นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ระบุว่าการให้ความช่วยเหลือทางทหาร จะเป็นการสร้างหลักประกันว่ายูเครนจะยังคงดำรงสถานะประเทศที่มีอธิปไตยเป็นของตนเองต่อไป อีกทั้งยังเป็นการบังคับให้รัสเซียเข้าสู่โต๊ะเจรจา เพื่อหาทางยุติสงคราม
สโตลเทนเบิร์ก ระบุว่า แม้ในช่วงระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ยูเครนจะเป็นฝ่ายได้เปรียบในการสู้รบ แต่คำสั่งระดมพลกำลังสำรองของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน เมื่อช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
ฝรั่งเศส จี้สมาชิกอียู บังคับตรวจโควิด นักเดินทางทุกคนที่มาจากจีน
กองทัพรัสเซีย ไม่สนคืนส่งท้ายปี ระดมยิงขีปนาวุธระลอกใหม่ในยูเครน
แสดงให้เห็นว่าขณะนี้รัสเซียไม่ต้องการยุติการสู้รบ และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเปิดฉากการโจมตีรอบใหม่ คำพูดของสโตเทนเบิร์ก มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี ปูติน ได้ใช้โอกาสเนื่องในวันขึ้นปีใหม่เรียกร้องประชาชนให้การสนับสนุนทหารรัสเซียที่กำลังสู้รบในยูเครน เนื่องจากอนาคตของประเทศชาติตกอยู่ในอันตราย
โดยสื่อตะวันตก คาดว่า กองทัพรัสเซียจะกลับมาเปิดฉากการรุกคืบเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ ทั่วยูเครนระลอกใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือประมาณปลายเดือนของปีนี้
หลังจากต้องชะลอการบุกโจมตี เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับอุปสรรคจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงนี้ แต่ยังเชื่อว่ายูเครนตจะยึดคืนพื้นที่กลับมาได้มากขึ้น สวนบรรยากาศการฉลองปีใหม่ในยูเครน ยังคงมีเสียงไซเรนเตือนภัย และภาพของกองทัพยูเครนที่สกัดการโจมตีทางอากาศทั้งจากโดรนและขีปนาวุธของรัสเซียในน่านฟ้ายูเครนตลอดชั่วโมงแรกของปี 2023
โดยเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังไปทั่วกรุงเคียฟ ชาวยูเครนบางคนตะโกนสรรเสริญยูเครนและเหล่าผู้กล้าดังจากระเบียงบ้าน เนื่องจากในช่วงเช้ามืดวันแรกของศักราชใหม่ กองทัพยูเครนยิงโดรน ชาเฮด 45 ลำ ที่รัสเซียนำมาใช้โจมตียูเครนได้
การโจมตีทางอากาศช่วงส่งท้ายปีเก่ายาวมาถึงเช้าวันปีใหม่ของกองทัพรัสเซีย สร้างความเสียหายเล็กน้อยใจกลางกรุงเคียฟ และไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ แต่มีรายงานการโจมตีในวันเสาร์ มุ่งเป้าโจมตีอาคารที่อยู่อาศัยและโรงแรมในเมืองหลวงยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บกว่า 20 คน