วันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา วันสุดท้ายของเทศกาลถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอน ที่ ซูดาน ยังคงมีเสียงปืน เสียงระเบิดดังขึ้นตลอดทั้งวัน คั่นด้วยเสียงปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศ โดยเฉพาะในย่านที่พักอาศัยของผู้คนในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน ยังคงมีเสียงกราดยิงดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ขณะเดียวกันก็พบเห็นกลุ่มควันลอยขึ้นมาทั่วกรุงคาร์ทูม และเมือง ที่ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำไนล์
แทบละลาย! "บังกลาเทศ" เผชิญอากาศร้อนสุดในรอบ 60 ปี
พบซากเรือ “มอนเตวิเดโอ มารู” กับโศกนาฏกรรมเชลยออสเตรเลียตายเกือบพันชีวิต
ทั้งนี้การต่อสู้ระหว่างกองทัพซูาน และกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (RSF) ดำเนินมาครบ 1 สัปดาห์แล้ว และไม่มีท่าทีว่าจะยุติลง แม้ว่าเมื่อวานนี้ กองกำลัง RSF ยอมประกาศหยุดยิง เป็นเวลา 72 ชั่วโมง โดยเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 06.00 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นของวันศุกร์ เนื่องในวันสำคัญของชาวมุสลิม เพื่อเปิดทางให้กับความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ตลอดจนการอพยพของผู้คน
นี่ถือเป็นการประกาศหยุดยิงครั้งที่สาม หลังจากข้อตกลงหยุดยิงสองครั้งแรกล้มเหลว โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันไปมาว่า อีกฝากละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำให้ยังคงมีการสู้รบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนถึงตอนนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 413 คน และบาดเจ็บเพิ่มเป็นอย่างน้อย 3,551 คน
ส่วนยูนิเซฟ ระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตจากการต่อสู้ในครั้งนี้มีเด็กอย่างน้อย 9 คนรวมอยู่ด้วย และมีเด็กมากกว่า 50 คนที่ได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงของซูดานพยายามอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย หลังจากกองกำลังทั้งสองฝ่ายปะกัน จนทำลายความสงบสุขของผู้คนในวันหยุดสำคัญ ของเทศกาลถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอน
หนึ่งในชาวซูดาน ที่อพยพหนีออกจากกรุงคาร์ทูม พร้อมกับเพื่อน บอกว่า เขาตัดสินใจเดินทางออกจากเมืองหลวงของซูดาน เพราะกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหนีออกมาโดยไม่ได้เอาอะไรออกมาแม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงแค่เสื้อผ้าที่ใส่มากับตัวเท่านั้น
ส่วนการเฉลิมฉลองวันสำคัญของชาวมุสลิม ในกรุงคาร์ทูม ชาวซูดานได้เดินทางไปยังมัสยิดเพื่อสวดมนต์ เรียกร้อง สันติภาพ และความปลอดภัย
โดยการเฉลิมฉลองเทศกาลดังกล่าวของชาวซูดานในปีนี้ ค่อนข้างหมองหม่น และเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงระเบิด และเสียงปืน
ขณะที่หลายชาติกำลังพิจารณาที่จะอพยพพลเมืองของตนเองออกจากซูดาน แต่เนื่องจากสนามบินในกรุงคาร์ทูมตกอยู่ภายใต้การสู้รบ และน่านฟ้าไม่ปลอดภัย ทำให้ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมนี และสเปน ยังไม่สามารถอพยพเจ้าหน้าที่ของสถานทูตออกมาได้
ส่วน สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ กำลังพิจารณาถึงตัวเลือกในการอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในซูดาน ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งให้ดำเนินการอพยพก็ตาม
ขณะที่เกาหลีใต้ได้ส่งเครื่องบินทหารไปประจำการที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในสาธารณรัฐจิบูตี ในแอฟริกาตะวันออก เพื่อเตรียมความพร้อมในการอพยพพลเมืองของตนออกจากซูดาน เช่นเดียวกับสหราชอาณาจักร ที่เตรียมกำลังทหาร และเครื่องบินทหาร ในฐานทัพในต่างประเทศ หากมีความจำเป็นที่ต้องอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและพลเมืองออกจากซูดาน
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
