อีลอน มัสก์ เจ้าของคนใหม่ของทวิตเตอร์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม บอกเป็นนัยผ่านบันทึกที่ส่งถึงพนักงานภายในบริษัทซึ่งรั่วไหลมาภายนอกว่า มูลค่าของบริษัทขณะนี้ลดลงไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าเดิมที่เขาซื้อกิจการมาแล้ว
เมื่อเดือน ต.ค. 2023 มัสก์เข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์ด้วยมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.5 ล้านล้านบาท) แต่หลังผ่านไปเพียง 6 เดือน มีการคำนวณออกมาว่า ขณะนี้สูญเสียมูลค่าไปเหลือไม่ถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (6.8 แสนล้านบาท) หรือไม่ถึงครึ่งแล้ว
การประเมินว่ามูลค่าของทวิตเตอร์ลงลงเหลือต่ำกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น เป็นการประเมินจากการที่มัสก์เสนอหุ้น Stock Grant ให้พนักงาน ซึ่งมูลค่าของมันมีฐานมาจากมูลค่ารวมของธุรกิจ
Stock Grant เป็นวิธีจูงใจพนักงานแบบหนึ่ง เป็นโอกาสในการให้พนักงานซื้อหุ้นของบริษัทที่ไม่สามารถขายได้จนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนด ตรงข้ามกับการเสนอหุ้นแบบสิทธิ์ในการซื้อหุ้น (Stock Option) ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากกว่า ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข
พนักงานทวิตเตอร์งง ถูกไล่ออกแบบไม่รู้ตัว แม้แต่ฝ่ายบุคคลก็ไม่รู้!
เจริญรอยตามทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก-ไอจี เตรียมเก็บค่ายืนยันตัวตน “Meta Verified”
มาถึงจุดนี้แล้ว! ทวิตเตอร์นำของในสำนักงานใหญ่ออกมาประมูลขาย
อีเมลภายในอีกฉบับที่ส่งถึงเจ้าหน้าที่ทวิตเตอร์ระบุว่า “หุ้น Stock Grant นั้นสามารถขายได้ทุก ๆ 6 เดือน”
การสูญเสียมูลค่าธุรกิจอย่างมหาศาลนี้ เกิดจากความปั่นป่วนหลังการเข้าซื้อกิจการของมัสก์ ซึ่งผู้ลงโฆษณารายใหญ่หลายรายถอนตัวออกจากแพลตฟอร์ม พนักงานมีทั้งที่ถูกปลดและลาออกเองจนเหลือแค่ราว 1 ใน 3
อีเมลของมัสก์ยังบอกด้วยว่า ก่อนที่จะมีการปลดพนักงาน บริษัทได้พยายามยื้อเวลาไว้กว่า 4 เดือน ก่อนที่เงินจะหมด
ขณะที่หนึ่งในแหล่งเงินทุนหลักของมัสก์ที่ทำให้เขาซื้อทวิตเตอร์สำเร็จอย่าง Fidelity Investment ก็ได้ประเมินมูลค่าหุ้นทวิตเตอร์ลดลงเกือบ 60%
แม้สถานการณ์ทวิตเตอร์ที่ผ่านมาและในอนาคตอันใกล้จะดูไม่สู้ดีนักในสายตาคนนอก แต่มัสก์ยังคงยืนยันกับพนักงานว่า “ผมเห็นเส้นทางที่ชัดเจนแต่ยากลำบาก ในการทำให้มูลค่าบริษัทสูงกว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (8.5 ล้านล้านบาท)” หรือมากกว่าตอนนี้กว่า 10 เท่า
มัสก์ยังกล่าวในอีเมลด้วยว่า “ทวิตเตอร์กำลังได้รับการปรับปรุงใหม่อย่างรวดเร็วจนบริษัทอาจถูกมองว่าเป็นเหมือน 'อินเวิร์สสตาร์ทอัป' (Inverse Startup)”
ความหมายของอินเวิร์สสตาร์ทอัปคือ ทวิตเตอร์ในฐานะบริษัทใหญ่ กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่ตรงกันข้ามกับวิถีปกติของสตาร์ทอัปปกติ โดยทั่วไปแล้ว สตาร์ทอัปจะเริ่มต้นด้วยทีมขนาดเล็กและทรัพยากรที่จำกัด และเมื่อเติบโตขึ้น ก็จะขยายทีมและทรัพยากรเพื่อรองรับขนาดที่เพิ่มขึ้น
ในทางตรงกันข้าม ทวิตเตอร์เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีทีมงานจำนวนมากและทรัพยากรที่กว้างขวาง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ซึ่งรวดเร็วและสำคัญมากจนคล้ายกับวิถีปกติของสตาร์ทอัป เพียงแต่ต่างกันที่ว่า แทนที่จะเป็นบริษัทเล็กขยายตัวให้ใหญ่ ทวิตเตอร์กำลังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ ซึ่งอาจรวมถึงการลดขนาด
มัสก์เสริมว่า การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงมีความจำเป็น ส่วนหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าทวิตเตอร์จะไม่ล้มละลาย
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP