“ฟินแลนด์” ครองแชมป์ประเทศที่มีความสุขที่สุด 6 ปีซ้อน

ทุกๆ ปี เครือข่ายการแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDSN) ในสังกัดสหประชาชาติ จะเผยแพร่รายงานเนื่องใน วันความสุขสากล (International Day of Happiness) ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มีนาคม โดยจัดอันดับความสุขของประเทศต่างๆ ทั่วโลก จากข้อมูลหลายๆ แหล่ง ตามตัวชี้วัด 6 อย่าง ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคม รายได้ต่อหัวประชากร สุขภาพ เสรีภาพ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และ การปราศจากคอร์รัปชัน

 

 

 

ผลการจัดอันดับปีนี้ออกมาคล้ายๆ กับหลายปีที่ผ่านมา โดยประเทศแถบนอร์ดิกหลายประเทศยังรั้งอันดับต้นๆ นำโดย ฟินแลนด์ ซึ่งครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ตามมาด้วย เดนมาร์ก และไอซ์แลนด์

ขณะที่ ลิทัวเนีย เป็นประเทศใหม่ประเทศเดียวใน 20 อันดับแรก โดยประเทศที่หลุดออกไปจาก 20 อันดับแรกคือ ฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ที่อันดับที่ 21 ในปีนี้

ส่วนประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุด 5 อันดับจากท้าย ได้แก่ อัฟกานิสถาน เลบานอน เซียร์ราลีโอน ซิมบับเว และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

หลายคนอาจจะอยากรู้ว่า แล้ว รัสเซีย กับ ยูเครน ที่อยู่ในภาวะสงครามตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจะอยู่ตรงไหนนั้น ในการสำรวจล่าสุด พบว่า รัสเซีย อยู่อันดับที่ 70 ขณะที่ ยูเครน อยู่อันดับที่ 92 แต่คะแนนของทั้งสองประเทศไม่ได้ลดลงจากปีก่อน

รายงานระบุว่า ความเป็นอยู่ของผู้คนในยูเครนได้รับผลกระทบจากสงครามอย่างแน่นอน แต่แม้จะมีความเดือดร้อนและความเสียหายใหญ่หลวงในยูเครน การประเมินคุณภาพชีวิตก็ยังสูงกว่าสมัยที่รัสเซียผนวกดินแดนไครเมียในปี 2014 โดยได้รับแรงหนุนจากความรู้สึกของชาวยูเครนที่มีเป้าหมายร่วมกัน มีเมตตาต่อกัน และเชื่อมั่นในรัฐบาลมากขึ้น ขณะที่ในรัสเซียเอง ความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

20 มีนาคม “วันความสุขสากล” ร่วมตระหนักความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ

ส่องวาระ ครม. รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หลังประกาศ "ยุบสภา"

สำหรับ ประเทศไทย อยู่ในอันดับ 60 จากทั้งหมด 137 ประเทศ ด้วยคะแนน 5.843 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย แต่ถือว่าเป็นคะแนนที่น้อยที่สุด เท่ากับปี 2012 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มมีการจัดทำรายงาน

เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอาเซียนด้วยกัน ไทยอยู่อันดับ 3 รองจาก สิงคโปร์ (อันดับที่ 25) มาเลเซีย (อันดับที่ 55) ตามมาด้วย เวียดนาม (อันดับที่ 65) และ ฟิลิปปินส์ (อันดับที่ 76)

รายงานประจำปีนี้ระบุว่า ประชากรทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวได้ดีมากๆ แม้จะเผชิญกับวิกฤตหลายอย่าง ตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด-19 วิกฤตพลังงานโลก ภาวะเงินเฟ้อที่สูง ไปจนถึงสงครามในยูเครน ขณะที่โดยรวมแล้ว ผู้คนมีความสุขขึ้นเมื่ออาศัยอยู่ในประเทศที่ช่องว่างของการมีความสุขเล็กกว่า