ไปไม่ไหว! จับตารัสเซียกำลังหา "ทางลง" ยุติสงครามยูเครน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




มีความเป็นไปได้ว่ารัสเซียกำลังหาทางออก เพื่อยุติ หรือ ลดขนาดการทำสงครามกับยูเครน หลังบุกไม่คืบและสูญเสียเพิ่ม ขณะที่ในประเทศขัดแย้งมากขึ้น

รัสเซียส่งสัญญาณว่ากำลังละความพยายามจะยึดยูเครนทั้งประเทศ แต่หันมายึดพื้นที่ที่อยู่ในเขตของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน หลังจากกองทัพยูเครนเริ่มยึดพื้นที่คืนมากขึ้นรอบกรุงเคียฟ

รฐมนตรีกลาโหมของรัสเซีย แถลงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ชี้ให้เห็นว่ารัสเซียกำลังปรับเป้าหมายการบุกยูเครน โดยระบุว่าปฏิบัติการในระยะแรกสำเร็จเกือบสมบูรณ์แล้ว และจะมุ่งไปที่เขตดอนบาส ในภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งอยู่ในการยึดครองของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน

รัสเซียชึ้ศึกยูเครนเฟสแรกใกล้สิ้นสุด ปรับแผนมุ่งปลดปล่อยดอนบาส

ยูเครนโจมตีเรือรัสเซีย ในท่าเรือทางตอนใต้ ฝั่งทะเลอาซอฟ

 

 

พลโท เซียร์เกย์ รุดสกอย เจ้ากรมยุทธการ ของคณะเสนาธิการทหารของรัสเซีย ระบุว่าศักยภาพทางการทหารของกองทัพยูเครนลดลงอย่างมาก ทำให้เป็นไปได้ว่าที่จะมามุ่งความพยายามบรรลุเป้าหมายหลัก นั่นคือ การปลดปล่อยเขตดอนบาส

นักวิเคราะห์ทางการทหารมองว่าการประกาศเป้าหมายใหม่ของรัสเซีย ทำให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นในการรักษาหน้าของประธานาธิบดีวลาดีเมียร์ ปูติน ที่จะประกาศชัยชนะในสงครามครั้งนี้ รวมถึงการทำลายศักยภาพทางการทหารของยูเครน ขณะที่บรรดาชาติตะวันตกมองว่าประเด็นพื้นที่ตะวันออกและศักยภาพทางการทหารของยูเครนเป็นข้ออ้างของรัสเซียในการโค้นล้มรัฐบาลยูเครนมากกว่า

การต่อต้านอย่างดุเดือดของกองทัพยูเครน ทำให้รัสเซียล้มเหลวในการยึดเมืองใหญ่ ๆ ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาของการทำสงคราม แต่ในทางตรงกันข้ามกองทัพรัสเซียกลับใช้ยุทธวิธีถล่มเมืองจนพังพินาศ ทำให้คนยูเครนที่อาศัยในเมืองต้องอพยพมากกว่า 44 ล้านคน เพื่อหาที่ปลอดภัย โดยมีผู้ลี้ภัยทะลักเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า 3.7 ล้านคน

แนวรบที่สำคัญของกองทัพรัสเซียที่เคลื่อนเข้าสู่กรุงเคียฟในเกือบทุกด้าน แต่กองทัพยูเครนกลับยันกองทัพรัสเซียเอาไว้ได้นอกเมืองเคียฟ และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่ากองทัพยูเครนสามารถผลักดันกองทัพรัสเซียในภาคตะวันออกให้ถอยล่นกลับไป ถอยห่างจากกรุงเคียฟมากถึง 35 กิโลเมตร 

การผลักดันทหารรัสเซียกลับออกไปทางภาคตะวันออกยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเป็นการถอนทัพของรัสเซียเอง หรือ มาจากการต่อสู้เพื่อผลักดันของทหารยูเครน แต่ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียมีการสูญเสียอย่างหนัก และมีปัญหาการส่งเสบียงและอาวุธเพื่อสนับสนุนทหารในแนวหน้า 

สำนักข่าว Interfax ของรัสเซียรายงานอ้างข้อมูลกระทรวงกลาโหมของรัสเซียว่าทหารรัสเซียเสียชีวิตรวม 1,351 นาย และบาดเจ็บ  3,825 นาย ในขณะที่ทางการยูเครนอ้างว่าทหารรัสเซียเสียชีวิต 15,000 นาย ซึ่งงขณะนี้ตัวเลขทางแท้จริงยังไม่มีการยืนยันและน่าจะสูงกว่านี้มาก

การเปิดสงครามกับยูเครน คนรัสเซียจำนวนมากไม่อยากจะเชื่อว่าสงครามเป็นเรื่องจริง แต่หลังกองทัพรัสเซียบุกยูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ทำให้ชาวรัสเซีย ทั้งบรรดาชนชั้นนำและคนทั่วไปต่างก็ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น เมื่อสหรัฐและชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรครั้งใหญ่ และกำลังส่งผลกระทบไปทั่ว เนื่องจากสถานการณ์สงครามยืดเยื้อมากกว่าที่บรรดาเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซียคาดการณ์ไว้มาก

การทำสงครามครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียหลายคนไม่เห็นด้วย อย่างเช่น มีข่าวว่าผู้ว่าการธนาคารกลางของรัสเซีย ยื่นใบลาออก แต่ประธานาธิบดีปูติน ระงับการลาออกเอาไว้ก่อน ทั้งๆที่เพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอีกสมัยในเดือนมิ.ย.นี้

ที่สำคัญ อนาโตลี ชูเบียส เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในรัสเซีย เนื่องจากมีบาทบาทด้านการค้าระหว่างประเทศมายาวนาน 30 ปี ตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี บอริส เยลท์ซิน ผู้นำคนแรกหลังจากโซเวียตล่มสลาย

ซูเบียส ได้ลาออกทุกตำแหน่งในรัฐบาล โดยเดินทางออกจากประเทศไปอยู่ที่ตุรกี ซึ่งมีรายงานข่าวออกมาว่าเขาลาออกเพราะไม่เห็นด้วยการทำสงครามกับยูเครน 

ซูเบียส เช่นเดียวกับชนชั้นนำของรัสเซียหลายคน ไม่เห็นด้วยกับการทำสงคราม แต่ส่วนมากไม่ใช่คน "วงใน" ของประธานาธิบดีปูติน ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อออกมาคัดค้านเกี่ยวกับบทบาทของรัสเซีย ก็มักจะจะถูกตาหน้าว่า "ทรยศต่อชาติ"

ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวเช่นเกียวกันว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านข่าวกรองของรัสเซีย ถูก "กักบริเวณ" เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการทำสงครามกับยูเครน 

แต่แนวโน้มสงครามที่ยืดเยื้อและผลกระทบที่มากขึ้น ทำให้คนภายนอกกำลังจับจ้องไปที่กลุ่มสนับสนุนประธานาธิบดีปูตินให้ก่อสงคราม แม้บางคนมองไปไกลว่าประธานาธิบดีปูตินอาจถูกโค่นล้มด้วยกองทัพเอง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซียเห็นว่า "เป็นไปได้ยาก"

เพราะตั้งแต่ประธานาธิบดีปูติน ขึ้นครองอำนาจ ได้มีการป้องกันไว้อย่างไร โดยมีการลดทอนอำนาจของบางส่วน และเพิ่มอำนาจให้กับอีกส่วนหนึ่ง ทำให้เป็นไปได้ยากที่จะมีใครมีอำนาจมากพอมาโค้นล้มได้ อีกทั้งสภารัสเซียก็ได้สนับสนุนประธานาธิบดีปูตินมาอย่างยาวนานมาก

สำหรับชนชั้นนำทางเศรษฐกิจนั้น แทบไม่มีบทบาทางการเมืองและบทบาทต่อการตัดสินใจทางการเมืองของประธานาธิบดีปูติน เมื่อบรรดาคนเหล่านี้เคยถูกเรียกไปชี้แจงนโยบายว่าไม่ให้"ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง"

แต่จากสถานการณ์สงครามเข้าสู่เดือนที่สอง สะท้อนให้เห็นว่าเริ่มมีการปรับเปลี่ยนที่สำคัญ ไม่ว่าประธานาธิบดีปูตินจะเผชิญกับแรงกดดันจากไหน แต่ที่แน่ ๆ ภายในรัสเซียเองก็ใช่ว่าจะเห็นด้วยกับสงครามครั้งนี้ ซึ่งไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ในยูเครนในขณะนี้แทบไม่ถือว่าเป็นการได้เปรียบ เพราะขณะนี้นับว่าผิดคาดอย่างมากจากตอนเริ่มต้นสงคราม ที่ประธานาธิบดีปูตินเชื่อกองทัพว่าชาวยูเครนจะสนับสนุน แต่ตรงกันข้ามชาวยูเครนกลับรวมตัวกันต่อต้านรัสเซียทั้งประเทศ

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP ต่างประเทศ

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ