เข้าสู่วันที่ 8 ของการสู้รบในยูเครน สถานการณ์ในหลายพื้นที่ยังตึงเครียด โดยที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ มีรายงานระเบิดรุนแรงอย่างน้อย 4 ครั้ง ดังขึ้นในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดย 2 ครั้งแรก เกิดขึ้นใกล้ย่านใจกลางเมือง และอีก 2 ครั้ง ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งเป็นที่ที่ชาวเมืองจำนวนมากใช้เป็นที่หลบภัยการสู้รบ
แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เป้าหมายในการโจมตีละลอกนี้คืออะไร รวมถึงมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้กี่คน
รัสเซียยกระดับโจมตี ส่งทหารพลร่มบุกคาร์คิฟ
แรงงานไทยเปิดใจวินาทีหนีตายในเมืองเคียฟ
ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยยูเครน ระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานในเมือง เกิดขึ้นจากเศษชิ้นส่วนจรวดรัสเซียที่ถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน
ล่าสุด มีรายงานว่า กองทัพรัสเซียประกาศให้ชาวเคียฟที่ต้องการอพยพออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย ใช้เส้นทางออกไปทางเมืองวาซิลกอฟ โดยกำลังทหารรัสเซียจะไม่เข้าไปขัดขวางแต่อย่างใด
นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่รัสเซียแนะนำให้พลเรือนอพยพจากกรุงเคียฟ หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีการแจ้งเตือนแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน รัสเซียก็ยิงจรวดโจมตีหอสัญญาณโทรทัศน์ในพื้นที่
ส่วนที่เมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 เมื่อวานนี้ ก็ถูกยิงถล่มตลอดทั้งวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
อีกเมือง คือ มารีอูปอล (Mariupol) เมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศ ที่มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียเคลื่อนพลเข้าปิดล้อมจากทุกทิศทาง และระดมยิงด้วยจรวดและปืนใหญ่นานกว่า 15 ชม. ล่าสุด กองทัพยูเครนยืนยันว่า ฝ่ายศัตรูยังไม่สามารถยึดเมืองมาริอูปอลได้ พร้อมเสริมว่า มีรายงานการพบเห็นพลร่มรัสเซียในภูมิภาคทะเลดำ รวมถึง เรือรบ มุ่งหน้าไปยังเมืองโอเดสซา เมืองท่าอีกแห่งทางตอนใต้ของประเทศ
อีกเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้อย่าง เคอร์ซอน (Kherson) ที่ก่อนหน้านี้ ยังมีข้อมูลไม่ตรงกันจากทั้ง 2 ฝ่าย ล่าสุด นายกเทศมนตรีเมืองเคอร์ซอนออกมายืนยันว่า กองกำลังรัสเซียยึดเมืองไว้ได้แล้ว หลังการสู้รบกันอย่างหนัก โดยทหารรัสเซีย ได้เข้ายึดสภาเทศบาลของเมือง และกำหนดเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากเคหสถาน
ข้อมูลจากรัฐบาลยูเครนชี้ว่า ขณะนี้ มีพลเรือนเสียชีวิตจากเหตุสู้รบแล้วกว่า 2,000 คน แต่ตัวเลขจากสหประชาชาติ ยังอยู่ที่ 752 คน
ขณะที่เมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมายืนยันเป็นครั้งแรกว่ามีทหารเสียชีวิตจากปฏิบัติการในยูเครนแล้วเกือบ 500 คน แต่ฝั่งยูเครนอ้างว่ารัสเซียสูญเสียทหารไปแล้วกว่า 7,000 นาย
ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ จะเริ่มเปิดการไต่สวนอย่างเต็มรูปแบบ กรณีที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน หลังมีหลักฐานบางอย่างที่เชื่อถือได้ว่าเข้าข่ายเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งรวมถึงการใช้อาวุธต้องห้ามที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงโจมตีพลเรือน
โดยนับจนถึงขณะนี้ มีประเทศสมาชิกอย่างน้อย 39 ประเทศ ยื่นคำขอให้เปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะช่วยให้อัยการสามารถเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้นได้
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตา คือ การเจรจาสันติภาพรอบ 2 ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันนี้ที่เบลารุส โดยขณะนี้ คณะผู้แทนของรัสเซียถึงสถานที่นัดพบแล้ว รอบนี้จัดขึ้นบริเวณชายแดนเบลารุสและโปแลนด์
ส่วนคณะผู้แทนของยูเครน อยู่ระหว่างเดินทาง คาดว่าจะถึงจุดหมายในวันนี้ เบื้องต้น คณะผู้แทนเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย น่าจะเป็นชุดเดียวกับที่ร่วมเจรจารอบแรก ส่วนประเด็นในการพูดคุย น่าจะมีเรื่องข้อตกลงหยุดยิง และการกำหนดเส้นทางการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
