นาวิกโยธินสหรัฐฯ เปิดเผยภาพการเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยที่ถูกระบุว่าเป็น “บอลลูนสอดแนม” จากประเทศจีน ซึ่งถูกยิงตกไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากจีนที่บอกว่า สหรัฐฯ ทำรุนแรงเกินหว่าเหตุ เพราะบอลลูนดังกล่าวเป็นเพียงบอลลูนพลเรือนเท่านั้น
จีนยืนยันว่า “บอลลูนนี้เป็นบอลลูนพลเรือนสำหรับการรวบรวมข้อมูลสภาพอากาศเท่านั้น และมันล้ำเข้าเขตแดนสหรัฐฯ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย มันเป็นอุบัติเหตุโดยสิ้นเชิง”
ความแตกต่าง ระหว่าง"บอลลูนพยากรณ์อากาศ-บอลลูนสอดแนม"
จีน ระบุ “สหรัฐฯ” ทำเกินกว่าเหตุ ยิงบอลลูนพลเรือนตก
เพนตากอนรายงานพบ “บอลลูนสอดแนม” ของจีน ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าสหรัฐ
แต่เจ้าหน้าที่กลาโหมหลายคนและแหล่งข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองกล่าวว่า คำอธิบายของจีนไม่น่าเชื่อถือ และเส้นทางการเคลื่อนที่ของบอลลูนนั้นดูเป็นการจงใจเกินไป
สหรัฐฯ ดำเนินปฏิบัติการเก็บกู้อย่างระมัดระวังโดยเจ้าหน้าที่กองอาวุธยุทโธปกรณ์ระเบิด เนื่องจากไม่แน่ใจว่ามีการติดตั้งระเบิดไว้หรือไม่ และพยายามรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดของบอลลูนดังกล่าว ซึ่งชิ้นส่วนที่เก็บกู้มาได้ตอนนี้ประกอบด้วยผ้าสีขาวและโครงสร้างของบอลลูน
เกล็น แวนเฮิร์ก หัวหน้ากองบัญชาการหน่วยเหนือของสหรัฐฯ บอกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น บอลลูนนี้มีความสูงประมาณ 60 เมตร และมีชุดเซ็นเซอร์ติดอยู่ข้างใต้
นอกจากนี้ นาวิกโยธินสหรัฐฯ ยังใช้เรือเพื่อทำแผนที่และสแกนพื้นทะเลเพื่อหาชิ้นส่วนที่เหลืออยู่ทั้งหมดของบอลลูน เพื่อให้นักวิเคราะห์ของสหรัฐฯ สามารถศึกษาได้อย่างชัดเจนว่า เซ็นเซอร์ประเภทใดถูกติดตั้งไว้ที่บอลลูน และเพื่อทำความเข้าใจว่าบอลลูนสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างไร
เหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศ และทำให้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องเลื่อนกำหนดการเยือนเมืองหลวงของจีน
จีนกล่าวว่า “การตัดสินใจยิงบอลลูนดังกล่าวส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ”
ด้านเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่า บอลลูนสอดแนมของจีนที่เพิ่งเก็บกู้มาเป็นแค่ส่วนหนึ่งของปฏิบัติการสอดแนมที่กว้างกว่านั้นซึ่งดำเนินการโดยกองทัพจีน แม้ไม่ทราบขนาดที่แน่ชัดของกองสอดแนมของจีน
แต่แหล่งข่าวบอกว่า ปฏิบัติการดังกล่าวได้ปฏิบัติภารกิจมากกว่า 20 ครั้งในอย่างน้อย 5 ทวีปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และประมาณ 5-6 ครั้งของปฏิบัติการเหล่านั้นอยู่ในน่านฟ้าของสหรัฐฯ
ขณะนี้ ที่ห้องทดลองของรัฐบาลสหรัฐฯ ในควอนติโก รัฐเวอร์จิเนีย ทีมวิศวกรของสำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ (FBI) กำลังตรวจสอบเศษซากของบอลลูนที่กู้มา โดยพยายามเรียนรู้ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับข้อมูลที่บอลลูนนี้อาจรวบรวมไว้ และวิธีที่ดีที่สุดในการติดตามบอลลูนสอดแนมในอนาคต
ทั้งนี้ แวนเฮิร์กยอมรับว่า สหรัฐฯ มี “ช่องโหว่ในการเฝ้าระวัง” ที่ทำให้บอลลูนสามารถข้ามเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ ได้โดยไม่ถูกตรวจจับ
เจ้าหน้าที่กลาโหมกล่าวว่า สหรัฐฯ ได้เบาะแสสำคัญบางอย่างมาในขณะที่บอลลูนกำลังเคลื่อนผ่านน่านฟ้าสหรัฐฯ โดยใช้ความสามารถทางเทคนิคของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในการรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสัญญาณประเภทต่าง ๆ ที่บอลลูนส่งออกมาขณะเคลื่อนที่
จิม ไฮม์ส คณะกรรมการข่าวกรองของรัฐสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า “เมื่อบอลลูนอยู่ในมือของเรา เราสามารถดูเทคโนโลยี เราสามารถสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ ค้นหาว่าใครช่วยสร้างมัน ส่วนประกอบใดบ้างที่สำคัญต่อมัน ... แน่นอนว่าคุณสามารถบอกหน้าที่และข้อมูลจำเพาะของมันได้ด้วย”
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ข่าวกรองจะสามารถเรียนรู้ได้มากน้อยเพียงใดเกี่ยวกับข้อมูลที่บอลลูนรวบรวมหรือพยายามรวบรวมนั้นยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ โดยอาจขึ้นอยู่กับความเสียหายของบอลลูนที่ถูกยิงตกลงมาในมหาสมุทรจากความสูง 60,000 ฟุตด้วย
แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเอฟบีไอยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองกำลังดูว่า อุปกรณ์บนบอลลูนของจีนมีความคล้ายคลึงกันทางเทคนิคใด ๆ กับเทคโนโลยีที่สร้างโดยหน่วยข่าวกรองและการทหารของสหรัฐฯ หรือไม่
เรียบเรียงจาก Al Jazeera / CNN
ภาพจาก AFP PHOTO / US NAVY