มิจฉาชีพใช้ Deepfake ปลอมเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงิน หลอกเงิน 900 ล้านบาท

เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องนอกจากจะทำให้ชีวิตของผู้คนสะดวกสบายขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้มิจฉาชีพมีความเก่งกาจมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการหลอกลวงผู้คน

ล่าสุด มีเรื่องเตือนภัยจากฮ่องกง เมื่อเจ้าหน้าที่การเงินของบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่งถูกหลอกให้โอนเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 890 ล้านบาท) ให้กับมิจฉาชีพที่ใช้เทคโนโลยี “Deepfake” สวมรอยเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน หรือซีเอฟโอ ของบริษัท ซึ่งปรากฏตัวในการประชุมทางวิดีโอ

หารักแท้ยุคใหม่! หนุ่มรัสเซียใช้ AI นัดเดทสาวกว่า 5,000 คนผ่าน Tinder

ตำรวจไซเบอร์ เปิด 2 ขั้นตอน ป้องกัน iPhone จากมิจฉาชีพออนไลน์!

กสทช. ย้ำ อย่าหลงเชื่อมิฉาชีพแอบอ้างหน่วยงาน-เตรียมพัฒนาแชตบอตรับร้องเรียน

AFP/NICOLAS ASFOURI

เทคโนโลยี Deepfake นั้น พูดแบบเข้าใจง่าย ๆ คือ การสร้างรูปภาพ เสียง หรือคลืปวิดีโอ โดยนำใบหน้าและเสียงของบุคคลต่าง ๆ มาสวมรอย ทำให้คนอื่น ๆ หลงเชื่อว่าภาพ เสียง หรือวิดีโอ ดังกล่าว เป็นบุคคลคนนั้นจริง

เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงรายงานว่า การหลอกลวงอันซับซ้อนนี้ทำให้พนักงานรายนี้หลงเชื่อ โดยเขาถูกหลอกให้เข้าร่วมวิดีโอคอลซึ่งในหน้าจอเต็มไปด้วยพนักงานคนอื่น ๆ หลายคน รวมถึงซีเอฟโอของบริษัท แต่จริง ๆ แล้วทุกคนล้วนเป็นตัวปลอมทั้งหมด

ผู้กำกับอาวุโส บารอน ชาน ชุนชิง กล่าวว่า “ในการประชุมทางวิดีโอแบบหลายคน ปรากฏว่าทุกคนที่พนักงานรายนี้เห็นเป็นของปลอม”

ชานกล่าวว่า พนักงานได้รับข้อความที่อ้างว่ามาจากประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทใน ในตอนแรก พนักงานรายนี้ก็สงสัยว่าเป็นอีเมลปลอม เนื่องจากเนื้อหาพูดถึงความจำเป็นในการทำธุรกรรมลับ

อย่างไรก็ตาม พนักงานคนนั้นหมดข้อสงสัย หลังจากมีการวิดีโอคอล เนื่องจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมการประชุมมีหน้าตาและเสียงเหมือนกับเพื่อนร่วมงานที่เขารู้จัก ทำให้เชื่อว่าคนอื่น ๆ ในวิดีโอคอลนั้นเป็นของจริง จึงตกลงที่จะโอนเงินจำนวน 200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (910 ล้านบาท) ให้

เขามาค้นพบว่าซีเอฟโอเป็นตัวปลอมก็หลังจากตรวจสอบซ้ำกับทางสำนักงานใหญ่ของบริษัทในภายหลัง

คดีนี้เป็นหนึ่งในหลายคดีของฮ่องกงที่มิจฉาชีพใช้เทคโนโลยี Deepfake เพื่อดัดแปลงภาพและวิดีโอต่าง ๆ เพื่อโกงเงินผู้คน โดยที่ผ่านมา ฮ่องกงสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับกลโกงดังกล่าวได้ 6 ราย

ชานกล่าวว่า พบบัตรประจำตัวประชาชนชาวฮ่องกง 8 ใบ ซึ่งทั้งหมดมีเจ้าของบัตรมาแจ้งความว่าสูญหาย และถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในการขอสินเชื่อ 90 ใบ และการลงทะเบียนเปิดบัญชีธนาคาร 54 บัญชีใบระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย. 2023 และมีอย่างน้อย 20 ครั้ง ที่มีการใช้ Deepfake เพื่อหลอกโปรแกรมจดจำใบหน้าโดยเลียนแบบหน้าเจ้าของบัตรประชาชน

เจ้าหน้าที่ทั่วโลกมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความซับซ้อนของเทคโนโลยี Deepfake และการใช้งานไปทางที่ไม่ดี

เมื่อปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ภาพลามกอนาจารของนักร้องชื่อดัง เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่สร้างโดยเทคโนโลยี Deepfake ได้แพร่กระจายไปทั่วโซเชียลมีเดีย ซึ่งตอกย้ำถึงศักยภาพในการทำลายล้างที่เกิดจากเทคโนโลยีนี้

 

เรียบเรียงจาก CNN

9 ของไหว้มงคล"ตรุษจีน 2568" อาหารคาว-หวาน ผลไม้มีอะไรบ้าง

เช็กสถิติหวยออกย้อนหลัง 15 ปี งวดประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์

ประกาศฉบับที่ 1 เตือนอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง