หลังจากที่เมื่อวันพุธ (23 พ.ย.) ทางการจีนเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงถึง 31,444 ราย ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดในจีน ทำให้มีการประกาศคุมเข้มมาตรการในหลายเมืองอีกครั้งเพื่อลดการระบาด ไม่ว่าจะเป็นปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เจิ้งโจว ฯลฯ รวมถึงสั่งบังคับตรวจหาเชื้อให้ประชาชนทั้งเมืองด้วย
สำหรับที่เมืองเจิ้งโจว เพิ่งเกิดเหตุประท้วงครั้งใหญ่ในฟ็อกซ์คอนน์ โรงงานผลิตไปโฟนในจีน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ต้องล็อกดาวน์พื้นที่โรงงาน ห้ามพนักงานเข้าออก
พนง.ฟ็อกซ์คอนน์ในจีนก่อหวอดประท้วง โวยอาหารไม่พอ-ไม่ได้โบนัส
Zero COVID เอาไม่อยู่ จีนพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายแรกในรอบ 6 เดือน
ขอกลับไปใช้ชีวิตปกติ ชาวจีนยังหวังยกเลิก Zero-Covid
แต่สภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ การปฏิบัติที่ไม่ดี อาหารที่จัดไว้ไม่เพียงพอ และพนักงานใหม่หลายคนไม่ได้โบนัสพิเศษอย่างที่บริษัทสัญญาไว้ ก็ได้นำไปสู๋การประท้วงทำลายข้าวของรุนแรงถึงขนาดเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาในการปราบปราม
เมืองเจิ้งโจวซึ่งมีประชากร 6 ล้านคนถูกสั่งล็อกดาวน์เป็นเวลา 5 วัน โดยทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้าน และต้องตรวจ PCR หาโควิด-19 ทุกวัน
ส่วนที่กว่างโจวได้ล็อกดาวน์เขตไป๋หยุนเป็นเวลา 5 วันเพื่อควบคุมจำนวนเคสที่เพิ่มขึ้น ประชาชนต้องอยู่บ้าน และระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดหยุดวิ่งชั่วคราว โดยหากไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน อาจพิจารณายกเลิกข้อจำกัด
รัฐบาลเมืองฉางชุน ทางตะวันออกเฉียงเหนือในมณฑลจี๋หลิน เรียกร้องให้ประชาชนหยุดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงการไปสถานที่สาธารณะ ร้านอาหาร และการชุมนุมในที่สาธารณะ
ขณะที่เซี่ยงไฮ้เข้มงวดการจำกัดการเข้าเมือง โดยประกาศว่า ผู้ที่เดินทางเข้าเมืองตั้งแต่วันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) จะถูกบังคับตรวจหาเชื้อโควิด-19 และห้ามไม่ให้ไปร้านอาหารและศูนย์การค้า รวมถึงสถานที่สาธารณะอื่น ๆ เป็นเวลา 5 วันหลังจากเดินทางมาถึง
ด้านกรุงปักกิ่งได้กำหนดให้ผู้ที่จะเข้าเมือง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือผู้อยู่อาศัยในเมืองก็ตาม ต้องมีผลตรวจโควิด-19 แบบ PCR เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง ขึงจะสามารถเข้าเมืองและไปในสถานที่สาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และอาคารราชการได้ นอกจากนี้ โรงเรียนทั่วเมืองก็ได้ย้ายไปเรียนออนไลน์ชั่วคราวแล้ว
การกลับมาคุมเข้มมาตรการโควิด-19 อีกครั้งของจีนเกิดขึ้นท่ามกลางความคาดหวังของประชาชนว่ามาตรการเหล่านี้จะผล่อนคลายเสียที หลังต้องอยู่ภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ “Zero Covid” ของจีนมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP