COP28 บรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์เปลี่ยนผ่านการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
ตำรวจเตรียมแจ้ง 4 ข้อหา "สมรักษ์" พรากผู้เยาว์ - พยายามข่มขืน
เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ธันวาคม 2566) สมัชชาใหญ่สหประชาชาติได้จัดประชุมนัดพิเศษสำหรับรับรองมติการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
ร่างมติดังกล่าวมีเนื้อหาที่แสดงถึงความเป็นกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในระดับวิบัติหายนะ รวมถึงความทุกข์ทรมานของพลเรือนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
การเปิดประชุมนัดพิเศษของยูเอ็น มีขึ้นหลังจากเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ธันวาคม 2566) อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 99 ของกฎบัตรสหประชาชาติ
ส่งมติที่มีเนื้อหาคล้ายกันเข้าที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาติหรือ UNSC ก่อนที่มติดังกล่าวจะถูกตีตกไป เนื่องจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของ UNSC ใช้สิทธิ์คัดค้านหรือวีโต (Veto)
สิ่งที่เกิดขึ้นในที่ประชุม UNSC เมื่อวันศุกร์นั้น ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา ต้องมีการใช้ที่ประชุมยูเอ็นสมัยพิเศษ เพื่อผลักดันร่างมติหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมทันที ที่ประชุมใช้เวลาหารือกันเพียงชั่วโมงเศษเท่านั้น ก่อนเปิดให้ชาติสมาชิกได้ลงมติ
ผลปรากฎว่า เสียงโหวตเห็นด้วยกับการหยุดยิงมีถึง 153 ประเทศรวมถึงไทย มี 10 ชาติไม่เห็นด้วย และอีก 23 ชาติ งดออกเสียง ขณะเดียวกัน 7 ประเทศ ไม่แสดงตนเพื่อร่วมลงมติ
ทั้งนี้ 10 ประเทศที่โหวตไม่เห็นด้วยกับการหยุดยิงได้แก่ อิสราเอล ออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก กัวเตมาลา ไลบีเรีย ไมโครนีเซีย นาอูรู ปาปัวนิวกินี ปารากวัย และสหรัฐฯ
ก่อนการลงมติ ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ ผู้แทนถาวรสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ได้เสนอให้ที่ประชุมแก้ไขร่าง โดยขอเพิ่มเนื้อหาประณามกลุ่มฮามาส แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ
หลังจากนั้น เธอได้ออกมาอธิบายเหตุผลที่โหวตคัดค้านมติการหยุดยิงว่า ถึงแม้จะเข้าใจถึงสถานการณ์มนุษยธรรมที่กำลังวิกฤตในฉนวนกาซา แต่ถ้ามีการหยุดยิงในเวลานี้ ผู้ที่จะได้ประโยชน์คือกลุ่มฮามาส และนี่จะเป็นการทำให้อิสราเอลรวมถึงพลเรือนปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาตกอยู่ในภาวะอันตรายมากขึ้น
ถึงแม้จะมีเสียงโหวตหยุดยิงอย่างท่วมท้น แต่อิสราเอลไม่จำเป็นต้องทำตามมตินี้ เนื่องจากเป็นมติที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย หรือ Non-binding resolution
อย่างไรก็ตามผลโหวตที่ออกมาเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองที่สำคัญไปถึงอิสราเอลและสหรัฐฯ เนื่องจากพันธมิตรที่เคยเหนียวแน่นหลายชาติ ตัดสินใจโหวตให้มีการหยุดยิงสวนทางกับสิ่งที่อิสราเอลและสหรัฐฯ ต้องการ ชาติเหล่านั้นได้แก่ แคนาดา ฝรั่งเศส รวมถึงออสเตรเลีย ที่ออกมาเรียกร้องให้อิสราเอลเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ทั้งนี้การสูญเสียแรงสนับสนุนจากชาติพันธมิตร ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์ถึงแนวทางการทำสงครามของอิสราเอล
สำนักข่าว BBC รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้กล่าวระหว่างร่วมงานระดมทุนเลือกตั้งในกรุงวอชิงตันดีซีเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า อิสราเอลกำลังสูญเสียแรงหนุนจากนานาชาติ เนื่องจากการทิ้งระเบิดเข้าใส่พลเรือนแบบไม่เลือกหน้า
BBC ระบุด้วยว่า นี่เป็นคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ตรงไปตรงมามากที่สุดของผู้นำสหรัฐฯ นับตั้งแต่อิสราเอลทำสงครามกับกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะให้มีการหยุดยิงทันทีแล้ว มติของยูเอ็นที่ออกมาเมื่อคืนนี้ยังได้เรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข รวมถึงเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซาด้วย
ภาพจาก : รายการรอบโลก DAILY
หลุดแชทเด็ก 17 ปี เรียกเพื่อนมารับหลังรู้ตัวถูก “สมรักษ์” พามาโรงแรม
ศาลสั่งจำคุก 6 ปี "ไอซ์ รักชนก" ปมโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันฯ ไม่รอลงอาญา