"ยูเครน"ชิงพื้นที่ทางตะวันออกคืนจากรัสเซียได้มากขึ้น

ตอนนี้ กองทัพยูเครนชิงพื้นที่กลับคืนมาได้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะที่เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเมืองคาร์คีฟ ส่วนสถานการณ์ในเมืองมาริอูปอลทางตอนใต้ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากรัสเซียโจมตีใส่โรงงานอาซอฟสตอลหนักขึ้น เพื่อหวังเผด็จศึกในเมืองนี้ ส่วนในเมืองอื่น ๆ ทางใต้ รัสเซียเริ่มชิงพื้นที่กลับมาได้มากขึ้น

แผนที่สถานการณ์การต่อสู้ในภาพรวม ตอนนี้กองทัพยูเครนยึดคืนเมืองทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนได้แล้ว แต่ทางตะวันออกและใต้ยังถูกกองทัพรัสเซียยึดครองไว้ได้

รัสเซียกลายเป็นชาติที่ถูกคว่ำบาตรมากที่สุด

รัสเซียจ่อบังคับ "ชาวเมืองเคอร์ซอน" ใช้เงินรูเบิล

อย่างไรก็ดี ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีว่า ในหลายเมืองกองทัพยูเครนเริ่มช่วงชิงพื้นที่กลับคืนมาได้บ้างแล้ว

เมื่อเราลงไปดูรายละเอียดในภาคตะวันออก โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างเมืองคาร์คีฟ ตอนนี้ มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียและยูเครนปะทะกันอยู่เพื่อแย่งชิงพื้นที่ในเมือง

อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนเริ่มโจมตีกลับ และยึดพื้นที่ได้มากขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่เคยถูกรัสเซียถูกยึดพื้นที่เกือบทั้งหมดไว้

จากแผนที่จะเห็นได้ว่า กองทัพยูเครนเริ่มเดินหน้าชิงพื้นที่ทางด้านตะวันออกของคาร์คีฟกลับมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กองทัพรัสเซียต้องถอยร่นกลับไป

แต่ในเมืองอีซุม รูบิชเนีย โปปาสนา ซีเวโรโดเนตสก์ และไลมาน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของภูมิภาคดอนบาส มีรายงานว่ามีการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะกองทัพรัสเซียต้องการรุกคืบไปทางตะวันตกของภูมิภาคดอนบาสมากขึ้น

จะเห็นได้ว่ายูเครนเริ่มชิงพื้นที่สำคัญของภาคตะวันออกกลับมาได้มากแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยูเครนสามารถต้านทานกองทัพรัสเซียได้มากขึ้น เป็นเพราะยูเครนได้รับอาวุธหนัก รวมถึงขีปนาวุธต่อต้านรถถังหลายตัวจากชาติตะวันตกหลังจากกองทัพยูเครนยึดคืนพื้นที่ได้ ประชาชนเริ่มทยอยกลับเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น

หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองคาคิฟกา ทางภาคตะวันออกของคาร์คีฟ  โดยภาพถ่ายจากโดรนแสดงให้เห็นอาคารบ้านเรือนที่ถูกโจมตีจนเสียหายหมด อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่นี่บอกว่า พวกเขาจะฟื้นฟูเมือง และจะอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ต่อไป เพราะที่นี่คือ แผ่นดินเกิดของพวกเขา

ภาพความเสียหายยับเยินนี้ คือประจักษ์พยานในการต่อสู้อย่างหนักหน่วงระหว่างทหารรัสเซียกับยูเครน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าการที่ยูเครนสามารถยึดจุดนี้กลับมาได้คือ ที่ตั้งของที่นี่

วิลคีฟกา ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียเพียง 30 กิโลเมตรเท่านั้น นั่นแปลว่าอาจมีโอกาสที่การโจมตีโต้กลับของยูเครน จะไปถึงชายแดนด้านตะวันตกของรัสเซีย

อันที่จริงการโจมตีชายแดนด้านตะวันตกของรัสเซียเคยเกิดขึ้นแล้ว โดยย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา กองทัพยูเครนได้โจมตีคลังเก็บน้ำมันบริเวณเมืองเบลโกรอด ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของรัสเซีย

หลายคนมองว่าการเริ่มชิงคืนพื้นที่ทางตะวันออกของคาร์คีฟกลับมาได้คือ การเปลี่ยนทิศทางการรบในสงครามครั้งนี้

อีกจุดที่ต้องให้ความสนใจคือ เมืองมาริอูปอล โดยเฉพาะที่โรงงานอาซอฟสตอลที่มีกองกำลังยูเครนชุดสุดท้ายกว่า 2,000 นาย ที่ยังไม่ยอมจำนน

เมื่อวาน กองพันอาซอฟได้ปล่อยภาพทหารที่บาดเจ็บสาหัสในโรงงานอาซอฟสตอล ออกมาภาพของทหารบางส่วนที่บาดเจ็บและติดอยู่ด้านใน บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัสสาหัส จนถึงขั้นต้องตัดขา

นักรบจากกองพันอาซอฟหลบอยู่ในระบบอุโมงค์ที่ซับซ้อนของโรงงานมากกว่า 2 เดือนแล้ว และทั้งหมดปฏิเสธไม่ยอมจำนนต่อทหารรัสเซียที่ล้อมโรงงานอยู่ และล่าสุดรัสเซียยังคงระดมโจมตีโรงงานเหล็กนี้อย่างหนักต่อเนื่อง

ภาพล่าสุดที่มีการบันทึกไว้เผยให้เห็นควันและกลุ่มควัน ที่เกิดขึ้นจากการโจมตีจากทหารรัสเซียที่อยู่รอบๆโรงงาน สภาพโรงงานได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ในขณะที่รอบนอกอาซอฟสตอล ส่วนที่เหลือของเมืองมาริอูปอลตกอยู่ในการยึดครองของรัสเซียหมดแล้ว

เมื่อวานนี้ ปรากฏภาพของชาวเมืองออกมาเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเรือนและพยายามที่จะใช้ชีวิตต่อ ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความยากลำบาก

ตอนนี้ มีการประมาณการณ์ว่า ยังมีพลเรือนประมาณ 100,000 คนจากที่มีทั้งหมด 400,000 คนติดอยู่ในเมืองมาริอูปอล

จนถึงตอนนี้ ไม่มีรายงานว่า รัสเซียจะทำอย่างไรต่อกับเมืองมาริอูปอลที่ยึดได้ นักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ คาดว่ารัสเซียอาจใช้วิธีลงประชามติเพื่อสร้างความชอบธรรมในการครอบครองเหมือนที่ทำกับไครเมียในปี 2014

ในขณะที่เมืองเคอร์ซอน ซึ่งอยู่ถัดมาทางตะวันตกของเมืองมาริอูปอล นักวิเคราะห์คาดว่ารัสเซียน่าจะประกาศเอกราชให้เป็นสาธารณรัฐใหม่ เรียกว่า สาธารณรัฐเคอร์ซอน

เมื่อพูดถึงประเด็นเรื่องการลงประชามติในพื้นที่ที่รัสเซียยึดครองอยู่  มีเสียงมาจากประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนเกี่ยวกับเรื่องนี้ในขณะที่ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ผ่านกฎหมายยืม-เช่าอาวุธ

 โดยเขาระบุในวิดีโอเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า การเจรจากับรัฐบาลรัสเซียจะไม่ประสบความสำเร็จแน่ๆ หากว่ารัสเซียจะใช้การทำประชามติปลอมๆ เพื่อผนวกดินแดนของยูเครนเป็นของตนเอง