“ไบเดน” เผยดีลขยายเพดานหนี้พร้อมให้สภาคองเกรสลงมติแล้ว

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ภายหลังบรรลุข้อตกลงกับเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญ โดยกำจัดความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ออกไป และปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องผ่านความยากลำบากมากมายกว่าจะฟื้นตัวได้

นอกจากนี้ ยังแสดงถึงการประนีประนอม ที่ไม่มีใครได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ แต่นั่นก็คือความรับผิดชอบของการบริหารประเทศ

 

ด้านเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อตกลงนี้มีค่ากับชาวอเมริกันทุกคน พร้อมแสดงความมั่นใจว่าจะผ่านการลงมติของสภาคองเกรสในวันพุธนี้ (31 พ.ค.)

"รัฐบาลสหรัฐฯ-สภา" ถอยคนละก้าว บรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้

เกิดอะไรขึ้น ? ถ้าสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

เศรษฐกิจ ปี 2566 จะเป็นปีที่ยากลำบาก เมื่อมหาอำนาจล้วนอ่อนแอ

ข้อตกลงขยายเพดานหนี้ล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากการเจรจาต่อรองอย่างดุเดือดนานหลายสัปดาห์ระหว่างฝั่งเดโมแครตและฝั่งรีพับลิกัน

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนว่า สหรัฐฯ จะไม่มีเงินชำระหนี้ในวันที่ 5 มิ.ย. หากไม่ได้ข้อตกลงนี้

สหรัฐฯ ต้องกู้ยืมเงินมาเพื่อสนับสนุนรายจ่ายของรัฐบาล ซึ่งใช้จ่ายมากกว่าที่เก็บภาษีได้

การผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ จะทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ และส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลก

ในระยะยาว วิกฤตนี้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย และส่งผลให้อัตราการว่างงานพุ่งสูงขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ถดถอยจะส่งผลกระทบต่อเนื่องมหาศาลต่อหลายประเทศที่มีสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญ

นอกจากนี้ การที่ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก การผิดนัดชำระหนี้จะทำให้เกิดกระแสตื่นตระหนกไปทั่วโลก และนำไปสู่การปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการ

 

 

 

ภาพจาก AFP