สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ รีอายาตุดดิน อัล-มุสตาฟา บิลลาฮ์ ชาห์ พระประมุของค์ปัจจุบันของมาเลเซีย ทรงมีพระราชกกฤษฎีกากำหนดให้ทุกพรรคการเมืองต้องยื่นรายชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเวลา 14.00 น.ของวันนี้
นอกจากนี้ พรรคการเมืองของมาเลเซียยังต้องประกาศว่าจะร่วมมือกับพรรคใดบ้างในการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ สำนักพระราชวังได้รับผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นทางการแล้ว
ยามาฮ่า แนะนำ YZF-R3 สีใหม่ พร้อมเปิดราคา 2.07 แสนบาท
สลด 2 หญิงไทยเสียชีวิต ขณะเดินเขาในเนปาล
โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย จะเป็นผู้กำหนดให้หัวหน้าพรรคการเมืองและขั้วพันธมิตร ต่างๆต้องเข้าสู่กระบวนการพูดคุยกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล และยื่นรายชื่อบุคคลผู้เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคการเมืองเชื่อว่าเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากเสียงข้างมากในสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย ระบุว่าการเสนอชื่อบุคคลดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีควรดำเนินการด้วยการออกแถลงการณ์หรือประกาศเป็นลายลักษณ์อักษร
โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซียระบุว่าการตัดสินพระทัยของสมเด็จพระราชาธิบดีในการเลือกพรรคการเมืองใด หรือ ขั้วการเมืองใดเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีให้ถือว่าเป็นข้อยุติ
สำหรับมาเลเซียเจอสภาวะ “สภาแขวน” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ หลังผลการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 15 ซึ่งเปิดหีบลงคะแนนกันไปตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า กลุ่มพันธมิตรแห่งความหวัง หรือ ปากาตัน ฮาราปัน (PH) ซึ่งเป็นแนวร่วมฝ่ายค้าน ที่นำโดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ได้ที่นั่งในสภาไปมากที่สุด คือ 82 ที่นั่ง จากทั้งหมด 222 ที่นั่ง แต่ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่ง
ตามมาด้วยกลุ่มพันธมิตรแห่งชาติ หรือ เปริกาตัน เนชันแนล (PN) ของอดีตนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ที่ได้ไป 73 ที่นั่ง ส่วนกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ หรือ บาริซัน เนชันแนล (BN) ของนายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งมีพรรคการเมืองหลักคือ พรรคอัมโน (UMNO) ได้ไปเพียง 30 ที่นั่ง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งผลงานย่ำแย่ของพรรคอัมโน พรรคการเมืองเก่าแก่ที่เคยเป็นรัฐบาลมานานกว่า 60 ปี นับตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ
จากผลการเลือกตั้ง จะเห็นว่าไม่มีกลุ่มพรรคการเมืองใดได้คะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่ง โดยทั้งนายอันวาร์และอดีตนายกฯ มูห์ยิดดิน ต่างประกาศตัวว่าเป็นผู้ชนะ ทำให้ สิ่งที่ต้องจับตานับคือ การเจรจาของสองผู้สมัคร เพื่อชิงจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ ซึ่ง 2 พรรคการเมืองที่อาจเป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาล คือ พรรคร่วมรัฐซาราวัก (GPS) และรัฐซาบาห์ (GRS) ซึ่งได้ไป 22 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่งตามลำดับ โดยนายมูห์ยิดดินประกาศแล้วว่า พรรคของตนจะเดินหน้าเจรจากับพรรคการเมืองจากรัฐซาราวักและซาบาห์