ถือเป็นข่าวเศร้าวงการเพลงหลังมีรายงานว่า “ชรินทร์ นันทนาคร” เจ้าของรางวัลศิลปินแห่งชาติประจำปี 2541 เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อเวลา 02.21 น. ของวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ณ โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร สิริอายุ 91 ปี
โดย “ชรินทร์ นันทนาคร” ถือเป็นหนึ่งในบุคลากรทางดนตรีทรงคุณค่าคนหนึ่งของประเทศไทย ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็น “ศิลปินแห่งชาติ” สาขาศิลปะการแสดง เพลงไทยสากล - ขับร้อง ประจำปี 2541
ชรินทร์ นันทนาคร เกิดเมื่อวันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 2476 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศสยาม ศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนดาราวิทยาลัย จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ และโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ กรุงเทพมหานคร
“ธรรมนัส” ประกาศอิสรภาพ! ลั่นรับใช้คนหนึ่ง 6 ปีมากพอแล้ว
สิ้น “ชรินทร์ นันทนาคร” ศิลปินแห่งชาติ นักร้องลูกกรุงเสียงทอง ในวัย 91 ปี
“ลุงป้อม” ประกาศพรรคพลังประชารัฐ ร่วมรัฐบาล"แพทองธาร"
ชรินทร์ เริ่มฝึกหัดร้องเพลงกับ ไสล ไกรเลิศ และเริ่มร้องเพลงสลับละครเวทีเรื่อง นางไพร เมื่อปี 2492 ด้วยเพลงดวงใจในฝัน และเริ่มบันทึกแผ่นเสียงจำหน่ายเป็นครั้งแรก ตามด้วยเพลง อิเหนารำพัน เมื่อปี 2494 จากนั้นย้ายกลับไปที่เชียงใหม่ ทำงานที่บริษัทกมล-สุโกศล สาขาเชียงใหม่
ไม่นาน สำนักงานใหญ่บริษัทกมล-สุโกศล เรียกมาทำงานที่ กทม. ในตำแหน่งแผนกบัญชี แผนกต่างประเทศ ไปจนถึงแผนกแผ่นเสียง จากนั้นทำงานเป็นเลขานุกรมที่องค์การยูซ่อม (USOM)
โดยผลงานของ ชรินทร์ นันทนาคร ที่สร้างชื่อเสียงเป็นที่นิยมสูงสุด ได้แก่ เพลงเรือนแพ, มนต์รักดอกคำใต้, หยาดเพชร, อาลัยรัก, ทาษเทวี, เด็ดดอกรัก, ผู้ชนะสิบทิศ, ที่รัก, นกเขาคูรัก, แสนแสบ, ท่าฉลอม, สักขีแม่ปิง, ทุยจ๋าทุย, เพราะขอบฟ้ากั้น, และอีกมากมาย
นอกจากผลงานเพลงแล้ว ชรินทร์ ยังฝากผลงานการแสดงภาพยนตร์เอาไว้หลายเรื่อง เช่น สาวน้อย, สิบสองนักสู้, เงิน เงิน เงิน, ละครเร่, สวรรค์วันเพ็ญ, เรือมนุษย์, รักเธอเสมอ, คนใจบอด, และน้ำผึ้งพระจันทร์
ชรินทร์ ได้รับรางวัลพระราชทานแผ่นเสียงทองคำจากเพลง อาลัยรัก ก่อนจะผันไปเป็นผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ เมื่อปี 2508 มีผลงานในฐานะผู้ผลิตภาพยนตร์ทั้งหมดกว่า 19 เรื่อง โดยมีภาพยนตร์เรื่อง รักข้ามคลอง ที่ทำรายได้สูงที่สุด และภาพยนตร์ แผ่นดินแม่ ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของประเทศไทยที่สร้างในระบบ 70 มม. แต่หลังจากนั้นก็เลิกทำหนังไปเหตุเพราะวงการหนังที่เปลี่ยนไปจึงเกิดความเบื่อ
นอกจากนี้ ชรินทร์ ได้รับพระราชทานนามสกุลจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ว่า "นันทนาคร" ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ให้ความรื่นรมย์แก่ชาวเมือง" ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล - ขับร้อง) ประจำปี 2541
ต่อมาในปี 2542 ชรินทร์ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้น 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ เนื่องจากเป็นผู้สร้างประโยชน์ให้กับประเทศ
โดย ชรินทร์ นันทนาคร เป็นผู้ริเริ่มร่วมสร้างสรรค์เพลง “สดุดีมหาราชา” ซึ่งส่งผลให้ได้รับรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ "สังข์เงิน" สาขาใช้ศิลป์สร้างสรรค์ให้เกิดความรักชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่ขับร้องเพลงไทยสากลผสมผสานกับเพลงไทยเดิม มีท่วงทำนองสูงต่ำเอื้อนด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ชวนฟัง ออกเสียงอักขระได้ชัดเจน มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงประมาณ 1,500 เพลง
ด้านชีวิตส่วนตัว ชรินทร์สมรสครั้งแรกกับ สปัน เธียรประสิทธิ์ น้องสาวของปองทิพย์ ภรรยาของสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ โดยชรินทร์และสปันมีบุตรสาวสองคนคือ ปัญญ์ชลี (สมรสกับ เศรณี เพ็ญชาติเป็นมารดาของ ปวริศา เพ็ญชาติ) และปัญชนิตย์ เธียรประสิทธิ์ (สมรสกับชาวต่างชาติ เป็นมารดาของ ปัญญริสา เธียรประสิทธิ์)
ต่อมา ชรินทร์ได้หย่าขาดสปัน และสมรสใหม่กับ “เพชรา เชาวราษฎร์” อดีตนางเอกภาพยนตร์ชื่อดัง มีบุตรด้วยกัน 1 คน แต่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก
ก่อนที่ล่าสุด มีรายงานว่า ชรินทร์ เสียชีวิตอย่างสงบด้วยวัยชรา ในช่วงเช้ามืดวันที่ 20 สิงหาคม 2567 สิริอายุ 91 ปี