สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่านับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2023 เป็นต้นมา บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 500 คน มีมูลค่ามั่งคั่งเพิ่มขึ้นรวมกันประมาณ 850,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 30 ล้านล้านบาท
มหาเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัทเทสลา เพิ่งทำสถิติส่งมอบรถยนต์ได้มากที่สุดในไตรมาสที่ 2 โดย มัสก์ มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นราว 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน มัสก์ เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก โดย มีทรัพย์สินเป็นมูลค่าราว 240,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 9 ล้านล้านบาท
อิตาลีปัดข่าวลือ เชิญ "มัสก์-ซักเคอร์เบิร์ก" ชกกันในโคลอสเซียม
เหตุ “#ทวิตล่ม” เกิดจาก อีลอน มัสก์ “จำกัดการมองเห็นเนื้อหาต่อวัน”
ส่วน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเมตา คู่ปรับของ มัสก์ ที่ประกาศจะขึ้นเวทีมวยกรง มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเกือบ 60,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 2 ล้านล้านบาท ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา
โดยปัจจุบัน ซัคเคอร์เบิร์ก เป็นมหาเศรษฐีอันดันดับ 9 ของโลก มีทรัพย์สินรวม 104,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,600,000 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้ง มัสก์ และ ซัคเคอร์เบิร์ก มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้เพราะกระแสความนิยมจกการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ซึ่งทำให้ครึ่งแรกของปีนี้ตลาดหุ้นแนสแดก 100 เพิ่มขึ้นถึง 39 เปอร์เซนต์ และ ตลาดหุ้น เอส แอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซนต์
ส่วนมหาเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งลดลงไปมากที่สุดคือ นาย โกทัม อดานี (Adani Group)ประธาน “อดานี กรุ๊ป”ในอินเดีย ที่ทำธุรกิจด้านพลังงาน การขนส่ง และ อุตสาหกรรมการเกษตร โดยตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา อดานี สูญเสียความมั่งคั่งไป 60,000 ล้านดอลลสาร์ หรือ 2 ล้านล้านบาท หรือลดลงไปประมาณครึ่งหนึ่งของมูลค่าทัพย์สินที่อดานีเคยครอบครองในช่วงต้นปี ทำให้ อดานี หลุดจากตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของทวีปเอเชีย
สาเหตุหลักเป็นเพราะการเทขายหุ้น อดานี กรุ๊ป หลังจาก “เดนเบิร์ก รีเสิร์ช” บริษัทด้านการลงทุนของสหรัฐ ออกรายงานชื่อว่า บริษัทดังกล่าวทำการฟอกเงิน ปั่นหุ้น และฉ้อโกงด้วยการตกแต่งบัญชี