พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กำลังจะมีขึ้นในวันนี้ (19 ก.ย.) แล้ว โดยคาดว่าจะมีผู้นำประเทศจากทั่วโลกเดินทางไปเข้าร่วม เพื่อถวายความอาลัยครั้งสุดท้าย และจะถือเป็น “อีเวนต์” รวมตัวเชื้อพระวงศ์และผู้นำประเทศทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำนักพระราชวังอังกฤษได้ส่งคำเชิญไปยังเชื้อพระวงศ์ ประมุขของรัฐ บุคคลสำคัญและอาคันตุกะต่างชาติราว 500 คน ให้เข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพที่จะมีขึ้นในวันนี้ ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์
โจ ไบเดน เข้าสักการะพระบรมศพ "ควีนเอลิซาเบธที่ 2"
ลำดับขั้นสุดท้ายพระราชพิธีพระบรมศพ "ควีนเอลิซาเบธที่ 2"
สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อย่างแน่นอน คือพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง 4 พระองค์ ได้แก่ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซกซ์ พร้อมคู่สมรส
ยังมีพระราชนัดดาทั้ง 8 พระองค์ คือ เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกส์ เจ้าหญิงเบียทริซและเจ้าหยิงยูจินี ปีเตอร์ ฟิลลิปส์ และซาร่า ทินดัลล์ เลดี้ ลูอีส วินด์เซอร์ และเจมส์ ไวเคานต์ เซเวิร์น ที่จะเข้าร่วมในพระราชพิธี
ขณะที่ สมาชิกราชวงศ์ยุโรป ซึ่งหลายพระองค์มีความเกี่ยวข้องทางสายพระโลหิตกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เช่น สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปและสมเด็จพระราชินีมาตีลด์แห่งเบลเยียม สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์และสมเด็จพระราชินีมักซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์ พร้อมด้วยเจ้าหญิงเบียทริกซ์ อดีตสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเนเธอร์แลนด์ จะเสด็จมาเข้าร่วม
ด้านสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิปเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน ทรงตอบรับคำเชิญร่วมพระราชพิธีพระบรมศพควีนเอลิซาเบธที่ 2 แล้ว เช่นเดียวกับ เชื้อพระวงศ์จากนอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์กและโมนาโก
นอกจากราชวงศ์ยุโรปแล้ว จะมีเชื้อพระวงศ์จากชาติอื่น ๆ เสด็จมาเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพด้วย อาทิ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะของญี่ปุ่น กษัตริย์จิกมีแห่งภูฏาน
ส่วนผู้นำจากชาติต่าง ๆ ในเครือจักรภพก็เข้าร่วมพระราชพิธีครั้งนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี อัลบานีสเนซี นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น และนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด
ผู้นำระดับโลกคนอื่น ๆ ที่จะเข้าร่วม เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลข 1 ประธานาธิบดีบราซิล ชาอีร์ โบลโซนาโร ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีอิตาลี เซอร์จิโอ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีเยอรมนี แฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ไมเคิล มาร์ติน เป็นต้น
เช่นเดียวกับประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ของบราซิล / ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ฮาลิมา ยาคอบของสิงคโปร์ / สมเด็จพระราชาธิบดีฮัสซานัล โบลเกียห์แห่งบรูไน ตลอดจน เออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปที่จะเข้าร่วมในพิธี
ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทยเอง มีรายงานว่า นายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นผู้แทนประเทศไทยในสหราชอาณาจักร จะเป็นตัวแทนเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพฯ เช่นเดียวกับบางประเทศที่ส่งทูตเป็นตัวแทน เช่น อาร์เจนตินา อินโดนีเซีย
ประธานาธิบดี สี จิ้งผิง ของจีนเอง ก็ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมพิธี ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกสภาผู้แทษราษฎรและสภาขุนนาง เนื่องจากจีนถูกกล่าวหาว่ากวาดล้างปราบปรามกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
แหล่งข่าวรัฐสภาระบุว่า เจ้าหน้าที่จีน ถูกสั่งห้ามเข้าร่วมถวายสักการะหีบพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถฯ ณ เวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ด้วย ขณะที่ รัฐบาลจีนยืนยันว่า รองประธานาธิบดีหวัง ฉีซาน จะเข้าร่วมในพระราชพิธี
ด้านเจ้าชายมุฮัมมัโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารของซาอุดิอาระเบีย ได้รับคำเชิญเช่นกัน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียในกรุงลอนดอน ยืนยันว่า พระองค์จะประทับอยู่ในสหราชอาณาจักรช่วงสุดสัปดาห์นี้ ถือเป็นการเสด็จเยือนในสหราชอาณาจักรครั้งแรก และเสด็จมาประทับอยู่ในสหราชอาณาจักรแล้ว แต่ล่าสุด มีรายงานว่า พระองค์จะไม่เสด็จร่วมพระราชพิธี โดยสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของฝ่ายซาอุดิอาระเบียเอง
ก่อนหน้านี้ บรรดากลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ที่อังกฤษตัดสินใจเชิญมกุฎราชกุมารซาอุฯ ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน จากเหตุสังหาร “จามาล คาช็อกกี” นักข่าวชาวซาอุฯ เมื่อปี 2018
ในขณะเดียวกัน มีบางประเทศที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพฯ เช่น ซีเรีย เวเนซุเอลา และอัฟกานิสถาน เนื่องจากสหราชอาณาจักรไม่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับประเทศเหล่านี้
แต่บางประเทศก็ไม่ได้รับเชิญเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรความสัมพันธ์ ได้แก่ รัสเซีย เบลารุส จากกรณีการรุกรานยูเครน และเมียนมา จากกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน และมีบางประเทศที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม แต่อนุญาตให้มาแค่ตัวแทนระกับเอกอัครราชทูตเท่านั้น ประกอบด้ว อิหร่าน เกาหลีเหนือ และนิการากัว
ติดตามชมบรรยากาศสด “พระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2” จากมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน ในวันจันทร์ ที่ 19 กันยายน 2565 ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป
ภาพจาก AFP
“โบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ” ที่ประทับสุดท้ายของควีนเอลิซาเบธที่ 2
เปิดพระราชสมบัติ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ตกทอดมายังสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3