ทีมสืบสวนพิเศษบุกค้น สนง.ตำรวจกรุงโซล ปมรับมือเหตุอิแทวอน

เมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) หน่วยงานสืบสวนพิเศษ ที่รับดูแลคดีโศกนาฏกรรมฮาโลวีนในย่านอิแทวอน บุกค้นสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงโซล สถานีตำรวจเขตยงซาน ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ย่านอิแทวอน และสำนักงานอีก 6 แห่งในกรุงโซล มีการสั่งพักงานผู้กำกับสถานีตำรวจเขตยงซาน และยึดเอกสารภายในบางส่วน โดยเฉพาะรายงานบันทึกการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ผ่านสายด่วน 112

การบุกค้นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์และเหมาะสมหรือไม่

เกาหลีใต้ให้ญาติติดต่อรับทรัพย์สินเหยื่อ "อิแทวอน" ตายเพิ่มเป็น 156 คน

ผู้นำเกาหลีใต้สั่งสอบปม ตร.เมินสายโทรแจ้ง ก่อนเกิดเหตุอิแทวอน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมายอมรับเองว่า เจ้าหน้าที่ยังรับมือเหตุที่เกิดขึ้นได้ไม่ดีพอ

ข้อมูลจากเอกสารของตำรวจ ชี้ว่า มีประชาชนโทรแจ้งถึง 11 ครั้ง ครั้งแรกตั้งแต่ 4 ชม.ก่อนเกิดเหตุ แต่ตำรวจก็ชะล่าใจ ไม่ได้ลงพื้นที่ทันที รอจนกระทั่งมีคนแจ้งเหตุมาแล้ว 4 สาย จึงส่งกำลังตำรวจไปดู

สอดคล้องกับคำให้การของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ที่บอกว่า ตำรวจในพื้นที่ส่วนใหญ่ง่วนอยู่กับการดูแลการจราจรบนถนนหลัก แทบไม่มีใครมาดูแลความปลอดภัยของคนเดินเท้า ที่อยู่ตามถนนสายรอง หรือตามซอยเล็ก ๆ เลย

นอกจากนี้ ทีมสืบสวนยังพุ่งเป้าไปที่ประเด็นเรื่องสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงโซลปฏิเสธคำขอของสถานีตำรวจยงซานในการเสริมกำลังตำรวจปราบจลาจล รวมถึงความล้มเหลวในการดูแลความปลอดภัย ทั้งที่สำนักงานเขตยงซาน สถานีรถไฟใต้ดินอิแทวอน และตำรวจ จัดประชุมเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ 3 วันก่อนเกิดเหตุ

ขณะเดียวกัน ทีมสืบสวนยังได้สอบปากคำชายสวมที่คาดผมหูกระต่าย ซึ่งชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตว่าเป็นผู้ตั้งใจผลักคนอื่น ๆ จนนำมาซึ่งเหตุเศร้าสลด

เบื้องต้น ชายคนดังกล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาและยื่นหลักฐานเพื่อยืนยันเส้นทางของตนในคืนเกิดเหตุ จากนี้ ตำรวจจะพิจารณาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดูว่าจะเปลี่ยนสถานะชายผู้นี้จากผู้ให้ปากคำ มาเป็นผู้ต้องหาหรือไม่

และล่าสุด ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายยุน ฮี-กึน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานเรื่องเหตุการณ์ที่อิแทวอนครั้งแรก ในเวลา 00.14 น. หรือหลังจากเกิดเหตุไปแล้วถึงเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะยิ่งจุดกระแสโกรธแค้นในหมู่ประชาชนเกี่ยวกับความล่าช้าในการทำงานของเจ้าหน้าที่

ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระบุว่า ประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ได้รับทราบเหตุครั้งแรกราวๆ 23.00 น. หรือ 40 นาทีหลังเกิดเหตุ

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายคลึงกับโศกนาฏกรรมเรือโดยสารเซวอลล่ม เมื่อปี 2014 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 304 คน

โดยในครั้งนั้น ประชาชนชาวเกาหลีใต้กล่าวโทษรัฐบาลที่ปฏิบัติการช่วยเหลือล่าช้า จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะช่วงหลังจากที่เรือจมลงไปในน้ำแล้ว ผู้ปกครองบางคน ยังได้รับข้อความจากเด็ก ๆ ว่าพวกเขาปลอดภัยและติดอยู่ในเรือ แต่ตำรวจไม่เชื่อและไม่ได้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ทำให้ผู้โดยสารที่ติดอยู่ในเรือเสียชีวิตทั้งหมด

ภาพจาก AFP