หลายประเทศกำลังพิจารณาใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิดต่างชนิดหรือจากต่างบริษัท รวมทั้งเข็มที่ 3 เนื่องจากกังวลว่าเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ๆอาจแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้นและหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่อนุมัติให้ใช้งานอยู่ในขณะนี้
ประเทศไทยวางแผนฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 2 ให้กับผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกไปแล้ว ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการประกาศใช้วัคซีนจากประเทศจีนผสมกับวัคซีนจากประเทศตะวันตก ขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้วัคซีนผสมระหว่างซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า
อนามัยโลกเตือน ปชช.อย่าสลับการฉีดวัคซีนผสมสูตรเอง อาจเป็นอันตราย
อัปเดตข้อมูล “การฉีดวัคซีนโควิด-19 สองเข็มต่างชนิดกัน” ทำได้หรือไม่?
ขณะที่เทรดอส เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO แสดงความไม่เห็นด้วยหากประเทศร่ำรวยจะสั่งวัคซีนไวรัสโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้กับประชาชนของตนเอง เพราะขณะนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่ขาดแคลนวัคซีนสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงสูง
ส่วนดอกเตอร์ ซูมยา สวามีนาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ WHO ได้โพสต์ทวิตเตอร์ชี้แจงเพิ่มเติมหลังจากมีการรายงานว่า เธอได้แสดงความคิดเห็นเตือนถึงผลกระทบจากการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จากผู้ผลิตที่แตกต่างกัน โดยย้ำว่าประชาชนไม่ควรตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ควรเป็นหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่จะพิจารณาจากข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งยังต้องรอข้อมูลในส่วนนี้ โดยจะต้องมีการประเมินทั้งประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและความปลอดภัย