คาดรัสเซียไม่ระดมพลรอบใหม่ หวั่นกระทบเก้าอี้ "ปูติน"

โดย PPTV Online

เผยแพร่

สงครามยูเครนดำเนินมา 377 วันแล้ว ตอนนี้สถานการณ์การสู้รบที่สำคัญยังอยู่ที่เมืองบัคมุตในแคว้นโดเนตสก์ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียซึ่งนำโดยกลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างมาก และสามารถยึดเมืองบัคมุตได้เกือบถึงพื้นที่ใจกลางเมือง จนทำให้มีสัญญาณออกมาว่ายูเครนอาจทิ้งเมืองนี้ ก่อนที่จะโดนปิดล้อมอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ดี ผู้นำยูเครนได้ออกมายืนยันว่าจะสู้ต่อไป และสั่งเพิ่มกำลังทหารไปที่เมืองบัคมุต

เมื่อคืนที่ผ่านมา  ( 6 มี.ค.) โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้กล่าวถึงสถานการณ์ในเมืองบัคมุตขณะแถลงการณ์ประจำวันว่า ยูเครนจะไม่ถอนทหารและจะเร่งเสริมกำลังเข้าไปในพื้นที่แทน

หลังจากนั้น ผู้นำยูเครนได้กล่าวขอบคุณเหล่าทหารที่ทำหน้าที่ปกป้องเมืองบัคมุต โดยระบุว่า ยูเครนจะไม่มีวันลืมทหารที่เสียชีวิตในสงครามเพื่อปกป้องอิสรภาพของชาติ

ด้านทหารยูเครนที่อยู่ในเมืองบัคมุต ก็ยืนยันเช่นเดียวกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงและประธานาธิบดีเซลเลนสกีว่า จะปักหลักต่อสู้ในพื้นที่ต่อไป

เจ็บแต่จบ! สงครามรัสเซีย-ยูเครน มีโอกาสสิ้นสุดในปีนี้?

"ปูติน"ยกศึกสตาลินกราด ปลุกรัสเซียสู้ยูเครน

ทหารยูเครนบางคนระบุว่า สงครามนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 9 ปีก่อน ถ้าพวกเขาหนีตอนนี้ สงครามก็จะยืดเยื้อต่อไปอีกนาน และการต่อสู้และความเสียหายที่เมืองบัคมุตตอนนี้ จะกลายเป็นฝันร้ายและตามหลอกหลอนกองทัพรัสเซียไปอีกนาน

นอกจากทหารกลุ่มดังกล่าวแล้ว ทหารอีกลุ่มหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ที่เมืองบัคมุตครั้งนี้อย่าง หน่วยโดรน ซึ่งจะทำหน้าที่สังเกตสถานการณ์สนามรบและล็อกเป้าให้จรวดหลายลำกล้องไฮมาร์สโจมตี ก็ยืนยันว่าจะสู้ต่อเช่นกัน

แต่ทหารหน่วยโดรนกลุ่มนี้ระบุว่า พวกเขากำลังเผชิญกับความยากลำบากในการบินโดรน เนื่องจากสภาพอกาศในฤดูหนาวที่มีทั้งหิมะและฝนได้บดบังทัศนวิสัยการบิน

นี่ทำให้ยูเครนไม่สามารถค้นหาและทำลายเป้าหมายได้  ทำได้เพียงแค่ตั้งรับและปล่อยให้กองทัพรัสเซียรุกคืบยึดพื้นที่ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าเหตุใดยูเครนยังตัดสินใจปักหลักอยู่ในเมืองบัคมุต แม้จะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะถูกล้อมจากรัสเซีย เนื่องจากเหลือทางออกเพียงเส้นทางเดียวที่จะใช้หนีได้

สำหรับประเด็นนี้ นักวิชาการจากหน่วยงานศึกษาสงครามหรือ ISW ให้ความเห็นว่า ยูเครนอาจต้องการทำอะไรบางอย่างในอนาคตอันใกล้ เช่น การโต้กลับในเมืองหรือพื้นที่อื่น ๆ

เนื่องจากเมืองบัคมุตไม่ได้มีนัยสำคัญในด้านปฏิบัติการหรือในด้านกลยุทธ์ แม้ว่าการยึดเมืองบัคมุตจะเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับรัสเซีย แต่นั่นก็ไม่เพียงพอและสร้างหลักประกันได้ว่ารัสเซียจะสามารถรุกคืบยึดพื้นที่ที่เหลือในแคว้นโดเนตสก์ได้

กองกำลังรัสเซียสูญเสียทหารและทรัพยากรจำนวนมากไปกับการทำสงครามที่สมรภูมินี้ตลอดกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา และการต่อสู้ของรัสเซียจะถึงจุดสูงสุดหลังจากที่ยึดเมืองบัคมุตได้

แต่เรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาสำหรับการปฏิบัติการหรือกลยุทธ์ที่สำคัญของยูเครน เพราะรัสเซียจะทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว 

โดยสาเหตุที่รัสเซียอาจไม่สามารถทำปฏิบัติการต่อได้ เป็นผลมาจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างหัวหน้ากลุ่มนักรบแวกเนอร์และเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย และการเสียทรัพยากรจำนวนมากไปในสนามรบ

สำหรับเรื่องความขัดแย้งภายใน เยฟเกนี ปริโกชิน หัวหน้ากลุ่มนักรบแวกเนอร์ได้ออกมาข่มขู่ผู้นำรัสเซียว่าอาจถอนกำลังออกจากเมืองบัคมุต ถ้ากระทรวงกลาโหมไม่ส่งกระสุนให้กลุ่มแวกเนอร์ ซึ่งหากแวกเนอร์ถอนกำลังออกจริง จะทำให้แนวรบทุกด้านของรัสเซียในตอนนี้พังทลาย

อย่างไรก็ดี ปัญหาเรื่องการส่งกระสุนของกระทรวงกลาโหมรัสเซียยังเป็นโจทย์ที่สำคัญ เนื่องจากไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่า สาเหตุที่กระทรวงกลาโหมไม่ส่งกระสุนให้กลุ่มนักรบแวกเนอร์เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวของชนชั้นนำ หรือรัสเซียกำลังขาดแคลนทรัพยากร

สำหรับเรื่องการขาดแคลนทรัพยากร มีข้อมูลล่าสุดของกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรระบุว่า ทหารรัสเซียหลายนายอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ระดับสูงสั่งให้โจมตีฐานที่มั่นของกองทัพยูเครนด้วยปืนและพลั่วรุ่น MPL-50 ซึ่งถูกออกแบบมาตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อนเพื่อขุดสนามเพลาะ

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในระยะหลังมีรายงานการต่อสู้แบบประชิดตัวของรัสเซียมากขึ้นในสนามรบ  ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้แบบล้าสมัยและโหดร้ายของรัสเซีย ที่เป็นลักษณะเฉพาะของสงครามนี้

อย่างไรก็ดี ไม่มีการยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรได้รับข้อมูลดังกล่าวมาจากที่ใดและการต่อสู้แบบประชิดตัวเช่นนี้เกิดขึ้นในสมรภูมิใดในยูเครน

นอกจากอาวุธแล้ว ปัจจัยด้านกำลังพลก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายประเมินว่ารัสเซียจะไม่สามารถรุกคืบใหญ่ได้หลังจากนี้ เนื่องจากรัสเซียสูญเสียทหารไปจำนวนมากโดยเฉพาะที่เมืองบัคมุต ทำให้รัสเซียต้องรับสมัครทหารใหม่มาเพื่อฝึกก่อนส่งไปยังสนามรบซึ่งคาดว่าจะใช้เวลานานหลายเดือน

ISW รายงานว่า ตอนนี้รัสเซียเริ่มโฆษณาในเทเลแกรมรับสมัครคนเข้ากองพันอาสาสมัคร หลังจากยุติการรับสมัครดังกล่าวไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งนี่คือสัญญาณแรกของการเตรียมระดมพลรอบใหม่และเป็นสัญญาณเดียวกันกับที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ISW ประเมินว่า รัสเซียอาจยังไม่รีบระดมพลครั้งใหม่ในฤดูช่วง 3  เดือนนี้ เนื่องจากกองทัพจะมีกำลังพลจากการเกณฑ์ทหารประจำภาคฤดุร้อนในเดือนหน้า และผู้นำรัสเซียเองก็ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับความไม่สงบทางการเมืองที่จะตามมาหลังการระดมพล ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือดในสนามรบซึ่งเป็นภาพเล็กของสงครามความขัดแย้งในครั้งนี้

ในทางการเมืองระหว่างประเทศซึ่งเป็นภาพใหญ่ ก็ยังมีการพูดถึงประเด็นการเจรจาสันติภาพออกอยู่ โดยฝ่ายที่ออกมาพูดถึงประเด็นนี้คือ จีน

วันนี้ ฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ได้ออกมาแสดงจุดยืนเรื่องสงครามในยูเครน โดยเขาระบุว่าจีนไม่ใช่ต้นตอหรือเป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้ จีนไม่เคยส่งอาวุธไปสนับสนุนรัสเซีย ดังนั้นชาติตะวันตกไม่ควรมุ่งเป้าการคว่ำบาตรมาที่จีน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้

ก่อนที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนจะขอให้ทุกฝ่าย ยุติความขัดแย้งและการเผชิญหน้ากัน ตลอดจนร่วมกันสร้างช่องทางการเจรจาสันติภาพโดยเร็วที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหาในยูเครน

อย่างไรก็ดี แม้รัฐมนตรีต่างประเทศจีนจะพูดเรื่องสันติภาพในยูเครน แต่หลายฝ่ายก็เกิดความเคลือบแคลงใจ เนื่องจากในเวลาเดียวกัน จีนยืนยันว่าจะกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียต่อไป

แต่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนก็ยืนยันหนักแน่นชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียจะเป็นความสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาและไม่เป็นภัยต่อประเทศที่สาม

นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนยังได้กล่าวถึงเรื่องสงครามในยูเครนเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนไม่ควรถูกทำซ้ำในเอเชีย เนื่องจากภูมิภาคนี้ควรเป็นพื้นที่ที่ทุกฝ่ายสามารถแข่งขันกันได้โดยไม่มีใครถูกรังแก

รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนประกาศแสดงจุดยืนนี้ ด้วยการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนหรือ NPC

การประชุม NPC เป็นหนึ่งในการประชุมที่สำคัญของปฏิทินการเมืองของจีน เพราะนอกจากจะเป็นการใช้เป็นโอกาสเพื่อเปิดทิศทางและนโยบายที่สำคัญของจีนแล้ว ยังเป็นโอกาสในการเปิดตัวคนสำคัญหรือคีย์แมนคนใหม่ของรัฐบาลด้วย

สำหรับฉิน กัง ได้รับแต่งตั้งมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมปีที่แล้ว แต่การพูดในระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติคราวนี้ ถือเป็นการเปิดตัวในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศจีนอย่างเป็นทางการ

นอกจากการแสดงจุดยืนเรื่องความสัมพันธ์กับรัสเซีย และสถานการณ์สงครามในยูเครนแล้ว อีกเรื่องที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนคนใหม่พูดถึงคือ เรื่องไต้หวัน

โดยฉิน กัง ระบุว่า ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีน และจีนจะทำทุกทางเพื่อให้การรวมชาติไปไปอย่างสันติ และสหรัฐฯ ไม่มีสิทธิใดๆในการเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ กิจการของไต้หวันเป็นสิทธิของจีนแต่เพียงผู้เดียว

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ