"ไบเดน"ต่อสายหา "เซเลนสกี" สนับสนุนระบบป้องกันภัยเพิ่ม

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ตอนนี้หลายพื้นที่ของยูเครน โดยเฉพาะทางตอนเหนือและเมืองหลวง กำลังเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มรูปแบบ อุณหภูมิภาคพื้นดินในบริเวณดังกล่าวเข้าสู่จุดติดลบแล้ว

ในขณะที่พื้นที่ภูมิภาคดอนบาสและภาคใต้ของยูเครน บริเวณที่ติดกับทะเลดำ อุณหภูมิเริ่มค่อย ๆ ลดต่ำลงเรื่อย ๆ และคาดว่าจะเข้าสู่จุดติดลบในวันพรุ่งนี้

ตอนนี้ ทางฝั่งรัสเซียยังคงโจมตีทางอากาศใส่ยูเครนด้วยโดรนพลีชีพเป็นระยะ ๆ โดยพื้นที่ล่าสุดที่ถูกโจมตีคือ แคว้นโอเดสซา พื้นที่สำคัญทางตอนใต้ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว

อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดการโจมตีแคว้นโอเดสซา ทางสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่า จะมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน เพื่อใช้ป้องกันโครงสร้างพื้นฐานและพลเรือน

ปธน.ยูเครนเล่าประสบการณ์ทหารรัสเซียบุกจับกุมตัวในวันแรกของสงคราม

“เซเลนสกี” ประธานาธิบดีผู้ปลุกใจชาวยูเครน ให้ลุกขึ้นสู้รัสเซีย

สำนักข่าวฟรานซ์ ทเวนตี้โฟร์ (France24) ของฝรั่งเศสรายงานว่า เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้ต่อสายตรงหาประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน

ขณะเดียวกันนักข่าวได้ไปถามประธานาธิบดีไบเดน ขณะที่กำลังเดินไปขึ้นรถหลังจากเสร็จภารกิจที่โบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ดี ซี ว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้โทรหาผู้นำยูเครนจริงหรือไม่

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนหันมาตะโกนตอบนักข่าวว่าเป็นเรื่องจริง โดยเนื้อหาหลักในการพูดคุยระหว่างสองผู้นำคือ การหารือเรื่องความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ จะมอบให้กับยูเครน ซึ่งจะเน้นไปการส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน

ประธานาธิบดีไบเดนยืนยันว่า สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้ระบุข้อมูลเพิ่มเติมแบบชัดเจนว่า สหรัฐฯ จะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศรุ่นใดให้แก่ยูเครน

ประเด็นการส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้กับยูเครนเป็นเรื่องใหญ่ต่อเนื่องตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะตอนนี้ถึงแม้ว่าตอนนี้ยูเครนจะได้รับระบบป้องกันภัยทางอากาศจากพันธมิตรแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอในการรับมือกับการโจมตีของรัสเซีย ที่มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

ยูเครนออกมาเรียกร้องจึงระบบที่มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นเพื่อรับมือ โดยเฉพาะระบบป้องกันภัยทางอากาศแพริออต

ระบบขีปนาวุธแพทริออต PATRIOT (Phased Array Tracking Radar to Intercept of Target) หรือ MIM-104 แพทริออต เป็นขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศของกองทัพสหรัฐ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโต้และทำลายเครื่องบินรบ และหัวรบแทบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น ขีปนาวุธร่อนหรือขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่ถูกยิงเข้ามา

ระบบขีปนาวุธชนิดนี้ถือเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่มีประสิทธิภาพสูงตัวหนึ่งในเวลานี้

เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ในระหว่างประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศนาโตที่โรมาเนีย ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ขอร้องให้นาโตส่งระบบแพริออทให้ก่อนที่จะสายเกินไป

อย่างไรก็ตาม ชาติสมาชิกนาโตบางชาติ เช่น เยอรมนีไม่เห็นด้วย เพราะหากส่งระบบแพทริออตเข้าไปในยูเครน สิ่งที่จะต้องไปกับระบบคือทหารจากประเทศนาโต ไม่ว่าจะเป็นจากสหรัฐหรือเยอรมนี เพื่อเข้าไปติดตั้งและใช้งานระบบนี้

นี่เท่ากับว่าจะเป็นครั้งแรก นับแต่เกิดสงครามที่จะมีทหารนาโต เข้าไปปฏิบัติการในยูเครน ซึ่งเป็นที่นาโตหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด เนื่องจากหมายถึงการเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรง

อย่างไรก็ดี การต่อสายตรงของทั้งสองผู้นำที่เมื่อวานนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ทางการยูเครนรายงานว่ากองทัพรัสเซียได้ใช้โดรนพลีชีพของอิหร่าน โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในแคว้นโอเดสซา ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั่วทั้งเมือง

ตอนนี้บทบาทของอิหร่านในสงครามยูเครน กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะผู้สนับสนุนอาวุธรายสำคัญของรัสเซีย โดยเฉพาะโดรนพลีชีพรุ่นซาเฮด-136 ซึ่งเป็นโดรนที่ใช้โจมตียูเครนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า อิหร่านกำลังจะส่งอาวุธที่ร้ายแรงมากขึ้นอย่างขีปนาวุธนำวิถีไปให้รัสเซีย

โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ฮอสเซน อามีร์ อับดุลลาฮีอาน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ออกมาปฎิเสธข่าวนี้ พร้อมระบุว่าอิหร่านส่งโดรนให้รัสเซียจริงในจำนวนจำกัด และการส่งโดรนดังกล่าวหลายเดือนก่อนที่จะเกิดสงครามในยูเครน ส่วนขีปนาวุธนั้น อิหร่านไม่เคยมีแผนที่จะส่งให้รัสเซีย

อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมา บาร์บารา วูดวาร์ด เอกอัครทูตถาวรสหราชอาณาจักรประจำสหประชาชาติ ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนว่า กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรมีหลักฐานชัดเจนว่าอิหร่านได้ส่งโดรนพลีชีพให้รัสเซีย ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา

ขณะเดียวกัน ตอนนี้รัสเซียกำลังพยายามขอซื้ออาวุธที่รุนแรงมากขึ้นจากอิหร่าน อย่างขีปนาวุธนำวิถี

ทูตสหราชอาณาจักรประจำยูเอ็นบอกว่า ขณะนี้โดรนและอาวุธจากอิหร่านกำลังถูกใช้เพื่อมุ่งเป้าไปที่การทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานบีบบังคับให้พลเรือนต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างถึงขีดสุด

โดยตอนนี้มีการขยายเป้าหมายการโจมตีไปที่โอเดสซา แคว้นสำคัญที่สุดของยูเครนบนทะเลดำ

ภาพบรรยากาศในแคว้นโอเดสซาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าบรรยากาศที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากที่กรุงเคียฟ เมืองหลวง และแคว้นคาร์คีฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ที่ถูกโจมตีไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน

ประชาชนที่นี่ต้องใช้ชีวิตในเวลากลางคืน ท่ามกลางความมืดมิดและอากาศที่เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ มีเพียงแสงไฟจากไฟหน้าของรถยนต์ หรือสถานที่บางแห่งที่มีไฟฟ้าสำรองเท่านั้น

ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนแถลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า รัสเซียได้ใช้โดรนชาเฮด-136 จำนวน 15 ลำโจมตียูเครน แต่ทางยูเครนสามารถโจมตีสกัดไว้ได้ 10 ลำ มีเพียง 5 ลำที่หลุดรอดจากการโจมตีสกัดไปได้ และสร้างความเสียหายให้แก่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน 2 แห่ง

ผู้นำยูเครนระบุว่า ผลจากการโจมตีดังกล่าวทำให้สถานการณ์ที่แคว้นโอเดสซายากลำบากมากขึ้น และทำให้ประชาชนในพื้นที่มากกว่า 1 ล้าน 5 แสนคนไม่มีไฟฟ้าใช้

เมื่อวานนี้ ( 11 ธ.ค.)ประธานาธิบดีเซเลนสกีแถลงยืนยันว่า ทางการกำลังพยายามทำงานแข่งกับเวลา เพื่อซ่อมแซมระบบพลังงานและไฟฟ้าให้สามารถกลับมาจ่ายพลังงานให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ที่ดูแลระบบพลังงานและไฟฟ้าในแคว้นโอเดสซาระบุว่า การซ่อมแซมระบบต่าง ๆ ที่เสียหายจากการโจมตี อาจต้องใช้เวลานานถึง 3 เดือน ซึ่งทำให้ประชาชนในหลายเขตของภูมิภาค อาจไม่มีไฟฟ้าใช้ไปตลอดฤดูหนาวปีนี้

ในขณะที่รัสเซียโจมตีพื้นที่ทางภาคใต้ของยูเครน ทางฝั่งยูเครนเองก็ได้โจมตีกองทัพรัสเซียกลับเช่นกัน โดยการโจมตีเกิดขึ้นที่แคว้นซาโปริซเซีย ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน

วานนี้ สำนักข่าวเดอะการ์เดียนรายงานว่า กองทัพยูเครนได้ยิงขีปนาวุธไฮมาร์ส (HIMARS) โจมตีเมืองเมลิโตปอล ในแคว้นซาโปริซเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ภายใต้การครอบครองของฝั่งรัสเซีย

พื้นที่ที่ถูกโจมตีเคยเป็นรีสอร์ตและโรงแรมติดกับพื้นที่โบสถ์ แต่ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวถูกดัดแปลงให้เป็นค่ายทหาร ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่พักและที่รวมพลของกลุ่มนักรบรับจ้างที่เรียกว่า “แวกเนอร์” (Wagner)

นายพลระดับสูงของยูเครนที่อยู่ในแนวรบด้านตะวันออกเปิดเผยว่า การโจมตีครั้งนี้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับกองทัพรัสเซีย เนื่องจากยูเครนโจมตีเข้าเป้าหมาย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกราว 10 ราย

นอกจากที่เมลิโตปอลแล้ว สำนักข่าวเดอะการ์เดียนรายงานว่า มีการโจมตีเกิดขึ้นที่เมืองเซวัสโตปอลและซิมเฟโรปอล บนคาบสมุทรไครเมีย ที่อยู่ในความครอบครองของรัสเซียเช่นกัน

จะเห็นได้ว่าตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันโจมตีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีสัญญาณเกี่ยวกับสันติภาพออกมาบ้าง เช่น การพูดคุยกันระหว่างผู้นำรัสเซียและเยอรมนี หรือการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศสและประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ทั้งสองฝ่ายจะไม่สามารถหาจุดร่วมในการเจรจาสันติภาพได้แล้ว เนื่องจากสงครามเริ่มลากยาวและความขัดแย้งเริ่มฝังรากลึกมากขึ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ทางยูเครนออกมาส่งสัญญาณอีกครั้งว่า ยูเครนไม่ได้ปิดประตูเรื่องการสงบศึกทั้งหมด

วานนี้ สำนักข่าวฟรานซ์ ทเวนตี้โฟร์ รายงานว่า ระหว่างการพูดคุยของประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีเซเลนสกี นอกจากเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศแล้ว

ผู้นำยูเครนได้พูดถึงเรื่องการเจรจาสันติภาพด้วยเช่นกัน โดยเขาระบุว่า ทางยูเครนพร้อมเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย แต่การเจรจาที่ว่านี้ ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานและหลักการของกฎบัตรแห่งสหประชาชาติ

คำพูดของผู้นำยูเครนอาจตีความได้ว่า ยูเครนพร้อมเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย แต่ฝั่งรัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครนก่อนและไม่ยึดครองพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นดินแดนของยูเครนตามหลักการในกฎบัตรสหประชาชาติ

หากผู้นำยูเครนหมายถึงประเด็นนี้ การลงนามสันติภาพอาจเป็นเรื่องซับซ้อน เพราะทางดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลได้ออกมาระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า รัสเซียพร้อมจะเปิดการเจรจาสันติภาพ แต่ฝั่งตรงข้ามต้องยอมรับหลักการว่าพื้นที่ทั้ง 4 แคว้นเป็นของรัสเซีย

ด้านเจมส์ เคลเวอร์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการสกาย นิวส์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องการลงนามสันติภาพในยูเครนว่า

การลงนามสันติภาระหว่างยูเครน-รัสเซีย ควรเป็นการลงนามสันติภาพแบบเกิดผลจริงในยูเครน ไม่ใช่เพื่อให้รัสเซียซื้อเวลาไปสั่งสมกำลัง เพื่อโจมตียูเครนรอบใหม่

  ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรระบุเพิ่มเติมว่า ตนเองยังไม่เห็นความเต็มใจและเจตนาที่ดีในการลงนามสันติภาพจากฝั่งประธานาธิบดีปูติน

นอกจากนี้ ทางสหราชอาณาจักรไม่ต้องการตั้งเงื่อนไขกับยูเครนให้ไปเจรจาสันติภาพ เพราะยูเครนกำลังปกป้องประเทศตนเองและสูญเสียทั้งผู้คน ตลอดจนสิ่งต่าง ๆ ไปจำนวนมากจากการุกรานของประธานาธิบดีปูตินในครั้งนี้

ดังนั้น ผู้ที่จะสามารถตัดสินใจลงนามสันติภาพว่าควรเกิดขึ้นที่ใดและเวลาใด มีเพียงแค่ยูเครนเท่านั้น

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ