สำนักข่าวด็อยท์เชอเว็ลเลอ หรือ DW ของเยอรมนี เผยแพร่สกู๊ปข่าว “Sex tourists in Thailand” หรือ “นักท่องเที่ยวทางเพศในประเทศไทย” เริ่มต้นด้วยการสัมภาษณ์นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันหลายคนที่เดินทางมาซื้อบริการทางเพศในประเทศไทย โดยรายหนึ่ง เปิดใจว่า เดินทางมาที่นี่เพราะหากซื้อบริการทางเพศในบ้านเกิดต้องจ่ายเงินมากกว่าในพัทยาราว 2 – 3 เท่า
สำนักข่าวแห่งนี้ยังเจาะประเด็นเรื่องการค้าบริการทางเพศเด็กในเมืองพัทยา โดยสัมภาษณ์พลเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
สื่อนอกประเมิน นักท่องเที่ยวจีนกำลังหายไปจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
สื่อนอกมอง แรงงานไทยในอิสราเอล เป็นเหมือน “เหยื่อที่ถูกลืม”
ส่องความเห็นชาวจีนหลังเหตุยิงพารากอน บางส่วนชี้เที่ยวเมืองไทยอันตราย!
โดยในประเด็นนี้ บิ๊กโจ๊ก ระบุว่า สถานการณ์การค้าประเวณีเด็กในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากสัดส่วนอายุเด็กลดต่ำลงเรื่อย ๆ และความรุนแรงในการล่วงละเมิดทางเพศก็สูงขึ้น
สื่อเยอรมนีเจ้านี้ยังสอบถามบิ๊กโจ๊กถึงเรื่องชาวเยอรมันรายหนึ่งที่ถูกจับกุม หลังซื้อบริการทางเพศเด็กที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในพัทยา และขอเข้าร่วมการประชุมรับฟังความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยาเสนอรายงานต่อรองผบ.ตร. ว่า จากการตรวจค้น พบใบเสร็จรับเงินที่เขียนชื่อเด็กแต่ละคนเอาไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่รู้ว่า ที่บาร์แห่งนี้ ซึ่งถูกสั่งปิด มีเด็กให้บริการ 11 คน ในจำนวนนี้มีเพียงคนเดียวที่อายุมากกว่า 18 ปี ส่วนรายที่เด็กสุดมีอายุเพียง 12 ปี
ในเวลาต่อมา บิ๊กโจ๊ก ที่เดินทางไปแถลงเกี่ยวกับการกวาดล้างสตูดิโอถ่ายทำสื่อลามกอนาจารผิดกฎหมายและการค้าประเวณีเด็ก ตอบคำถามผู้สื่อข่าว DW ว่า ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นชาวเยอรมันจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ที่พาเด็กหญิงยังไม่บรรลุนิติภาวะจากบาร์ไปยังอะพาร์ตเมนต์ของตัวเองหลายครั้งนั้น ถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดเด็กแล้ว หลังจากพยานให้ปากคำว่า ชายรายนี้มีเพศสัมพันธ์กับผู้ให้บริการทางเพศที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างน้อย 1 คน และในตอนนี้กำลังถูกควบคุมตัว เพื่อรอการพิจารณาคดี
อย่างไรก็ตาม กลับพบว่า ผู้ก่อเหตุรายดังกล่าว สามารถหลบหนีออกจากประเทศไทยได้สำเร็จ เพียง 7 วันหลังจากนั้น พร้อมยอมให้สัมภาษณ์กับ DW โดยระบุว่า เขาจ่ายสินบนเป็นเงินจำนวนมากเพื่อหลบหนีการดำเนินคดีออกจากประเทศไทยกลับไปยังเยอรมนี และตัดสินใจหนี ก็เพราะเชื่อว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ผู้ต้องสงสัยที่หลบหนีบอกว่า “เพราะผมต้องการให้คุณเห็นถึงความอยุติธรรมนี้ มันเริ่มด้วยการตั้งข้อกล่าวหาผม ทุกอย่างเป็นภาษาไทย จึงไม่มีทางที่ผมจะรู้ได้ว่าพูดถึงอะไร ผมมีเอกสารที่รับรองว่าผมได้รับอณุญาตปล่อยตัว มีลายเซ็นของหลายคน ทั้ง อัยการและผู้พิพากษา ตำรวจเป็นผู้เริ่มกระบวนการนี้ แน่นอนว่าผมต้องจ่ายสินบนสำหรับทุกอย่างเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท”
ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ยังเปิดหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่พิสูจน์ว่า จ่ายสินบน 30,000 ยูโร (ราว 1.1 ล้านบาท) รวมถึง เงินประกันตัวและค่าทนาย 20,000 ยูโร (ราว 7.6 แสนบาท) เพื่อที่จะเดินทางออกจากประเทศไทย แม้จะถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดทางเพศและทารุณเด็ก แต่ไม่เป็นที่เปิดเผยว่า ชายชาวเยอรมันรายนี้จ่ายสินบนให้กับหน่วยงานใด
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ชายรายนี้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และเปิดรูปของเด็กในบาร์ วัย 15 ปีรายหนึ่ง โดยอ้างว่า นึกว่าเป็นหญิงสาวอายุ 30 ปี ที่ไม่มีริ้วรอย แต่ผู้สื่อข่าวแย้งว่า รูปที่เปิดให้ดู เป็นรูปของเด็ก ซึ่งก็หมายความว่า การตั้งข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ถูกต้องแล้ว พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมจึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
ชายชาวเยอรมันรายนี้ ตอบว่า รู้สึกว่าถูกตำรวจปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม และเขาไม่เข้าใจว่าทำไมมีเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะทำงานในบาร์มากขนาดนี้ ขณะที่หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าว DW ติดต่อไปยังอัยการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเยอรมนี เพื่อสอบถามเพิ่มเติมว่า เพราะเหตุใดชายรายนี้จึงไม่ถูกดำเนินคดี และได้รับคำตอบว่า ไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับคดีนี้ แม้ว่าในกรุงเทพฯ จะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานจากสำนักงานตำรวจอาชญากรรมกลางของเยอรมนีประจำการอยู่ก็ตาม
ทั้งนี้ คลิปวิดีโอดังกล่าวบนยูทูบที่มียอดวิวกว่า 1.2 ล้าน ถูกปิดกั้นไม่ให้สามารถรับชมได้ในประเทศไทย
ภาพจาก NICOLAS ASFOURI / AFP
หมายเหตุ : ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา