ระหว่างการร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลรัสเซียเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ระบุว่าวิธีสำคัญที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร คือการสร้างท่าเรือและท่อก๊าซในพื้นที่ทางภาคใต้และภาคตะวันออกของประเทศ รวมทั้งการเพิ่มปริมาณส่งออกก๊าซให้มากขึ้น ประเทศที่เป็นเป้าหมายในการเพิ่มการส่งออกก๊าซของ ประธานาธิบดี ปูติน คือ จีน เพื่อนบ้านท่าตะวันออก และตุรกี ที่มีดินแดนทั้งในยุโรป และเอเชีย
ชาติพันธมิตรตะวันตก ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย
โซเชียลเผยภาพทหารจีน ปะทะ อินเดียแนวชายแดน
โดยรัฐบาลรัสเซียกำลังหาวิธีเพิ่มการจำหน่ายก๊าซไปยัง 2 ประเทศดังกล่าว หลังจากการส่งกำลังทหารบุกยูเครนทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศตะวันตกเกิดปัญหา แต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งก๊าซไปยังทั้งตุรกีและจีนให้ได้มากขึ้น อาจใช้เวลาก่อสร้างอีกหลายปี โดย ปูติน ยืนยันว่ารัสเซียมีแผนจะสร้างศูนย์กลางการส่งก๊าซในตุรกีเพื่อจำหน่ายก๊าซต่อไปยังประเทศใกล้เคียงอื่นๆ
ส่วนประเทศจีน รัสเซียมีโครงการจะสร้างท่อก๊าซ “เพาเวอร์ ออฟ ไซบีเรีย 2” (Power of Siberia 2) โดยมีแนวท่อผ่านประเทศมองโกเลีย ซึ่งจะทำให้รัสเซียส่งก๊าซให้จีนได้มากขึ้นจากปัจจุบันที่ปีละประมาณ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเพิ่มเป็นปีละ 48,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2025 และ 88,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2030 หรือ เท่ากับ 60 เปอร์เซนต์ของการส่งออกก๊าซรัสเซียไปยังประเทศตะวันตกเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม ประธานาธิบดี ปูตินคาดว่าผลิตภัณท์มวลรวม หรือ GDP ในปีนี้จะหดตัว 2.5 เปอร์เซนต์ ซึ่งแม้จะเป็นการติดลบ แต่ยังถือว่าดีกว่าที่ตนเองเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าเซรษฐกิจปี 2022 จะหดตัว 2.9 เปอร์เซนต์ และ ยังถือว่าเหนือความคาดหมายของชาติตะวันตกที่เคยประเมินว่าเศรษฐกิจรัสเซียจะติดลบถึง 20 เปอร์เซนต์
ส่วนสถานการณ์สู้รบ นายคีรีโล ทีโมเชนโก รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานประธานาธิบดียูเครนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียโจมตีทางอากาศระลอกใหม่ในพื้นที่ใจกลางเมืองเคอร์ซอน ตอนใต้ของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ศพ ขณะที่นาย ยาโรสลาฟ ยานูเชวิช ผู้ว่าราชการแคว้นเคอร์ซอน กล่าวว่า การโจมตีล่าสุดทำให้เมืองเคอร์ซอน ซึ่งเป็นเมืองเอกของภูมิภาค ไม่มีไฟฟ้าใช้อย่างสิ้นเชิง และการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเมืองแห่งนี้ยังคงดำเนินต่อไป ทำให้เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปซ่อมแซมระบบไฟฟ้าไม่ได้
ด้านหน่วยงานที่รับผิดชอบในการฟื้นฟูเมืองเคอร์ซอนเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า นับตั้งแต่ทหารยูเครนเมืองเคอร์ซอนคืนมาได้ มีประชาชนอพยพออกไปเพิ่มอีกกว่า 11,000 คน โดยส่วนใหญ่ถูกอพยพออกไปโดยรัฐบาลยูเครน เพื่อหลบหนีการโจมตีของรัสเซีย
ขณะที่ โอเล็กไซ เรซนิคอฟ (Oleksii Reznikov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ระบุว่าขณะนี้มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่ารัสเซียกำลังวางแผนโจมตียูเครนครั้งใหญ่ในเดือน ก.พ.ปี หน้า หลังจากยูเครนเริ่มสามารถสกัดการยิงโจมตีด้วยขีปนาวุธที่มุ่งเป้าไปที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะแหล่งผลิตพลังงาน
ในเวลาเดียวกัน ที่ประชุมผู้แทนชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ EU ได้เห็นชอบร่างมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ 9 และ แผนการให้ความช่วยเหลือยูเครนเป็นเงิน 18,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 660,000 ล้านบาท โดยมาตการเหล่านี้จะถูกส่งไปให้รัฐบาลของชาติสมาชิกพิจาณาอนุมัติเป็นขั้นตอนสุดท้าย
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด แต่การคว่ำบาตรที่เสนอโดยคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวัปด์แล้วพุ่งเป้าไปที่บุคคลและองค์กรรัสเซียเพิ่มอีก 200 แห่ง ซึ่งจะถูกอายัดทรัพย และห้ามเดินทางเข้าประเทศ โดยในขณะนี้บุคคลสัญชาติรัสเซียที่ถูกขึ้นบัญชคว่ำบาตรมีจำนวนทั้งสิ้น 1,241 คน องค์กร 118 แห่ง