รายงานการประเมินความเสี่ยงขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่เปิดเผยเมื่อวานนี้ ระบุว่าไวรัสโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 ไม่มีองค์ประกอบการกลายพันธุ์ ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อป่วยด้วยอาการที่รุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม WHO ย้ำว่ารายงานฉบับนี้ยังไม่มีข้อมูลจากสถานการณ์จริงว่าสายพันธุ์ XBB.1.5 ส่งผลกระทบอย่างไรต่อสุขภาพของผู้ป่วย ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่สามารถสรุปได้เกี่ยวกับความรุนแรงของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดังกล่าว
ประมวลภาพ “แอนนา เสือ” รอบพรีลิมฯ Miss Universe 2022 ลุ้นคว้ามงกุฎนางงามจักรวาล
ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ "นิ่ง" รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้
นอกจากนี้ WHO ยังยืนยันว่า XBB.1.5 เป็นหนึ่งในไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยที่หลบหลีกภูมิคุ้มกันที่ได้ทั้งจากวัคซีน และ การติดเชื้อเองตามธรมชาติได้เก่งเทียบเท่ากับสายพันธุ์ย่อย XBB 1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่หลบหลีกแอนติบอดีได้ดีที่สุดในเวลานี้
ดร.มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าทีมงานด้านเทคนิคของWHO เคยให้ความเห็นว่า XBB.1.5 คือสายพันธุ์ที่สามรรถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วที่สุดในขณะนี้ ส่วนหนี่งเป็นเพราะสามารถยึดเกาะกับเซลล์ในร่างกายมนุษย์ได้แน่นมากขึ้น โดยขณะนี้สายพันธุ์ XBB.1.5 ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯอย่างรวดเร็ว และมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นทั่วโลก
ส่วนเทศกาลหยุดยาววันตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงในช่วงปลายเดือนนี้ นายราห์มาน มาฮามุด (Rahman Mahamud) ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานการเฝ้าระวังของ WHO ระบุว่าได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของจีนมาโดยตลอด โดยยืนยันว่ารัฐบาลจีนได้วางแผนรับมือกับการเดินทางของประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงสูงไปยังพื้นที่เสี่ยงต่ำ รวมทั้งการเตรียมความพร้อม้านการตรวจหาเชื้อและคลินิกสำหรับการรักษาพยาบาล
อย่างไรก็ตาม มาฮามุด ย้ำว่าจนถึงขณะนี้ WHO ยังไม่ได้รับข้อมูลที่เพียงพอจากรัฐบาลจีนสำหรับการประเมินอย่างรอบด้านเกี่ยงกับความอันตรายของการระบาดระรอกปัจจุบันในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการทำงานร่วมกันเพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางของประชาชนในช่วงตรุษจีนที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.นี้