ป๋าเต็ด ยุทธนา” ลั่นเหมือนได้ชีวิตใหม่ หลังผ่านวินาทีเฉียดตาย เกือบหัวใจวายเฉียบพลัน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“ป๋าเต็ด – ยุทธนา บุญอ้อม” หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น หลังผ่านวินาทีเฉียดตาย จากการป่วยกระทันหัน จนต้องเข้าผ่าตัดทำบอลลูนหัวใจฉุกเฉิน เพราะหัวใจวายเฉียบพลันไม่ทันตั้งตัว ลั่นเหมือนได้ชีวิตใหม่ ลั่นเหมือนได้ชีวิตใหม่

หลังจากผ่านวินาทีเฉียดตาย จากเหตุการณ์หัวใจวายเฉียบพลันไม่ทันตั้งตัวมาแล้ว ทำให้ “ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม” หันมาใส่ดูแลตัวเองมากขึ้น มีโอกาสได้เจอป๋าเต็ด ก็ได้อัพเดทเรื่องสุขภาพให้ฟังดังนี้

วันนั้นเป็นเช้าวันปกติวันหนึ่ง ตื่นเช้ามาผมก็ลงมาจากชั้นสองมาชงกาแฟข้างล่างก็เกิดอาการแน่นที่หน้าอกไม่เจ็บนะครับ แน่นเหมือนคนมานั่งทับ ถ้าเกิดใครเคยเลี้ยงหลานลองเอาหน้าตัวใหญ่ๆมานั่งทับอยู่บนหน้าอกอาการจะเป็นแบบนั้น มันจะรู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวก เหงื่อออกทั้งที่อากาศยังไม่ร้อนแล้วก็เริ่มวิงเวียนศีรษะ เริ่มมีอาการบ้านหมุน พอมีอาการรู้สึกตัวว่าอาการไม่ดีก็เลยเดินออกจากบ้านไปสูดอากาศบริสุทธิ์ แต่ว่าไม่หายก็เลยโทรหาเพื่อนซึ่งเป็นหมอ เพื่อนก็บอกว่าอาการแบบนี้ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับหัวใจแน่นอนต้องไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ก็เลยไปภรรยาขับรถไปโชคดีที่เพื่อนเป็นหมอก็เลยโทรศัพท์ไปเตรียมทุกอย่างรอเราไว้เขาบอกว่าถ้าไปถึงให้เข้าไปแผนกโรคหัวใจเลย ไปถึงก็ตรวจคลื่นหัวใจแล้วก็พบว่ามันเต้นผิดปกติจริงๆ คงมีอะไรที่ร้ายแรงกว่านั้นเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้บอกผม รู้แค่ว่าจากนั้นใช่เวลาไม่ถึงห้านาทีเขาก็เข็นผมไปอยู่ในห้องผ่าตัด มารู้ที่หลังว่าเป็นห้องสวนเส้นเลือด แล้วก็มีอุปกรณ์มาระโยงระยางไปหมด ผมรู้ตัวตลอดเวลาไม่ได้ให้ยาสลบ ก็เกิดการใส่เครื่องมือลงไปที่เส้นเลือดใหญ่ตรงต้นขาเข้าไปที่เส้นเลือดที่เลี้ยงหัวใจแล้วก็ทำการฉีดสีแล้วพบว่าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจในหนึ่งของสามเส้นหลักตันร้อยเปอร์เซ็นต้องทำการบอลลูนทันที

ช่วงเวลาที่กล้ามเนื้อส่วนนั้นเรียกว่าขาดเลือดไปเลี้ยงมาระยะหนึ่งแล้วด้วยซ้ำ ก็บอลลูนทันที่แล้วก็ใส่สเต็นท์ ในเป็นคดรวดคล้ำเส้นเลือดไว้ส่วนอีกเส้นหนึ่งตีบหกสิบเปอร์เซ็นอันนี้ค่อยมาทานยาเอา อันนี้ไม่พูดถึงไม่รู้เป็นเพราะอะไรมันอาจจะปกติก็ได้ หรือหายไปแล้วไม่รู้ก็แค่นั้นเอง มันรู้ภายหลังครับหลังจากที่มานอนใน CCU หลังจากที่มีคุณหมอเข้ามาเริ่มพูดคุยกับเราเรื่องอาการ คือรู้ว่าถ้ามาช้านิดเดียวคือตาย โชคดีที่ไหวตัวทัน แล้วก็ปฏิบัติตัวทุกอย่าง อย่างรวดเร็วคือจากบ้านมาโรงพยาบาล 20 นาที พอมาถึงโรงพยาบาลใช่เวลาทั้งหมดอีกประมาณแค่ครึ่งชั่วโมงกระบวนการทั้งหมดก็เสร็จสิ้นก็เลยทำให้รอด มันค่อนข้างบอกเราว่าเราโชคดีมาก ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีอย่างเราหรือแม้กระทั้งตัวเราเอง เพราะปกติแล้วผมไม่ได้อยู่บ้านผมทำงานอยู่ข้างนอกตลอดเวลาอยู่ที่สถานที่จัดคอนเสิร์ต ยังเคยคิดอยู่เลยว่า ถ้าวันนั้นมันไม่ได้เกิดที่บ้าน ถ้าเกิดตอนดึกๆตอนกำลังทำบิ๊กเมาเท่นยู่ อยู่ปากช่องแบบนี้ เผลอๆไม่มีคนรู้ว่าเป็นอะไรเพราะคนเยอะไปหมด คนก็อาจจะไม่ได้สังเกตเรา ดังนั้นมันก็เลยสอนเราว่ามันมาเตือนเราว่าและอยากฝากเตือนไปถึงทุกคนว่า มันใกล้ตัวกว่าที่เราคิดนะ

แล้วจริงๆผมอายุ 51 นะครับจริงๆมันก็ไม่ได้น้อยมันก็ไม่ได้เยอะถึงขั้นจะต้องมาอาการหัวใจวาย ที่ผมเรียนรู้ได้ พอเหตุเกิดกับผมเดือนตุลาปีที่แล้ว สามเดือนผ่านมา ผมเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตทั้งหมด ผมเลิกสูบบุหรี่ เลือกท่านอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมการทานอาหารไม่ได้สติกมากทานในปริมาณที่เหมาะสมแล้วก็ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอกลับไปตรวจเลือดตรวจสุขภาพอีกทีกับคุณหมอคนเดิมปรากฏว่าผลออกมามันเกือบจะปกติทั้งหมดกลายเป็นช่วงเวลาที่ผมสุขภาพดีที่สุดในชีวิต ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีสุขภาพดีเท่านี้ นี่ใช่เวลาเพียงสามเดือนเท่านั้นเองที่ผมทำมันไม่ได้ยากเลยมันเป็นเรื่องการกินและการออกกำลังกายเท่านั้นเองเป็นหลักดังนั้นใครก็ทำได้ครับขนานผมที่เหลวไหลมากไม่ต้องเป็นระดับพี่ตุนก็ได้ แค่เป็นคนธรรมดาแค่ดูแลเรื่องการกินและออกกำลังกายบ้างมันก็ดึงทุกอย่างมาเป็นปกติหมดเลย ถ้าเราทำอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ยังไม่เป็นตั้งแต่หนุ่มสาว มันก็จะยิ่งมั่นใจได้ว่าเรามีสุขภาพที่แข็งแรงดีแล้วก็ไปทำอะไรก็ได้ที่อยากทำไปได้ตลอดชีวิตครับ”

เป็นยังไงบ้างตั้งแต่กลับมาดูแลตัวเอง

“น้ำหนักลดไปประมาณ 5 ก.ก.ได้ ซึ่งเกิดจากการที่เราทานครบ ทานในปริมานที่เหมาะสม ออกกำลังกาย ออกกำลังกายก็ไม่ไดหักโหมอะไร แค่วิ่งบนสายพานยกน้ำหนักบ้างเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อให้ได้กล้ามเนื้อและคาดิโอซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของหลอกเลือดซึ่งเป็นปัญหาของผมอยู่แล้วก็ทำแค่อาทิตย์ละสองสามครั้ง เรื่องกินก็ปกติครับ แต่ผลที่ออกมามันดีมาก มันดีแบบรู้งี้ทำแบบนี้มาตั้งนานแล้วมันไม่ได้ยากเลยวั นที่ผมนอนในตรงพยาบาลหลังจากที่ได้พูดคุยพอผมเราให้ฟังทุกคนปฏิบัติในทิศทางเดียวกันหมดถ้าไม่ไปตรวจสุขภาพทันที่ก็ไปออกกำลังกายเพราะว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวมันเป็นเรื่องง่ายในทางกลับกันมันก็ทำให้เราลืมมันง่ายเหมือนกันเพราะมันเป็นเรื่องง่าย ช่วงนี้ปาร์ตี้ปีใหม่เยอะเดี๋ยวพรุ่งนี้เริ่มควบคุมก็ได้ ข้าวขาหมูมันก็ต้องติดมันถึงอร่อย ก๋วยเตี๋ยวเรือมันก็ต้องใส่กากหมู หมูกรอบมันก็ต้องกรอบๆ มันก็จะเป็นแบบนี้ตลอด คุณหมอพูดเหมือนกันทุกคนว่าไม่ได้ห้ามกินแค่เอาแบบที่ว่ามนุษย์มนาเขากินกัน ซึ่งทุกคนก็สามารถกินได้อย่างพอดีๆ”

ต้องไปเช็คอยู่เรื่อยๆไหม

“ใช่ครับ ถ้ามนุษย์ปกติอาจจะเช็คปีละครั้ง ในระดับอายุของผมมันควรจะปีละสองครั้งด้วยความที่เราเป็นโรคหัวใจก็ประมาณทุกสามเดือน แต่ว่าอย่างที่บอกไปเช็คสามเดือนแรกผลมันออกมาดีมากจนคุณหมอถึงขั้นแทบอยากจะให้โล่ครับ ก็อยากจะหมอว่าก็กลัวตายทางเลือกมันง่ายมากทางหนึ่งคือสูบบุหรี่ต่อไปทำทุกอย่างเหมือนที่เคยทำแล้วก็ตายกับอีกทางที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะได้มีชีวิตสนุกสนานต่อไปก็เลือกง่าย”

อย่างบุหรี่ของป๋าคือเลิกขาดเลยไหม

“หักดิบเลยครับ คือพอวันนั้นเข้าโรงพยาบาล ก็ไม่ได้สูบอีกเลย ยังเสียดายอยู่เลย ถ้ารู้อย่างนี้คงอัดสักสองสามตัวก่อน เป็นวิธีที่ดีที่สุดถ้าใครที่คิดจะเลิกมันมีตัวช่วยมากมายที่เขารณรงกัน นิโคตินแบบแปะบ้างมีสายด่วนให้โทรไปหาแต่ว่า สารเคมีที่ทำให้เราติด แค่เราหยุดมันแค่ไม่กี่วันถ้าจำไม่ผิดสารนี้ก็หมดไปจากร่างกายเราแล้วทานน้ำเยอะๆที่เหลือนี้ใจเราล้วนๆ ที่เหลือเป็นความเคยชินของเราอย่างตัวผมเข้าห้องน้ำต้องจุดละ ลงรถต้องจุดละ พอหลังๆอยู่ในรถต้องจุดเลยขี้เกียจรอนถมันติดเหลือเกิน”

สูบมากี่ปี

“เป็นสิบปีแล้วครับ สูบมาตั้งแต่สมัยมหาลัย แต่พอเราตัดสินใจเลิกพกน้ำเปล่าครับเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เวลาอยากสูบก็ดื่มน้ำเปล่าแทน”

เวลาที่เห็นคนอื่นสูบอยากสูบไหม

“นิดนึงไม่มากนะ ผมไม่บังคับคนรอบตัว ผมเลิก ลูกน้อง เพื่อนๆก็ยังสูบ ผมจำเป็นต้องนั่งสังสรรค์กับเขาก็นั่ง ก็ไม่เป็นไรเพราะว่า เหมือนพยายามเอาตัวของเราไปอยู่ในจุดเสี่ยงที่สุด เราผ่านจุดนี้ไปได้ เราก็รอด เพราะถ้าเกิดสมมุติว่าเราหลีกเลี่ยงมัน เมื่อไหร่ที่เราเห็นก็ตามเราก็อยากสูบ เพราะฉะนั้นเราต้องสู้แล้วชนมันเลย”

มีอะไรที่ต้องระวังในเรื่องของเส้นเลือดบ้างไหม

“ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องพฤติกรรมการกิน อันนี้สำคัญที่สุด ช่วงแรกจะมีเรื่องอย่าออกกำลังกายหักโหม หลังจากที่เข้าไปเช็คล่าสุดถือว่ากลับมาออกกำลังกายแบบปกติได้ แต่ถ้าขั้นมาราธอนก็คงไม่ไหว”

อย่างเส้นเลือดที่ตีบที่ตัดก็หายไปหมดแล้ว

“ตัวที่ตันตอนนี้มันมีขดลวดค้ำมันอยู่ แต่ถ้าเราไม่ดูแลเรื่องการกินของที่ไม่มีประโยชน์เข้าไปมันก็จะทำให้อุดตันเข้าไปใหม่ ส่วนอีกเส้นนึงที่ตีบ ตีบอยู่ 60% มันมีการกินยาช่วย ยาสลายลิ่มเลือด ทำให้เลือดเหลวลงไหลคล่องขึ้น ซึ่งเราต้องดูแลไม่เป็นแผล ไม่ไปทำอะไรที่มันจะเสี่ยง เพราะเลือดเรามันก็จะไหลแล้วหยุดช้ากว่าคนอื่น”

ที่บอกว่าเส้นเลือดตีบคือมันตีบจากไขมันหรือเส้นเลือดมันบีบไป

“จะบอกว่าเป็นไขมันอย่างเดียวก็ไม่เชิงเดี๋ยวผมจะพูดผิด เรื่องวิชาการคุณหมออาจจะพูดได้มากกว่า แต่ว่ามันคือเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องการกินของเราล้วนๆเลย บางทีเรากินน้ำตาลเยอะไป เขาบอกว่ามีน้ำตาลในเส้นเลือดมันก็มีส่วนให้การไหลเวียนของโลหิตในเส้นเลือดเรามันผิดปกติ แล้วไปแปลเป็นไขมันเกาะอยู่ในเส้นเลือดในที่สุด มันเป็นเคสของการกินล้วนๆเลย”

ตอนที่คุณหมอเข็นเตียงเข้าไป คือไม่ได้รู้สึกทุรนทุราย

“ไม่ได้รู้สึกเลย”

ไม่ได้คิดถึงอันตรายถึงขั้นจะเสียชีวิต

“ไม่มีเลย คือตอนนั้นส่วนนึงอาจเป็นเพราะอย่างน้อยเราถึงมือหมอแล้วแต่ระหว่างทางจะรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา เราไม่เคยเป็นอย่างนี้ เราก็เห้ยเป็นไรวะ เราไม่เคยเป็นอย่างนี้ ขับรถเองไม่ได้ พอถึงโรงพยาบาลมีหมอรอบตัวรู้สึกรอดไม่น่ามีปัญหา”

ตอนนี้เหมือนมีชีวิตมีความรู้ในการดูแลตัวเองมากๆ

“ใช่ แต่ก่อนผมจะห่างไกลเรื่องนี้มากมันทำให้เราสนใจเรื่องที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา หนังสือที่อ่านก็เกี่ยวกับสุขภาพการเลือก การควบคุมอาหารซึ่งมันมีหลายสูตรหลายวิธีเราก็อ่านหมด เข้าซูเปอร์มาร์เก็ตจะซื้อจะอ่านฉลากข้างผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดมาก จะซื้อนมสักกล่องเทียบน้ำตาล ไขมัน ดูอย่าละเอียดมาก แล้วสมมุติเราวิ่งตอนเช้า เราวิ่งไป 40 นาที 400กว่าแคล ขนมที่เรากินเท่ากันเลย พอเห็นเราก็วางเพราะเราจำความเหน็ดเหนื่อยตอนเช้าได้ อันนี้เราเปลี่ยนไปเลย”

ป๋าคิดไหมคะว่าวันนึงจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลย

“ไม่คิดเลย เรารู้สึกว่าคำว่าหัวใจวายมันอยู่ไกลตัวมาก มันเป็นเรื่องของคนแก่อะ ไม่มีทางเรายังวิ่งยังสนุกสนาน ทำคอนเสิร์ต ไม่จริงอะ มันอยู่ในอาหารทุกคำที่เราเอาใส่ปากเข้าไป ในชานมไข่มุก ซึ่งพอถึงตอนนี้ก็รู้แล้ว อย่างที่บอกก็กินได้แต่ทำยังไงให้มันพอดี”

 

 

 

 

 

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ