เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ในการประชุมครั้งที่ 17 ของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล เพื่อการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้มีมติให้ศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของกัมพูชาอย่าง “มวยเขมร” อยู่ในบัญชีมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
ยูเนสโกระบุว่า มวยเขมร หรือ กุน ลโบตากอ (Kun Lbokator) หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า โบกาตอ หรือปกกอโต เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีมาตั้งแต่สมัยอังกอร์ (ศตวรรษที่ 9 ถึง 15)
มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของไทย "เลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง"
เตรียมชงขึ้นทะเบียน “ข้าวเหนียวมะม่วง” เป็นมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม
“โนรา” จากศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ สู่มรดกภูมิปัญญาของมนุษยชาติ
จุดมุ่งหมายของการฝึกโบกาตอคือเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงระเบียบวินัยของผู้ฝึก ผ่านเทคนิคการป้องกันตัวและปรัชญาของการไม่ใช้ความรุนแรง
โบกาตอยังเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมบูชาเทพเจ้าท้องถิ่นและในเทศกาลต่าง ๆ ของประเทศกัมพูชา ร่วมกับองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น การรำ ดนตรี ยาแผนโบราณ วัตถุมงคล เครื่องราง รอยสัก และอาวุธ
ปัจจุบัน มีผู้ฝึกโบกาตอกว่า 7,000 คนในกัมพูชาและต่างประเทศ โดยมีปรมาจารย์ 12 คน และมีโรงเรียนสอนใน 13 จังหวัดในกัมพูชา
ยูเนสโกบอกว่า การขึ้นทะเบียนมวยเขมรเป็นมรดกทางวัฒนธรรม จะทำให้ศิลปะการต่อสู้โบราณนี้เป็นที่รู้จักละได้รับการยอมรับมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เยาวชน เพื่ออนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป
นอกจากนี้ กุน ลโบกาตอ เพิ่งถูกเพิ่มเป็นกีฬาชนิดใหม่สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ (SEA) ปี 2023 ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ
ซาร์ดาร์ อูมาร์ อาลัม ผู้แทนยูเนสโกประจำกัมพูชา กล่าวว่า “ยูเนสโกขอแสดงความยินดีกับกัมพูชา สำหรับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการปกป้อง กุน ลโบกาตอ ไว้ ผ่านการขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในฐานะกีฬาประเพณี”
เขาเสริมว่า “การขึ้นทะเบียนจะส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของกัมพูชาในเวทีระหว่างประเทศสำหรับการเจรจาระหว่างวัฒนธรรม การอยู่ร่วมกันทางสังคม และความอดทนอดกลั้น ซึ่งเป็นการรากฐานที่สำคัญสำหรับคนรุ่นต่อไป”
เรียบเรียงจาก UNESCO
ภาพจาก Ministry of Culture and Fine Arts, Cambodia