พันธมิตรชาติตะวันตกและกลุ่มนาโต (NATO) ระบุว่า เหตุขีปนาวุธตกที่หมู่บ้าน “พาเซโวโดฟ (Przewodów)” ในอาณาเขตโปแลนด์เมื่อวันอังคาร (15 พ.ย.) ที่ผ่านมา มีแนวโน้มเป็นอุบัติเหตุจากการที่ยูเครนพยายามยิงสกัดขีปนาวุธของรัสเซีย แต่ยังยืนยันว่าฝ่ายผิดคือรัสเซีย เพราะเป็นผู้ก่อสงคราม
โดยสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประเมินว่า เหตุขีนาวุธตกอาจจะเป็นผลมาจากการทำงานของระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน เช่นเดียวกับที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกก่อนหน้านี้ ขีปนาวุธไม่ว่าจะถูกยิงมาจากรัสเซีย
คาดขีปนาวุธตกในโปแลนด์ ยิงโดยกองกำลังยูเครน เพื่อสกัดมิสไซล์รัสเซีย
“ไบเดน” เผย มิสไซล์ที่ตกในโปแลนด์ ไม่น่าจะถูกยิงมาจากรัสเซีย
รัสเซียถล่มยูเครนหนัก ขีปนาวุธตกแผ่นดินโปแลนด์ ชาวบ้านดับ 2 ราย
สอดคล้องกับความเห็นของ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ที่ระบุว่า จากการสืบสวนเบื้องต้น คาดว่าเหตุดังกล่าวน่าจะเกิดจากขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่ยูเครนยิงขึ้นไปเพื่อป้องกันการโจมตีจากฝ่ายรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม สโตลเทนเบิร์กยืนยันว่า เหตุดังกล่าวไม่ใช่ความผิดของฝ่ายยูเครน เพราะต้นเหตุที่แท้จริงคือรัสเซียที่ก่อสงครามครั้งนี้ขึ้นมา
“การสืบสวนเหตุที่เกิดขึ้นยังคงดำเนินต่อไป และเราต้องรอผลการสืบสวน แต่เรายังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นการจงใจโจมตี และเรายังไม่พบข้อบ่งชี้ว่ารัสเซียกำลังจะโจมตีนาโต” สโตลเทนเบิร์กกล่าว
เขาเสริมว่า “การวิเคราะห์ในเบื้องต้นของเราพบว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เหตุการณ์นี้จะเกิดจากขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนที่ถูกยิงขึ้นเพื่อปกป้องดินแดนยูเครนจากขีปนาวุธรัสเซีย ... แต่ผมขอพูดให้ชัดเจนว่า นี่ไม่ใช่ความผิดของยูเครน รัสเซียคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุด เพราะเป็นฝ่ายที่ไม่หยุดทำสงครามต่อยูเครน”
นอกจากนี้ สโตลเทนเบิร์ก ได้ยืนยันว่าโปแลนด์ยังไม่ใช้บทบัญญัติมาตรา 4 ของสนธิสัญญานาโต เพื่อเรียกประชุมชาติสมาชิก ในกรณีความมั่นคงตกอยู่ภายใต้การคุกคาม พร้อมยืนยันว่านาโตจะดำเนินการอย่างรอบคอบ และเด็ดขาดในสถานการณ์เช่นนี้
รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการประกาศใช้บทบัญญัติมาตรา 5 ก็น่าจะเป็นไปได้น้อยเช่นกัน บทบัญญัตินี้ระบุว่า “การโจมตีหนึ่งในประเทศสมาชิกด้วยอาวุธ จะถือเป็นการโจมตีกลุ่มนาโตทั้งหมด ... หากการโจมตีด้วยอาวุธดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ละประเทศที่มีสิทธิในการป้องกันตนเองซึ่งเป็นที่ยอมรับในมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ จะช่วยพันธมิตรที่ถูกโจมตีดังกล่าวโดยทันที”
ขณะที่ ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี มั่นใจว่า ขีปนาวุธที่ตกในโปแลนด์ไม่ใช่ขีปนาวุธของยูเครนแน่นอน แต่เป็นของรัสเซีย จากรายงานของกองทัพยูเครน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ยูเครนต้องได้รับข้อมูลทั้งหมดจากชาติพันธมิตร รวมทั้งต้องได้รับอนุญาตให้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อร่วมตรวจสอบ
มีรายงานเบื้องต้นว่า ที่หมู่บ้านพาเซโวโดฟ พบชิ้นส่วนมอเตอร์ 48D6 ของขีปนาวุธซีรีส์ 5V55 ของระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-300 AD ซึ่งถูกผลิตโดยรัสเซียจริง แต่เป็นอาวุธที่ยูเครนมีเหมือนกัน
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
ภาพจาก AFP