เศรษฐกิจนิวซีแลนด์ติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

รัฐบาลนิวซีแลนด์เปิดเผยเมื่อวานนี้ ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของประเทศ หดตัว 0.1% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 หลังจากหดตัว 0.7% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับแก้ไขแล้ว ทำให้เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ซึ่งหมายถึงการที่เศรษฐกิจติดลบเป็นเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกัน

เศรษฐกิจนิวซีแลนด์ที่อ่อนแอลงมีสาเหตุหลักจากผลผลิตของอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ที่หดตัวไปประมาณครึ่งหนึ่ง

ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจยังได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนและน้ำท่วมครั้งใหญ่ในเมืองโอคแลนด์เมื่อเดือน ม.ค.และ ก.พ.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 6.7 เปอร์เซนต์ ยังสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารที่กำหนดกรอบเงินเฟ้อไว้ที่ 1 ถึง 3 เปอร์เซนต์

โดยธนาคารกลางนิวซีแลนด์พยายามควบคุมเงินเฟ้อด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ 5.5 เปอร์เซนต์ สูงที่สุดในรอบ 14 ปี สำหรับปัญหาค่าครองชีพยังกลายเป็นประเด็นทางการเมืองสำคัญในเวลานี้เพราะนิวซีแลนด์กำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 ต.ค.นี้

โดยนายกรัฐมนตรี คริส ฮิปกิน ยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศและนิวซีแลนด์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ส่วนปัญหาเศรษฐกิจถดถอยจะเป็นเพียงปัญหาระยะสั้นๆ ซึ่งรัฐบาลพร้อมจะช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจอย่างเต็มที่