งานวิจัยที่ศึกษาผู้ป่วยมากกว่า 50,000 คนในระบบโรงพยาบาลมาโยคลินิกในสหรัฐอเมริกาพบว่า ประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นาลดลงจาก 86 เปอร์เซ็นต์เมื่อช่วงต้นปี เหลือ 76 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อสายพันธุ์เดลต้ากำลังระบาด ขณะที่ประสิทธิภาพวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคลดลงจาก 76 เปอร์เซ็นต์เหลือ 42 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกัน
“โมเดอร์นา” เผย ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนโควิด-19 น่าจะอยู่ได้อย่างน้อย 1 ปี
ผลทดลองในแล็บเผย “โมเดอร์นา” ต้านโควิด-19 สายพันธุ์ “เดลตา” ได้ดี
นพ. เวนกี ซุนดาราจัน จากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล nference ในรัฐแมสซาชูเซตส์ หัวหน้างานวิจัยนี้ ระบุว่า ในขณะที่วัคซีนทั้งสองตัวมีประสิทธิภาพป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคโควิด-19 ได้ การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนโมเดอร์นาอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นเร็วๆ นี้ สำหรับใครก็ตามที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาไปแล้วก่อนหน้านี้
เช่นเดียวกับอีกงานวิจัยหนึ่งโดยสถาบันวิจัยลูเนนเฟลด์-ทาเนนบัมในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา พบว่ากลุ่มตัวอย่างผู้อาศัยในบ้านพักคนชราในรัฐออนแทริโอที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์นามีการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วง สูงกว่ากลุ่มที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์
เมื่อถูกถามถึงงานวิจัยสองชิ้นดังกล่าวซึ่งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ medRxiv เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โฆษกของไฟเซอร์ตอบเพียงว่าเรายังคงเชื่อว่าจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ภายในเวลา 6 ถึง 12 เดือน หลังจากได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว เพื่อรักษาระดับการป้องกันสูงสุด
ภาพจาก AFP
