สำนักข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์รายงานเมื่อวานนี้ว่า นายโจคอร์ดา บากุส เปมายูน (Tjokorda Bagus Pemayun) หัวหน้าฝ่ายการท่องเที่ยวของบาหลี ออกมา ยืนยันว่า ทางโรงแรมต่างๆบนเกาะบาหลี จะไม่มีการเรียกดูทะเบียนสมรสของนักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนหย่อนใจที่โรงแรมได้ โดยจะได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกับในตอนนี้ คือ ไม่มีการเรียกดูทะเบียนสมรส พร้อมขอให้ชาวต่างชาติไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเดินทางมายังเกาะบาหลี
ขณะที่ ปูตู วินัสตรา (Putu Winastra) หัวหน้าสมาคมทัวร์
ไม่มีวิธีรักษา! “เซลีน ดิออน” ป่วยโรคทางระบบประสาทหายาก
ราคาทองวันนี้ "ปรับขึ้น 50 บาท" ตามทิศทางตลาดโลกขึ้นแรง
และบริษัทท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ประจำเกาะบาหลี ระบุว่า นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกกับกฎหมายดังกล่าว และขอให้ผู้ที่เดินทางมายังเกาะบาหลีสบายใจได้ เพราะทางโรงแรมจะให้ความเป็นส่วนตัว และหากพวกเขามากับพาร์ทเนอร์ ทางโรงแรมก็จะให้ห้องพักกับพวกเขา
ทั้งนี้ หัวหน้าสมาคมทัวร์ แสดงความมั่นใจว่า โรงแรมต่างๆ จะไม่เรียกดูทะเบียนสมรส และไม่ได้สนใจว่า คนที่มาพักจะแต่งงานหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และหลังจากได้หารือกับสมาคมผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมต่างๆแล้ว ก็ยันยันว่า ทางโรงแรมเหล่านี้จะรักษาสถานะการสมรสของนักท่องเที่ยวไว้เป็นความลับ
ความเคลื่อนไหวของหัวหน้าฝ่ายการท่องเที่ยวของบาหลี สมาคมทัวร์และบริษัทท่องเที่ยวอินโดนีเซีย มีขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่า ประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่ ซึ่งห้ามการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการสมรส และห้ามไม่ให้คู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานอาศัยร่วมชายคาเดียวกัน อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19
โดยนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลีย เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังเกาะบาหลีมากที่สุด โดยช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวออสเตรเลียประมาณ 1 ล้านคนที่เดินทางมาเยือนเกาะบาหลีทุกปี
ขณะที่รัฐบาลออสเตรเลีย ระบุว่า กำลังศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญาฉบับดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าชาวออสเตรเลียในอินโดนีเซียอาจได้รับผลกระทบจากกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่ผู้ประกอบการในภาคบริการการท่องเที่ยวบางรายยังคงรู้สึกกังวลกับกฏหมายดังกล่าว เช่นเดียวกับ ผู้จัดการโรงแรมของ ดิ อันมอน รีสอร์ต บินตัน ที่กลัวว่ากฎหมายใหม่อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และอาจทำให้นักท่องเที่ยวถูกลิดรอนเสรีภาพ ซึ่งขัดกับแนวคิดของการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายฉบับใหม่นี้ เพิ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยตัวกฏหมายดังกล่าว ระบุว่า ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กัน หรืออาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สามารถแจ้งเอาผิดกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว จะต้องเป็นบิดา หรือมารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้กระทำผิดเท่านั้น และจะมีผลบังคับใช้ในอีก 3 ปีข้างหน้า
สำหรับบทลงโทษของผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนการสมรสจะถูกจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านรูเปีย (หรือกว่า 22,000 บาท)