แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย คร่าชีวิตแล้วกว่า 5,000 ราย

โดย "สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ" วัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 7.8 แมกนิจูด สร้างผลกระทบในวงกว้างไปทั่วพื้นที่ รวมถึงประเทศซีเรีย จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดจากทั้งใน "ตุรกีและซีเรีย"รวมแล้วมากกว่า 5,000 ราย

จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคาร ขณะเดียวกันนานาชาติได้ส่งความช่วยเหลือมายังตุรกีและซีเรียแล้ว

WHO ชี้เหยื่อแผ่นดินไหวตุรกี อาจพุ่งสูงขึ้นอีก 8 เท่า

เฉลี่ย 2 ปีต่อครั้ง! ทำไม “แผ่นดินไหวตุรกี” เกิดขึ้นบ่อยและรุนแรง?

รายงานล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวกว่า 5,000 รายแล้ว โดยตุรกีมีผู้เสียชีวิต 3,419 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 20,000 คน ขณะที่มีรายงานว่าในซีเรียมีผู้เสียชีวิตรวม 1,602 รายและบาดเจ็บกว่า 3,500 คน

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีและพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย

จากแผนที่ จุดที่เป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ใกล้กับทางตอนใต้ของเมืองกาซีอันเทปของตุรกี และที่เป็นสีส้มเข้มคือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุด

ส่วนบริเวณที่เป็นสีส้ม คือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบวงถัดมา เช่น เมืองกาซีอันเทป เมืองคาห์รามานมารัส และเมืองมาลัตยา

นี่คือภาพมุมสูงที่แสดงให้เห็นซากอาคารในเมืองกาซีอันเทป ที่พังถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงและอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงที่ตามมาต่อเนื่องหลายครั้ง จนถึงขณะนี้หน่วยกู้ภัยยังคงพยายามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่อยู่ใต้ซากดังกล่าว

ส่วนนี่คือคลิปวิดีโอแสดงภาพ "ปราสาทกาซีอันเทป" ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองแห่งนี้ ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกันชาวเมืองจำนวนมากต้องใช้ชีวิตข้างนอกท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นจัด เนื่องจากที่อยู่อาศัยของพวกเขาพังเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อก คาดว่าอุณหภูมิในบางพื้นที่จะลดลงจนใกล้จุดเยือกแข็ง

หลายครอบครัวในเมืองคาห์รามานมารัส รวมตัวกันหน้ากองไฟเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น พวกเขาไม่มีที่อยู่ เพราะบ้านพังเสียหายทั้งหลัง ต้องรอความช่วยเหลือโดยไม่มีน้ำและอาหารตลอดทั้งคืน

และหากดูจากแผนที่ บริเวณสีเหลืองเข้มคือจุดที่ได้รับผลกระทบเป็นวงที่สอง เช่น เมืองอานาดาของตุรกี และเมืองทางเหนือของซีเรียอย่างเมืองอเลปโป

สถานการณ์ในเมืองอเลปโปค่อนข้างเลวร้าย ด้วยโครงสร้างอาคารที่ไม่แข็งแรงเนื่องจากถูกทิ้งระเบิดอย่างหนักต่อเนื่องเกือบ 12 ปีจากสงครามในซีเรีย อาคารบ้านเรือนในอเลปโปจึงพังเสียหายหนักจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

ขณะเดียวกันอากาศที่หนาวเย็นและการขาดแคลนไฟฟ้าในเวลากลางคืน ก็ทำให้ทีมกู้ภัยทำงานอย่างยากลำบาก

อย่างไรก็ดี รัฐบาลท้องถิ่นได้เปิดสถานที่สาธารณะเพื่อเป็นที่พักพิงชั่วคราวและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อจัดหาผ้าห่ม เสื้อผ้า และอาหาร รวมถึงข้าวของอื่นๆ ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ขณะที่พื้นที่สีเหลืองอ่อนเป็นบริเวณที่ได้รับผลกระทบวงสุดท้าย ซึ่งครอบคลุมหลายเมืองในตุรกี อย่างเมืองฮาไต เมืองทางชายแดนที่ติดกับซีเรีย รวมถึงบางส่วนทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย

อย่างไรก็ตาม แม้จะพื้นที่เหล่านี้จะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเป็นวงสุดท้าย แต่ความเสียหายจากแผ่นดินไหวก็ไม่ต่างจากที่อื่นๆ

อาคารในเมืองฮาไตมากกว่า 1,200 หลัง พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อก เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากปรักหักพังแข่งกับเวลา ขณะที่บางพื้นที่ยังไม่มีหน่วยกู้ภัยเดินทางไปถึง

นี่คือสถานการณ์ในเมืองฮาไตเมื่อคืนที่ผ่านมา มีร่างหนึ่งเสียชีวิตอยู่ข้างใต้ซากปรักหักพัง และลึกลงไปใต้ซากอาคารมีเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลืออยู่ข้างใน

ชาวเมืองฮาไตพูดทั้งน้ำตาว่า พวกเขาได้ยินเสียงคนติดอยู่ข้างใน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเหลือคนพวกนั้นได้ และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลือ

เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับตุรกีเป็นอย่างหนัก แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตุรกีต้องเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง เนื่องจากประเทศนี้ตั้งอยู่ในจุดที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศตุรกีตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกอานาโตเลีย (Anatolian Plate) ที่ถูกล้อมรอบด้วยแผ่นเปลือกโลกอีก 3 แผ่นคือ แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย แอฟริกา และอาราเบีย

บริเวณนี้มีรอยเลื่อน (Fault) ใหญ่ที่ยังมีพลัง  2 แห่ง คือ รอยเลื่อนอานาโตเลียเหนือ ซึ่งทอดตัวจากตุรกีตะวันตกไปตะวันออก และรอยเลื่อนอานาโตเลียตะวันออก ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

สำหรับเหตุแผ่นดินไหวล่าสุดนี้ เกิดที่บริเวณรอยเลื่อนอานาโตเลียตะวันออก จากการเสียดสีกันระหว่างแผ่นเปลือกโลกอานาโตเลีย กับแผ่นเปลือกโลกอาราเบีย

รอยเลื่อนอานาโตเลียตะวันออกเป็นรอยเลื่อนตามแนวระดับซึ่งเกิดจากชั้นหินแข็งของโลกที่ดันตัวเข้าหากันผ่านรอยเลื่อนแนวตั้งทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาลจนหินชั้นหนึ่งเคลื่อนตัวหลุดมาทางแนวนอนและปลดปล่อยพลังงานมาศาลออกมาจนเกิดแผ่นดินไหว

ทั้งนี้แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของตุรกีเกิดขึ้นเมื่อปี 1939  ที่เมืองเออร์ซินกัน ทางตะวันออกของตุรกี โดยวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.8 ตามมาตราริกเตอร์ ส่งผลผู้เสียชีวิตกว่า 33,000 ราย สร้างพื้นผิวแตกเป็นทางยาว 360 กม.