ชาวไต้หวันแห่ชิมราเม็ง “ไอโซพอดยักษ์” สัตว์น้ำ 14 ขา

เจ้าของไอเดียเมนูพิสดารนี้คือร้านอาหารชื่อว่า “เดอะ ราเม็ง บอย” (TheRamen Boy) ในกรุงไทเป ของไต้หวัน ที่เปิดตัวเมนูราเม็งไอโซพอดยักษ์ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยทางร้านได้นำสัตว์ชนิดนี้มานึ่งประมาณ 10 นาที แล้วนำไปวางลงบนชามราเม็ง ซึ่งทางร้านตั้งราคาเมนูนี้ไว้ที่ 1,480 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือปรมาณ 1,600 บาท

พบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 5,000 สายพันธุ์ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก

สิ่งมีชีวิตใหม่ที่เพิ่งถูกพบในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง กำลังถูกคุกคาม

หลังจากที่ร้าน เดอะ ราเม็งบอยโพสต์ภาพเมนูราเม็งไอโซพอดยักษ์บนโซเชียลมีเดีย ปรากฎว่าทีลูกค้าสนใจลงชื่อรอคิวชิมเมนูนี้มากกว่า 100 คน

โดย มิสเตอร์ หู (Mr Hu) เจ้าของร้านราเม็งบอยเชื่อว่าสาเหตุที่เมนูราเม็งไอโซพอดดึงดูดความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมากเป็นเพราะลักษณะที่น่ารักของสัตว์ชนิดนี้

ส่วนเหตุผลที่ตั้งราคาไว้ค่อนข้างสูง มิสเตอร์ หู ระบุว่าเป็นเพราะพวกมันเป็นสัตว์ที่พบได้ยาก จึงทำให้ปริมาณมีจำกัด แต่การนำพวกมันมากินไม่น่าจะส่งผลเสียใดๆต่อจำนวนประชากรชองสัตว์ชนิดนี้

ส่วนในด้านรสชาตินั้น ลูกค้าคนหนึ่งให้ความเห็นว่าไอโซพอดยักษ์ที่ผ่านการนึ่งของทางร้านราเม็งบอยมีรสชาติเหมือนเนื้อปูกับผสมกับกุ้งลอบเตอร์ ที่มีเนื้อแน่นหนึบ

อย่างไรก็ตาม มีคำเตือนจากนักวิชาการเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการบริโภคไอโซพอดยักษ์ หรือที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “บาทีโนมัส จาเมซี” (Bathynomus jamesi) โดย หวง หมิง ชิฮ์ (HUANG MING-CHIH) รองศาสตราจารย์ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติไถหนาน ระบุว่าการบริโภคสัตว์ที่ไม่มีข้อมูลและไม่มีการวิจัยมาก่อนเป็นความเสี่ยง ดังนั้นจึงควรมีการศึกษาให้ครบถ้วนก่อนว่าสัตว์ชนิดนี้มีสารพิษปนเปื้อนหรือไม่

 

สำหรับไอโซพอดยักษ์ ซึ่งเป็นญาติห่างๆของปูและกุ้ง เป็นหนึ่งในสัตว์น้ำเปลือกแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยมักพบใต้ทะเลที่ระดับความลึก 170 ถึง 2,140 เมตร แต่ 80 เปอร์เซนต์อาศัยอยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 365 เมตร ถึง 730 เมตร และมีขนาดร่างกายตั้งแต่เล็กจิ๋วเท่าแมลงไปจนถึงขนาด 50 เซนติอเมตร โดยมีขา 14 ขา หรือ 7 คู่