ยอดติดเชื้ออินเดียพุ่ง ปชช.การ์ดตก-ขาดแคลนวัคซีน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สถานการณ์โควิด-19 ในอินเดียน่ากังวลขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากอินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 1 รายต่อวัน ติดต่อกันมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอินเดียพุ่งแซงหน้าบราซิล ขึ้นเป็นประเทศอันดับสอง ของโลกที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักที่สุด

วิกฤตขาดแคลนวัคซีนอินเดีย ขณะที่ยอดติดเชื้อพุ่ง

วิกฤตไวรัสอินเดีย เลวร้ายลงทุกวัน

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียรายงานว่า อินเดียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กว่า 168,000 ราย ภายในเวลา 24 ชั่วโมง โดยยอดผู้ติดเชื้อรายวันของอินเดียทะลุ 1 แสนราย ติดต่อกันมานาน 7 วันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา  ทำให้ตอนนี้อินเดียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 13 ล้าน 6 แสนราย เสียชีวิตแล้วกว่า 171,000 ราย  ซึ่งมากเป็นอันดับสองโลก แซงหน้าบราซิลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตอนนี้บราซิลมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 13 ล้าน 5 แสนราย ทำไมโควิด-19 ในอินเดียจึงกลับมาระบาดหนักอีกครั้ง  สาเหตุสำคัญก็คือ ประชาชนประมาทและการ์ดตก

อย่างเช่น ที่เมืองหริทวาร ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทางเหนือของอินเดีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้นับถือศาสนาฮินดูในอินเดียนับล้านคนพากันเข้าร่วมพิธีกุมภเมลา ซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่สุดของศาสนาฮินดู

โดยชาวฮินดูพากันลงไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายในแม่น้ำคงคง เพื่อเป็นการล้างบาปตามความเชื่อของศาสนาฮินดูจะเห็นว่าชาวอินเดียละเลยมาตรการควบคุมโรคระบาดและพากันลงแช่น้ำแบบไหล่ชนไหล่ ไม่รักษาระยะห่างทางกายภาพ และมีบางรายเท่านั้นที่สวมหน้ากากอนามัย

ก่อนหน้านี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของอินเดียต่างเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียยกเลิกงานพิธีต่างๆ ในช่วงเทศกาลกุมภเมลาประจำปีนี้ เนื่องจากกังวลว่าเทศกาลเหล่านี้จะกลายเป็นงานซูเปอร์สเปรดเดอร์ ที่อาจทำให้ไวรัสแพร่กระจายไปในวงกว้างมากขึ้น 

แต่รัฐบาลท้องถิ่นของเมืองหริทวารยังคงเดินหน้าจัดงานต่อไป โดยระบุว่าทางการมีมาตรกาควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวด และได้ลดระยะเวลาการจัดงานลง อีกทั้งยังมีการตรวจหาเชื้อให้กับผู้เข้าร่วมงานด้วย

ด้านทีรัธ ซิงห์ ราวัต ประธานคณะผู้บริหารรัฐอุตตราขัณฑ์ได้ระบุว่า ศรัทธาในพระเจ้าจะเอาชนะความกลัวที่มีต่อไวรัสทั้งปวง

ขณะเดียวกัน หลายพื้นที่ในอินเดียต้องยกระดับมาตรการควบคุมไวรัสอย่างเข้มงวดเพื่อบรรเทาวิกฤตโรคระบาด

รัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของอินเดีย ได้ยกระดับมาตรการควบคุมโรคระบาดตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐมหาราษฏระคือรัฐที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในอินเดีย  โดยระหว่างจันทร์ถึงศุกร์ ทางการได้ประกาศใช้เคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากบ้านระหว่างเวลา 2 ทุ่ม ถึง 7 โมงเช้า และธุรกิจที่ไม่จำเป็น  ต้องปิดให้บริการในช่วงเคอร์ฟิวเช่นกัน

ส่วนช่วงเสาร์อาทิตย์ รัฐมหาราษฏระจะตกอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์แบบเต็มรูปแบบ ทำให้ท้องถนนว่างเปล่า แทบกลายเป็นเมืองร้าง  ประชาชนส่วนใหญ่ในรัฐมหาราษฏระกังวลว่า มาตรการล็อกดาวน์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและทำให้พวกเขาขาดรายได้

ด้านกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ ได้ประกาศใช้เคอร์ฟิวตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน โดยประชาชนห้ามออกมาจากบ้านตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม ไปจนถึงตี 5 ของทุกวัน หากไม่มีเหตุจำเป็น เบื้องต้นการประกาศใช้เคอร์ฟิวในนิวเดลีจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้

ขณะนี้อินเดียต้องเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนให้มากที่สุด แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ อินเดียกำลังขาดแคลนวัคซีน

อินเดียเริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา  ผ่านไปเกือบ 3 เดือน ฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วกว่า 108 ล้านโดส

ราว 96 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส และมีราว 14 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ซึ่งอัตราการฉีดวัคซีนของอินเดียยังถือว่าต่ำ เพราะอินเดียมีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน

เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียได้เริ่มฉีดวัคซีนให้ชาวอินเดียที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไปทุกคน โดยหวังว่าจะทำให้ชาวอินเดียได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น แต่อุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการฉีดวัคซีนของอินเดียก็คือ การขาดแคลนวัคซีน โดยเฉพาะที่รัฐมหาราษฏระ รัฐที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด ที่ล่าสุดมีรายงานว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนหลายแห่งต้องปิดให้บริการเนื่องจากมีวัคซีนไม่เพียงพอสำหรับประชาชน

โดยประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกแล้วต่างแสดงความกังวลใจ เพราะเมื่อพวกเขาเดินทางมารับการฉีดวัคซีนโดสที่สองตามกำหนด ศูนย์ฉีดวัคซีนกลับบอกว่าไม่มีวัคซีนเหลือแล้ว และประชาชนยังไม่ได้รับคำตอบด้วยว่า กำหนดการใหม่สำหรับการฉีดวัคซีนโดสที่สองคือเมื่อไหร่ ทำให้กังวลว่า หากช่องว่างระหว่างการฉีดวัคซีนโดสแรกและโดสที่สองห่างกันนานกว่า 28 วันตามคำแนะนำของผู้ผลิตวัคซีน อาจทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสลดลง

ด้านโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐมหาราษฏระรายงานว่า จริงๆ แล้ว ทางโรงพยาบาลมีกำหนดรับวัคซีนล็อตใหม่ภายในสัปดาห์นี้ แต่วัคซีนยังไม่มาตามกำหนด ทำให้โรงพยาบาลต้องแจกจ่ายวัคซีนเท่าที่เหลืออยู่ พร้อมระบุว่า กำหนดการสำหรับเข้ารับการฉีดวัคซีนในตอนนี้ก็คือ ใครมาก่อนได้ก่อน

ขณะนี้อินเดียอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 สองตัว ได้แก่ วัคซีนโควิชิลด์ ที่ผลิตโดยสถานบันเซรั่มแห่งอินเดีย และวัคซีนโคแวกซิน ที่ผลิตโดยบริษัทภารัต ไบโอเทคของอินเดีย

แต่ล่าสุดมีรายงานว่าอินเดียได้อนุมัติใช้วัคซีนตัวที่ 3 แล้ว นั่นก็คือวัคซีนสปุตนิก วี วัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยสถาบันกามาเลยาของรัสเซีย โดยสปุตนิก วี ถือเป็นวัคซีนที่น่าเชื่อถือ เพราะก่อนหน้านี้ เดอะ แลนซิต (The Lancent) หนึ่งในวารสารทางการแพทย์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกได้ตีพิมพ์ผลการทดสอบวัคซีนตัวนี้ ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสถึงร้อยละ 91.6 ทำให้สปุตนิก วี กลายเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวที่ 4 ต่อจาก วัคซีนของไฟเซอร์ โมเดอร์นา และแอสตราเซเนกา ที่ผลการทดสอบถูกตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ที่มีความน่าเชื่อสูงหรือที่เรียกว่า Peer-review

รายงานระบุว่าอินเดียจะนำวัคซีนสปุตนิก วี มาผลิตเองในประเทศ และคาดว่าอินเดียจะสามารถผลิตวัคซีนสปุตนิก วี ได้ราว 850 ล้านโดสต่อปี ซึ่งเพียงพอสำหรับประชาชน 425 ล้านคน โดยหนึ่งคนได้รับการฉีดวัคซีนสปุตนิก วี สองโดส

 

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ