องค์การอนามัยโลกเตือนวิกฤตโควิด-19 ยังไม่จบปีนี้
วิกฤตไวรัสอินเดีย เลวร้ายลงทุกวัน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อินเดียพบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 130,000 ราย เป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดตั้งแต่อินเดียเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว สำหรับสัปดาห์นี้ อินเดียมียอดผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 1 แสนรายติดต่อกัน 3 วัน เรียกได้ว่าสัปดาห์นี้คือสัปดาห์ที่อินเดียเจอวิกฤตโรคระบาดรุนแรงที่สุด ตอนนี้อินเดียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 13 ล้านราย เสียชีวิตแล้วกว่า 167,000 ราย สาเหตุสำคัญที่ยอดผู้ติดเชื้อในอินเดียกลับมาพุ่งสูงขึ้นก็คือ ประชาชนการ์ดตกและละเลยมาตรการควบคุมโรคระบาด อย่าง การรักษาระยะห่างทางกายภาพและการสวมหน้ากากอนามัย
พื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัสรุนแรงที่สุดก็คือรัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของอินเดีย โดยตอนนี้ร้อยละ 47 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอินเดีย คือประชาชนจากรัฐมหาราษฏระ โดยตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของรัฐมหาราษฏระคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในอินเดีย ที่มีมากกว่า 13 ล้านราย
ทำให้ตอนนี้รัฐมหาราษฏระเผชิญกับปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อย่าง เตียงผู้ป่วยและถังออกซิเจน โดยตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐมหาราษฏระได้ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว ที่ห้ามประชาชนออกจากบ้านระหว่างเวลา 2 ทุ่มถึง 7 โมงเช้า
ระหว่างช่วงเวลาเคอร์ฟิว ธุรกิจที่ไม่จำเป็น อย่าง ร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนต์ และศานสถาน ต้องปิดให้บริการ ขณะนี้อินเดียกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2
ด้านผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนแล้วว่า หากอินเดียยังไม่สามารถควบคุมโรคระบาดได้ และยอดผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้นเช่นนี้ ภายในอีก 4 สัปดาห์ข้างหน้า สถานการณ์โรคระบาดของอินเดียอาจรุนแรงเข้าขั้นวิกฤต
วิกฤตโรคระบาดที่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงเรื่อยทำให้ตอนนี้อินเดียต้องเร่งฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในประชาชนในวงกว้างมากที่สุด อินเดียเริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้อินเดียฉีดวัคซีนให้ประชาชนกว่า 80 ล้านโดสแล้ว
จากจำนวนทั้งหมด มีชาวอินเดียกว่า 60 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีน 1 โดส และมีชาวอินเดียกว่า 10 ล้านรายที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว โดยตอนนี้อินเดียต้องเร่งแจกจ่ายวัคซีนให้ประชาชนในประเทศที่มีมากกว่า 1,300 ล้านคนเพื่อยุติการระบาดของไวรัสให้เร็วที่สุด
เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา อินเดียได้เริ่มฉีดวัคซีนให้ชาวอินเดียทุกคนที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป คาดว่าจะช่วยให้ชาวอินเดียได้รับการฉีดวัคซีนในวงกว้างมากขึ้น โดยการฉีดวัคซีนของอินเดียครอบคลุมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่และชนบท
ขณะนี้อินเดียอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 สองตัว ได้แก่ วัคซีนโควิชิลด์ ที่ผลิตโดยสถาบันเซรั่มแห่งอินเดีย และวัคซีนโคแวกซิน ที่ผลิตโดยบริษัทภารัต ไบโอเทค ของอินเดีย เมื่ออินเดียหันมาเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนของตัวเอง ปัญหาที่ตามมาก็คือการขาดแคลนวัคซีน
อย่างที่รัฐมหาราษฏระที่ได้รายงานไปว่ามีการระบาดของโควิด-19 รุนแรงที่สุด ตอนนี้รัฐมหาราษฏระมีวัคซีนไม่เพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชนแล้ว โดยขณะนี้รัฐมหาราษฏระมีวัคซีนอยู่ในสต๊อก 1 ล้าน 5 แสนโดสเท่านั้น หมายความว่า ถ้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนวันละ 500,000 โดส วัคซีนที่มีอยู่จะเพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชนได้ 3 วันเท่านั้น
ทำให้ตอนนี้รัฐมหาราษฏระและรัฐอื่นๆ ที่เผชิญปัญหาขาดแคลนวัคซีน ทำให้ต้องปิดศูนย์การฉีดวัคซีนเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุขของอินเดียระบุว่า ทางการอินเดียจะจัดสรรวัคซีนให้แต่ละรัฐตามความต้องการ พร้อมยืนยันว่าอินเดียมีวัคซีนเพียงพอแน่นอน