คาดพลเรือนติดอยู่ในเมืองมาริอูปอลจำนวนมาก

เผยแพร่ 4 พ.ค. 2565 ,10:25น.

มีการคาดการณ์ว่า ยังมีประชาชนที่ติดค้างอยู่ที่นั่นอีกหลายร้อยคน รวมถึงยังมีประชาชนอีกราวหนึ่งแสนคนที่ยังอยู่ในเมืองมาริอูปอล

พลเรือนที่ได้รับการอพยพออกมาจากในโรงงานเหล็กอาซอฟสตอล ในเมืองมาริอูปอล ทยอยเดินทางถึงเมืองซาโปริซเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมของรัฐบาลยูเครนอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ หลังพวกเขาติดค้างอยู่ภายในเมืองดังกล่าวมานานหลายสัปดาห์ ท่ามกลางสภาพความเป็นอยู่ที่ขาดน้ำ อาหารและสิ่งของจำเป็นต่างๆ และเมื่อเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง มีการจัดเตรียมโรงพยาบาลและอาสาสมัครเอาไว้แล้วเพื่อคอยดูแลผู้อพยพด้วย โดยประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนยืนยันว่า ตัวเลขผู้อพยพที่ถึงซาโปริซเซียแล้วอยู่ที่ 156 คน

อพยพประชาชนในมาริอูปอล คาดรัสเซียยึดเมืองได้เร็ว ๆ นี้

ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำชาวอเมริกัน ไม่ต้องกลัวสงครามนิวเคลียร์

ด้านนายกเทศมนตรีเมืองมาริอูปอลเปิดเผยว่า ตอนนี้ยังมีพลเรือนกว่า 200 คนอยู่ภายในโรงงานเหล็กอาซอฟสตอล และยังมีพลเรือนอีกราวหนึ่งแสนคนที่อยู่ภายในเมืองมาริอูปอล

ส่วนภารกิจที่เกิดขึ้นภายใต้การดูแลของสหประชาชาติและคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ โดยหัวหน้าผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเปิดเผยวานนี้ว่า ยังไม่ทราบตัวเลขของพลเรือนที่ตกค้างอยู่ในเมืองมาริอูปอลและพื้นที่รอบๆอย่างแน่ชัด แต่เขาก็คาดว่า น่าจะเหลือประชาชนอยู่อีกเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ เขายังแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับสัญญาณที่บ่งบอกว่า การสู้รบเริ่มกลับมาอีกครั้งในพื้นที่โรงงานอาซอฟสตอลและรอบๆ แต่ทางคณะกรรมการกาดชาดจะหาทางเข้าถึงตัวพลเรือนที่ติดค้างต่อไป

สัญญาณที่บ่งบอกว่าการสู้รบกลับมาอีกครั้งที่อาซอฟสตอล ก็คือกลุ่มควันไฟที่เกิดขึ้น พวยพุ่งออกมาจากโรงงานอาซอฟสตอลในเมืองมาริอูปอลอีกครั้งเมื่อวานนี้

รองผู้บัญชาการกองพันอาซอฟในที่หลบภัยของมาริอูปอลเปิดเผยผ่านทางวิดีโอว่า มีการโจมตีเกิดขึ้นท่ามกลางการอพยพพลเรือน ซึ่งเขาก็เรียกร้องให้มีการอพยพออกไปให้เร็วที่สุด

ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่อื่นๆของยูเครน มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียได้โจมตีเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนเมื่อวานนี้ โดยจุดนี้คือบริเวณสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใจกลางเมืองคาร์คิฟ ซึ่งถูกระเบิดลง และเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดับไฟ

นอกจากนี้ ผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของประเทศ หนึ่งในพื้นที่ที่ในขณะนี้รัสเซียกำลังระดมพลไปเพื่อจะเข้ายึดเปิดเผยด้วยว่า เหตุโจมตีทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 คน บาดเจ็บอีก 27 คน

ขณะที่เมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกมายืนยันว่า มีการโจมตีฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในเมืองโอเดสซ่า เมืองท่าทางตอนใต้ของยูเครนด้วยขีปนาวุธจริง โดยระบุว่า ได้สร้างความเสียหายต่ออากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ขีปนาวุธ และเครื่องกระสุนที่สหรัฐและชาติยุโรปส่งมาให้ยูเครนอีกด้วย

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ทวิตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวานนี้ว่า สัปดาห์ที่แล้ว เขาได้ยื่นคำข้องบประมาณไปยังสภาคองเกรส เพื่อให้มั่นใจว่าสหรัฐสามารถส่งอาวุธให้แก่ยูเครนได้ต่อเนื่อง และมอบความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและมนุษยธรรมได้อย่างต่อเนื่อง เขาจึงขอเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านงบก้อนดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อช่วยยูเครนเอาชนะการรุกรานของรัสเซียที่กำลังเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสได้ยกหูโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ซึ่งทางผู้นำฝรั่งเศสเรียกร้องให้ทางรัสเซียเปิดทางให้อพยพพลเรือนออกจากอาซอฟสตอล
ส่วนทางประธานาธิบดีปูตินได้บอกกับมาครงด้วยว่า ชาติตะวันตกต้องหยุดส่งอาวุธให้ยูเครน โดยกล่าวหาว่ายูเครนนั้นก่ออาชญากรรมสงครามและอ้างว่า สหภาพยุโรปก็เพิกเฉยต่อสิ่งนี้ อีกทั้งระบุว่า รัฐบาลยูเครนนั้นไม่มีความพร้อมและไม่มีความต่อเนื่องที่จะยุติความขัดแย้งครั้งนี้ และฝ่ายรัสเซียยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจา

นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงเสนอที่จะเสด็จไปเยือนกรุงมอสโกของรัสเซีย เพื่อเข้าพบกับประธานาธิบดีปูติน ในความพยายามยุติสงครามในยูเครนด้วยพระองค์เองอีกด้วย