มาเลเซีย ยอดติดโควิดพุ่ง ล็อกดาวน์ เอาไม่อยู่


โดย PPTV Online

เผยแพร่




มาเลเซีย ยังกดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดไม่ลง แม้ว่าจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดมาเกือบ 2 เดือนแล้ว

หลายประเทศในอาเซียนกำลังเผชิญกับวิกฤตจากการระบาดของไวรัสเดลตา ที่หนักสุดคือ อินโดนีเซียที่มีผู้ติดเชื้อรายวันแซงหน้าอินเดีย และสหราชอาณาจักร ขึ้นไปเป็นเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดในโลกเป็นอันดับสอง รองจากบราซิล อีกประเทศที่น่ากังวลคือ มาเลเซีย ที่ยังกดตัวเลขไม่ลง แม้ว่าจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดมาเกือบ 2 เดือนแล้ว

นี่คือกราฟยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันต่อประชากร 1 ล้านคนของมาเลเซีย ไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็น 3 ประเทศที่มีอัตราผู้ติดเชื้อต่อประชากรมากที่สุดในอาเซียน

สุทธิชัย หยุ่น : “มาเลเซีย”สั่ง!ล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ

มาเลเซีย พบ โควิด-19 ระบาดใหญ่ 5,000 ราย ที่โรงงานถุงมือ

 

 

 

อันดับหนึ่งคือมาเลเซีย ที่ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อราว 371 รายต่อประชากร 1 ล้านคน
รองลงมาคือไทย ที่มีผู้ติดเชื้อราว 165 คนต่อประชากร 1 ล้านคน
อันดับที่ 3 คืออินโดนีเซีย ที่มีราว 160 คนต่อประชากร 1 ล้านคน

สำหรับสถานการณ์ในมาเลเซีย ล่าสุดวันนี้มาเลเซียทุบสถิติผู้ติดเชื้อรายวัน 15,573 ราย สูงที่สุดตั้งแต่โควิด-19 ระบาดในประเทศ และเพิ่มขึ้นราว 2 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับ 2 เดือนก่อน ก่อนที่จะมีการล็อกดาวน์ จะเห็นว่ากราฟยังมีแนวโนม้ที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ยอดผู้เสียชีวิตก็น่ากังวลเช่นกัน วันนี้มี 144 ราย ส่วนวันพุธที่ผ่านมา มีสูงที่สุด 199 ราย ไวรัสเดลตาคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤต รุนแรงขนาดที่ว่าล็อกดาวน์ก็เอาไม่อยู่

มาเลเซียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ประเทศครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ในตอนแรกมาเลเซียประกาศปิดประเทศนาน 2 สัปดาห์ แต่หลังจากนั้นก็ขยายกรอบเวลาล็อกดาวน์มาเรื่อยๆ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

และเมื่อปลายเดือนมิถุนายน มาเลเซียได้ประกาศขยายล็อกดาวน์ออกไปแบบไม่มีกำหนด หรือจนกว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันจะเหลือต่ำกว่า 4,000 ราย ซึ่งถือว่ายังห่างไกลจากเป้าหมายเพราะตอนนี้มีวันละประมาณ 13,000 ราย ทำให้ตอนนี้มาเลเซียกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุขอย่างรุนแรง

สถานการณ์ของมาเลเซียตอนนี้ยังมีวิกฤตซ้อนวิกฤต เพราะบุคลากรทางการแพทย์นัดประท้วงใหญ่ การประท้วงคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม อาจมีแพทย์เข้าร่วมมากถึง 20,000 คน เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ของรัฐบาล ที่ทำให้สถานการณ์แย่ลง จนเจ้าหน้าที่งานล้นมือ และมีอาการ Burnout เพราะจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่หลั่งไหลมาเรื่อยๆ

นอกจากนั้น พวกเขายังต้องทำงานล่วงเวลา โดยไม่ได้ค่าจ้างเพิ่มด้วย ขณะนี้รัฐบาลมาเลเซียยังไม่มีท่าทีเกี่ยวกับการหยุดงานประท้วงครั้งนี้ แต่หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาแถลงการณ์ให้เร็วที่สุด เนื่องจากกังวลว่าการหยุดงานของแพทย์จะทำให้สถานการณ์โรคระบาดแย่ลง

อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์โควิด-19 เป็นเช่นนี้ก็คือ อัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำ มาเลเซียมีประชากรราว 40 ล้านคน แต่ตอนนี้มีคนที่ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วเพียง 10 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 33 ส่วนคนที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วมี 5 ล้านคน หรือราวร้อยละ 15 ตอนนี้มาเลเซียใช้วัคซีนของผู้ผลิต 3 เจ้า ได้แก่ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และซิโนแวค

แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลมาเลเซียประกาศเตรียมหยุดใช้วัคซีนของซิโนแวคทันทีที่วัคซีนหมดสต็อก หลังมีหลักฐานที่ชี้ว่าวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตาต่ำ โดยรัฐบาลมาเลเซียจะหันไปใช้วัคซีนของไฟเซอร์แทน

และล่าสุดทางการมาเลเซียได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์ 45 ล้านโดส ซึ้งเพียงพอสำหรับฉีดให้ร้อยละ 70 ของประชากรในประเทศ ซึ่งมาเลเซียตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชากรส่วนใหญ่ภายในสิ้นปีนี้

 

 

คอนเทนต์แนะนำ
รีวิวทุกขั้นตอนการใช้ Antigen Test Kit ตั้งแต่แกะซอง ยันรู้ผล
เช็กโปรแกรมเชียร์นักกีฬาไทยวันนี้ พร้อมลุ้น พาณิภัค-รามณรงค์ คว้าทอง

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ขณะนี้ มีรายการกำลังถ่ายทอดสด คุณสนใจหรือไม่?

POP NEWS

POP NEWS

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ