วันนี้ (20 ม.ค.) ฮัน ด็อก-ซู นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ประกาศว่า ทางการเกาหลีใต้วางแผนที่จะยกเลิกมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคาร โดยคาดว่าจะมีผลตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. นี้เป็นต้นไป
มาตรการบังคับสวมหน้ากาอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารนี้ เป็นมาตรการป้องกันโควิด-19 มาตรการสุดท้ายที่เหลืออยู่ของเกาหลีใต้ หลังก่อนหน้านี้ปลดมาตรการอื่น ๆ ไปหมดแล้วจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่ดีขึ้น
จีนสั่งแพทย์ “ห้าม” เขียนสาเหตุการตายผู้ป่วยว่าเกิดจากโควิด-19
“งบหมด” เหตุผลแท้จริงที่จีนปลดมาตรการโควิด-19 และเปิดประเทศ?
จีนเอาคืน! สั่งระงับวีซ่านักท่องเที่ยวเกาหลีใต้
ทั้งนี้ แม้จะปลดมาตรการบังคับสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในอาคาร แต่ประชาชนยังคงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไปโรงพยาบาล ร้านขายยา หรือใช้บริการขนส่งสาธารณะอยู่
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเกาหลีใต้เคยออกมาบอกว่า จะพิจารณาปลดมาตรการสุดท้ายนี้ หากเกณฑ์ชี้วัด 2 จาก 4 ข้ออยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
เกณฑ์ 4 ข้อดังกล่าวได้แก่ แนวโน้มที่ลดลงของผู้ติดเชื้อรายใหม่ การลดลงของตัวเลขผู้ป่วยหนักและตัวเลขการเสียชีวิต ความสามารถในการตอบสนองทางการแพทย์ และอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงในกลุ่มเสี่ยงสูง
นายกฮันบอกว่า ขณะนี้เกาหลีใต้ผ่านเกณฑ์ 3 ใน 4 ข้อแล้ว เว้นแต่เพียงอัตราการฉีดวัคซีนของประชากรกลุ่มเสี่ยงสูงเท่านั้น “รัฐบาลจะหารือและยืนยันแผนการยกเลิกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคารตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. ยกเว้นสถานที่บางแห่ง”
นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ยังเรียกร้องให้หน่วยงานท้องถิ่นเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดที่อาจเพิ่มสูงขึ้นชั่วคราวหลังวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน และการยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากในอาคาร
ฮัน ด็อก-ซูยังเรียกร้องให้ผู้สูงอายุเข้ารับการวัคซีนด้วย “ความสำคัญของการฉีดวัคซีนมีมากขึ้นพร้อมกับการยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากาก ... ผมขอแนะนำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในเขตที่มีความเสี่ยงสูง เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด”
เรียบเรียงจาก Yonhap News
ภาพจาก AFP