คณะกรรมาธิการคุ้มครองข้อมูลของประเทศไอร์แลนด์ (DPC) สั่งปรับเมตา 1,200 ล้านยูโร หรือประมาณ 45,000 ล้านบาท เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูลผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่องของเมตา นอกจากนี้ ทาง DPC ยังสั่งให้เมตาหยุดการโอนข้อมูลส่วนของผู้ใช้ในยุโรปไปยังสหรัฐฯ ภายใน 5 เดือน นับจากที่มีคำตัดสิน
"เมตา" เตรียมปลดพนักงานอีก สัปดาห์นี้
อียู สั่งปรับเงินเมตา 14,000 ล้านบาท หลังทำผิดกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล
โดยค่าปรับครั้งนี้ถือเป็นค่าปรับสูงสุดเท่าที่เคยมีมาภายใต้กฎคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของยุโรป หรือ GDPR
นับเป็นการทำลายสถิติเดิมที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลของยุโรปสั่งปรับ แอมะซอน อิงค์ ในปี 2021 เกี่ยวกับการเก็บข้อมูลโฆษณาที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งตอนนั้น แอมะซอนถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 746 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 29,000 ล้านบาท
ด้านเมตา แถลงว่า บริษัทจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน รวมถึงค่าปรับที่เกินความจำเป็นและไม่เป็นธรรม และหาทางระงับคำสั่งดังกล่าวผ่านศาล
การต่อสู้ที่ดำเนินมายาวนานว่า เฟซบุ๊กควรเก็บข้อมูลไว้ที่ไหน เริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน หลังนักเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัว แม็กซ์ เชรมส์ (Max Schrems) ได้ยื่นฟ้องเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะถูกสหรัฐฯ สอดแนม
ขณะที่ เมื่อเดือนที่แล้ว เมตาระบุว่า ข้อตกลงใหม่ที่ช่วยให้การโอนข้อมูลส่วนตัวของพลเมืองอียูไปยังสหรัฐฯ ได้อย่างปลอดภัยจะถูกนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบก่อนที่จะต้องระงับการโอนข้อมูลชั่วคราว นั่นหมายความว่าคำเตือนก่อนหน้านี้ที่ว่า การหยุดโอนข้อมูลอาจทำให้บริษัทต้องหยุดให้บริการเฟซบุ๊กในยุโรปชั่วคราวนั้นจะไม่เกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่ ระบุว่า เฟรมเวิร์กใหม่สำหรับคุ้มครองข้อมูล ซึ่งสหภาพยุโรปและรัฐบาลสหรัฐฯ เห็นพ้องกันเมื่อเดือนมีนาคม 2022 อาจพร้อมใช้งานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่เมตาก็เตือนด้วยว่ามีโอกาสที่จะไม่ทันตามกำหนดการ
