กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ระบุผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (5 ก.ค.) ว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แลมบ์ดา (Lambda) ซึ่งถูกระบุว่ามีอันตรายมากกว่าสายพันธุ์เดลตา (Delta) มีการตรวจพบแล้วในกว่า 30 ประเทศในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมโพสต์ลิงก์รายงานจากเว็บไซต์ข่าว news.com.au ของออสเตรเลียที่ระบุว่า ในสหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวแล้ว 6 คน
WHO เพิ่มชื่อโควิด-19 “สายพันธุ์แลมบ์ดา” เป็นสายพันธุ์ต้องให้ความสนใจ
บังกลาเทศเจอพิษสายพันธุ์เดลตา ยอดติดเชื้อโควิด-19 รายวันทะลุหมื่น
กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ยังระบุด้วยว่า ไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดาพบครั้งแรกในเปรู ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในโลก
ด้านสำนักข่าวยูโรนิวส์อ้างองค์การสุขภาพของภาคพื้นอเมริกา (PAHO) ระบุว่า ตัวอย่างที่เก็บจากผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเปรู ช่วงเดือนพ.ค-มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น เป็นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดาเกือบ 82% เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ในชิลี พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์แลมบ์ดา 1 ใน 3 ของตัวอย่างที่เก็บระหว่างเดือนพ.ค. - มิ.ย. บรรดานักวิจัยแสดงความกังวลว่าไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดาอาจแพร่ระบาดได้เร็วกว่าเชื้อเดลตา
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้ไวรัสโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดาเป็น สายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ (variant of interest) เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา จากการที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นในอเมริกาใต้ ซึ่ง WHO ก็ระบุด้วยว่า สายพันธุ์แลมบ์ดามีความสามารถในการแพร่ติดต่อ และต่อต้านภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอังกฤษระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดาทำให้เกิดอาการของโรคที่รุนแรงกว่า หรือทำให้วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพลดลง ขณะที่นักวิจัยกำลังทำการทดลองในห้องปฏิบัติการเพื่อที่จะเข้าใจผลกระทบของการกลายพันธุ์ที่มีต่อพฤติกรรมของไวรัสมากขึ้น
Photo : Nicolas Aguilera / AFP
WHO ถอด “เอปซิลอน-ซีตา-ธีตา” ออกจากสายพันธุ์โควิด-19 ที่ต้องสนใจ (VOI)