ภาพถ่ายดาวเทียมของบริษัทแม็กซาร์ เทคโนโลยีส์ ซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) แสดงให้เห็นสภาพของเมืองคาห์รามานมารัส (Kahramanmaras) และเมืองอันตาเคีย (Antakya) ในตุรกี เปรียบเทียบช่วงก่อนและหลังเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้ชัดเลย คือ สภาพอาคารต่างๆ ที่พังเหลือแต่ซาก ขณะเดียวกันก็จะเห็นเต็นท์สีขาวของทีมกู้ภัยตั้งอยู่ตามซากอาคารที่ถูกทำลาย
ผู้นำ "ตุรกี" ยอมรับ ดูแลเหตุแผ่นดินไหวบกพร่อง
เด็กรอดชีวิตใต้ซากแผ่นดินไหว "ตุรกี-ซีเรีย" ยอดตายพุ่งทะลุ 11,000 คน
ทางหลวงที่เชื่อมระหว่างเมืองอิสเคนเดอรุน (Iskenderun) และเมืองอันตาเคีย เต็มไปด้วยรถยนต์ของอาสาสมัครที่รีบเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย เพื่อนำสิ่งของต่างๆ ไปช่วยเหลือผู้รอดชีวิต และครอบครัวของเหยื่อเหตุแผ่นดินไหว
ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เแอร์โดอัน ของตุรกี ได้กล่าวก่อนเดินทางลงพื้นที่พบปะกับผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ยอมรับว่า มีข้อบกพร่องในการรับมือเหตุแผ่นดินไหว และตนทราบดีถึงความกังวลของประชาชนเรื่องความล่าช้าในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ แต่ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินกว่าที่ทางการจะเตรียมพร้อมรับมือได้
ภาพถ่ายทางอากาศจากโดรนของหน่วยป้องกันภัยพลเรือนซีเรีย หรือ “หน่วยหมวกกันน็อกขาว (White Helmets)” เผยให้เห็นหลุมฝังศพจำนวนมากที่เพิ่งถูกขุดขึ้นหมาดๆ ในเมืองจันดาริส (Jandaris) ขณะที่ประชาชนร่วมกันสวดภาวนาให้แก่ผู้เสียชีวิต
ภารกิจกู้ภัยและบรรเทาทุกข์ในซีเรียดำเนินไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากความขัดแย้งภายในประเทศ และโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่รองรับเหตุแผ่นดินไหว
ในขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกส่งทีมช่วยเหลือกู้ภัยและสิ่งของต่างๆ เข้าไปในตุรกีอย่างต่อเนื่อง แต่มีความช่วยเหลือน้อยมากที่ไปถึงพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
แพทย์อาสาสมัครคนหนึ่ง ซึ่งประจำอยู่ที่จุดผ่านแดนบับ อัล-ฮาวา (Bab al-Hawa) ระหว่างตุรกีและซีเรีย บอกว่า ผ่านไปกว่า 60 ชั่วโมงแล้ว ยังคงมีผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังหลายร้อยคน ซึ่งเราไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้เพราะเครื่องมือจำกัด เราต้องการเครื่องมือหนัก ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการแพทย์ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีขบวนรถมนุษยธรรมเข้าพรมแดนมาเลยแม้แต่ขบวนเดียว
ล่าสุด มีรายงานว่า ขบวนรถบรรทุกให้ความช่วยเหลือของสหประชาชาติขบวนแรกกำลังมุ่งหน้าไปยังพรมแดนตุรกี-ซีเรีย เพื่อเข้าไปในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียที่ฝ่ายต่อต้านควบคุมอยู่
สำหรับความสูญเสียจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในตุรกีและซีเรีย ล่าสุด มีการยืนยันพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17,626 คน แบ่งเป็นที่ตุรกี 14,014 คน และที่ซีเรีย 3,612 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 69,091 คน
สำหรับความช่วยเหลือจากนานาชาติ ทีมกู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์จากปากีสถาน และกลุ่มประเทศอาหรับ ได้แก่ ตูนิเซีย อิรัก ลิเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางมาถึงสนามบินดามัสกัส อเลปโป และลาตาเกีย ในซีเรีย เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.)
ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันระบุว่า ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน และรองประธานาธิบดีวิลเลียม ไหล จะบริจาคเงินเดือน 1 เดือน สมทบภารกิจบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวตุรกี โดยหวังว่า จะช่วยให้ตุรกีฟื้นฟูแผ่นดินบ้านเกิดได้เร็วที่สุด
ตุรกีไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่เหมือนสถานทูตในเมืองหลวงของอีกฝ่าย อีกทั้งยังมีเที่ยวบินตรงระหว่างอิสตันบูลและไทเป
ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ได้มอบเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่รัฐบาลตุรกีเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ระหว่างพบกับนางแซรัป แอร์ซอยเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยวันนี้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยกำลังเตรียมส่งทีมกู้ภัย 42 คน พร้อมเสบียงไปยังตุรกีเพื่อช่วยเหลือภารกิจกู้ภัย และสนับสนุนทางการแพทย์ โดยล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระบุว่า ทีม Thailand for Turkey มีกำหนดปล่อยขบวนจาก เวลา 16.00 น.และออกเดินทางจากประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิโดยเที่ยวบินเตอร์กิช แอร์ไลนส์ ในเวลา 23:30 น.
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข จัดทีมบุคลากรทางการแพทย์เข้าร่วมทีมค้นหากู้ภัยเหตุแผ่นดินไหวในประเทศตุรกี เตรียมเดินทางค่ำนี้ พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นและเหมาะสมภายใน 1 สัปดาห์ และเตรียมพร้อมทีม Thailand EMT สนับสนุนตามความต้องการ
ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา จะปิดการให้บริการด้านกงสุลเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ถึงวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เนื่องจากบุคลากรสถานทูต ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว กรณีต้องการความช่วยเหลือจำเป็นเร่งด่วน สามารถติดต่อหมายเลขฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตฯ +90 533 641 5698 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และทาง Facebook Page สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา
ก่อนหน้านี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา รายงานว่า พบคนไทยเสียชีวิตแล้ว 1 คน แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่คนไทยที่ได้รับผลกระทบทางทรัพย์สิน หรือการดำรงชีวิต มี 30 คน ซึ่งบางส่วนอาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวที่ทางการตุรกีจัดหาให้
ส่วนใครที่สนใจบริจาคสมทบภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในตุรกี สามารถทำผ่านองค์กรการกุศล และหน่วยงานที่น่าเชื่อถือได้ เช่น สภากาชาดไทย ที่เปิดให้บริจาคเงินผ่านบัญชีตามที่ปรากฏรายละเอียดบนหน้าจอ
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับช่องทางบริจาคทั้งเงินและสิ่งของ สำหรับผู้ต้องการให้ความช่วยเหลือ ตามลิงก์ที่ปรากฏบนหน้าจอ พร้อมระบุตัวอย่างรายการสิ่งของที่ต้องการ
ภาพจาก AFP, Reuters