง 11 โมง กลับมาแล้วก็พักแป๊ปนึง แล้วตอนเย็นก็ไปเล่นบาส อะไรต่อ ตอนนี้ถึงแม้เราจะเล่นกิจกรรมที่รุนแรงและหนักๆ ไม่ค่อยได้ แต่ผมก็ใจสู้นะ คิดว่าโอเคเราวิ่งไม่ได้ใช่ไหม งั้นเราเดิน คนที่เป็นจะรู้เองว่าตอนนี้เราไหวแค่ประมาณไหน บางกิจกรรมคิดว่าทำไม่ได้ แต่เราทำได้ก็ได้ กับผลงานแสดง ผมก็ขอฝากซีรีส์ ซิตคอม หรืองานอื่นๆ ของผมด้วยนะครับ หลังจากนี้รับรองว่าได้ชมกันยาวๆ” 

Bottom-PL-24 Bottom-PL-24

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ