แอมะซอน อิงค์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ ( 20 มีนาคม) ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทจะปลดพนักงานรอบที่สองอีก 9,000 คน ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
แอนดี แจสซี (Andy Jassy) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแอมะซอน ระบุว่า ทางบริษัทได้เพิ่มพนักงานจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทำให้บริษัทต้องเลือกลดค่าใช้จ่าย และลดจำนวนพนักงานลง
รัสเซียรับพิจารณาข้อเสนอจีน ยุติการสู้รบยูเครน
“ฟินแลนด์” ครองแชมป์ประเทศที่มีความสุขที่สุด 6 ปีซ้อน
สำหรับพนักงานที่จะได้รับผลกระทบในครั้งนี้อยู่ในส่วนงานของการให้บริการคลาวด์ การโฆษณา รวมไปถึงทวิตช์ (Twitch) แพลตฟอร์มสตรีมมิงสำหรับเกมเมอร์ชื่อดัง ซึ่งเป็นบริษัทลูกภายใต้แอมะซอน
ทั้งนี้หลังการประกาศปลดพนักงานของบริษัทแอมะซอนรอบใหม่ ส่งผลทำให้ราคาหุ้นของบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหุ้น Nasdaq ปรับตัวลดลง 1.4% ในช่วงเช้า ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นไปเล็กน้อย และปิดตลาดที่ -1.25 % อยู่ที่ 97.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับบริษัทแอมะซอน เมื่อเดือนที่แล้วได้เปิดเผยว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทอาจลดลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบทางการเงินจากผู้ใช้งานระบบคลาวด์
ขณะที่ยอดขายจากส่วนงานของหน่วยให้บริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง หรือ บริการที่ให้ใช้ หรือเช่าซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชัน ผ่านอินเทอร์เน็ตก็มีกำไรชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 4 ส่งผลให้แอมะซอนต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธใหม่โดยการ ลดขนาด หรือปิดบริการทั้งหมด เช่น ข้อเสนอการดูแลนายจ้างเบื้องต้นผ่านเทคโนโลยี
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจำนวนมาก รวมถึง Microsoft, Salesforce, Alphabet และ Meta ได้ปรับลดพนักงานหลายพันตำแหน่ง หลังจากมีการจ้างงานจำนวนมากในช่วงการระบาดของโควิด-19
ขณะที่ “แอมะซอน” ถือเป็นบริษัทล่าสุดต่อจาก “Meta” ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ที่ประกาศปลดพนักงานรอบที่สองอีก 10,000 คน ภายในปีนี้ หลังจาก “Meta” เลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเป็นครั้งแรกในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา