โดยมาตรการที่ที่ประชุมตกลงว่าจะมีการบังคับใช้กันเรียกว่า มาตรการ 2G
มาตรการ 2 G คืออะไร
2G คือคำใช้แทนคน 2 กลุ่ม
- กลุ่มแรกคือ คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว
- ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่ที่ติดเชื้อและหายแล้ว เป็นคนมีภูมิคุ้มกัน
ภายใต้มาตรการจะอนุญาตให้เฉพาะคน 2 กลุ่มนี้ที่สามารถทำกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ เช่นการแข่งขันกีฬา งานแสดงด้านวัฒนธรรม และ การนั่งในร้านอาหารได้
ส่วนคนที่ไม่อยู่ในกลุ่ม 2G คือคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ซึ่งนับว่าเป็นคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน จะถูกห้ามทำกิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้น
เยอรมนีเพิ่มวัคซีนบูสเตอร์โดสหลังโควิด-19 ระบาดหนัก
ผู้นำเยอรมนี ยอมรับโควิดรอบใหม่ "สาหัสสุด" วอนปชช.ฉีดวัคซีน
ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงอีกมาตการที่จะออกมาควบคุมการระบาด นั่นคือ มาตรการ 3G คือ คล้ายๆกับ 2G แต่มีการเพิ่มคนอีกกลุ่มเข้ามาคือ คนที่มีผลตรวจเป็นลบ ถึงแม้ไม่ฉีดวัคซีนก็ตาม สามารถทำกิจกรรมในที่พื้นที่สาธารณะได้ จะเห็นได้ว่า มาตรการ 3G จะมีความเข้มข้นน้อยกว่ามาตรการ 2G
อย่างไรก็ตาม การประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมนีตัดสินใจใช้มาตรการ 2G แทน
สรุปอีกครั้งคือ มาตรการนี้บังคับใช้เฉพาะคนที่ได้รับวัคซีนครบโดส และคนที่ป่วยมีภูมิคุ้มกันแล้วเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ทำกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะได้
เท่ากับว่า คนที่ไม่ฉีดวัคซีนจะต้องถูกจำกัดบริเวณหรือกักตัวอยู่ในบ้าน คล้ายๆกับที่ออสเตรียบังคับใช้กับประชากรกว่า 2 ล้านคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ซึ่งหลังผลการประชุมออกมา คนจำนวนมากเห็นด้วยกับมาตรการ 2G โดยมองว่าเป็นวิธีที่ป้องกันการระบาดได้ดีกว่า 3 G
กลุ่มคนไม่ฉีดวัคซีนเป็นปัญหาใหญ่ในเยอรมนี ถึงแม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลจะมีการออกมาตรการจำกัดไม่ให้คนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเข้าทำกิจกรรมในที่สาธารณะ แต่ก็ยังมีช่องว่างให้คนเหล่านี้เข้าไปได้
คนกลุ่มนี้ใช้วิธีการไปตรวจโควิดฟรีทุกสัปดาห์ตามสถานที่ที่รัฐบาลจัดไว้ แล้วนำผลมาแสดงกับเจ้าหน้าที่เพื่อสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนที่ฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว
การใช้นโยบาย 2G คือการตัดกลุ่มกลุ่มนี้ออก และจะเป็นการบังคับให้คนกลุ่มนี้ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนหากต้องการใช้ชีวิตตามปกติ
ตามศูนย์ฉีดวัคซีนขณะนี้จึงมีประชาชนเข้ารับวัคซีนกันอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากการบังคับทางอ้อมให้คนต้องฉีดวัคซีนเข็ม 1 และ 2 แล้ว อีกมาตรการหนึ่งที่เยอรมนีเร่งใช้เพื่อชะลอการระบาดคือ เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือบูสเตอร์โดส
เจนส์ สปาห์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ไม่จำเป็นต้องรอนานถึง 6 เดือนหลังการฉีดวัคซีนเข็ม 2 จึงจะอนุญาตให้ฉีดเข็ม 3 หรือ เข็มกระตุ้นภูมิได้ โดยมาตรฐานที่ว่าต้องรอ 6 เดือนจึงจะฉีดเข็มที่ 3 ได้นี้ถูกใช้เป็นเกณฑ์ในหลายประเทศ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขมองว่า เยอรมนีสามารถยืดหยุ่น ฉีดเข็มบูสเตอร์ให้เร็วขึ้นได้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
สำหรับตัวเลขผู้ป่วยในเยอรมนียังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 65,371 คน ทำสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
มี 3 ปัจจัยที่ทำให้การระบาดในเยอรมนีกลับมาหลักคือ
1) การระบาดของสายพันธุ์เดลตา ที่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม
2) คนปฏิเสธเข้ารับการฉีดวัคซีน และ
3) ภูมิคุ้มกันเริ่มลดลงในคนที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว
ดังนั้นหนึ่งในมาตรการสำคัญอย่างหนึ่งที่เยอรมนีทำคือ เร่งฉีดบูสเตอร์โดส