ซาลาห์ อับเดสลาม มือก่อเหตุวินาศกรรมปารีสปี 2015 เพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ในข้อหาก่อการร้ายและฆาตกรรม และทำให้เขาได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ศาลฝรั่งเศสยังตัดสินว่า เหตุวินาศกรรมดังกล่าวมีคนอื่น ๆ อีก 19 คนที่มีส่วนรู้เห็น แต่ในจำนวนดังกล่าว 6 ราย เชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้ว
คดีนี้ถือว่าเป็นการพิจารณาคดีใหญ่ที่สุดของศาลฝรั่งเศส ในยุคสมัยใหม่ของประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสเลยทีเดียว โดยเริ่มพิจารณากันมาตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนปี 2564
“เวียร์ ศุกลวัฒน์” เผยภาพหวาน สวมแหวนให้ “วิกกี้” แฟนสาว
เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ส่วนขยาย เริ่มใช้สิทธิที่พัก 8 ก.ค.นี้
ตลอดระยะเวลากว่า 9 เดือนที่ผ่านมา มีการเข้าให้ปากคำจากทั้งเหยื่อเหตุวินาศกรรม ผู้สื่อข่าว และครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเข้าไว้ด้วยกัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุวินาศกรรมครั้งใหญ่ เป็นเหตุโจมตีในฝรั่งเศสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
ในการเริ่มต้นการพิจารณาคดี รายงานระบุว่า นายซาลาห์มีท่าทีที่ค่อนข้างแข็งขืน และประกาศว่าตัวเขาเป็นทหารของ กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส แต่ในภายหลัง เขาได้เปลี่ยนท่าที ขอโทษต่อเหยื่อ และได้บอกกับศาลว่า เขาไม่ใช่ฆาตกร และการที่มีการพิจารณาคดีว่าเขาเป็นฆาตกรนั้น ถือว่าไม่ยุติธรรม เขาอ้างด้วยในระหว่างการพิจารณาคดีว่า เขาตัดสินใจไม่จุดชนวนระเบิดที่เสื้อกั๊กที่ติดระเบิดฆ่าตัวตายเอาไว้ในค่ำคืนที่เกิดเหตุวินาศกรรม
อย่างไรก็ตาม ศาลมีหลักฐานที่ชี้ว่า ระเบิดไม่ทำงานมากกว่า ดังนั้นศาลจึงไม่เชื่อว่า นายซาลาห์มาเปลี่ยนใจไม่ก่อเหตุในนาทีสุดท้าย
หนึ่งในเหยื่อของเหตุวินาศกรรมอย่าง โอลิวิเย่ร์ ลาโปลด์ เปิดเผยว่า ในวันนั้นขณะเกิดเหตุ เขาและภรรยา กับลุงและป้า อยู่ที่คอนเสิร์ตที่ บาตาคล็องฮอลล์ สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งกลุ่มคนร้ายได้สาดกระสุนเข้ามาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ครอบครัวของเขาปลอดภัยจากเหตุการณ์นั้น แต่ตัวเขาก็เป็นหนึ่งในพยานที่เข้ามาให้การตลอดระยะเวลา 9 เดือนของการเปิดพิจารณาคดี ซึ่งตัวเขาเองก็มองว่า การตัดสินจำคุกซาลาห์ตลอดชีวิตนั้นก็สาสม และเป็นคำตัดสินที่ดีที่สุดแล้วของผู้พิพากษา
สำหรับ เหตุวินาศกรรมปารีสเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ปี 2015 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 130 คน บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน โดยกลุ่มมือปืนและมือระเบิดฆ่าตัวตาย เริ่มเปิดฉากโจมตีทั้งที่สนามกีฬาสตาดเดอฟร็องส์ ศูนย์แสดงดนตรีบาตาคล็อง รวมถึงบาร์และคาเฟ่อีกหกแห่ง
เหตุวินาศกรรมเกิดขึ้นยาวนานกว่าสองชั่วโมง โดยคนร้ายได้สังหารเหยื่อจำนวนหนึ่ง และจับประชาชนส่วนหนึ่งเอาไว้เป็นตัวประกัน โดยเหตุโจมตียุติลงหลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถยิงคนร้ายหนึ่งรายเสียชีวิต และอีกสองเสียชีวิตจากการจุดระเบิดฆ่าตัวตาย
หลังเกิดเหตุ กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอซิสออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลัง โดยทางกลุ่มเรียกร้องให้บรรดาสาวกออกมาโมตีกรุงปารีส เนื่องจากฝรั่งเศสเข้าไปมีบทบาทในการสู้รบกับกลุ่มไอซิสในอิรักและซีเรีย
หลังเกิดเหตุในยามค่ำคืนวันนั้น ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยนั้น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วฝรั่งเศส ซึ่งมีการบังคับใช้อย่างยาวนานถึง 2 ปีด้วย