นายกรัฐมนตรีเฮติประกาศลาออก หวังสยบความวุ่นวายในประเทศ

อาเรียล อองรี นายกรัฐมนตรีเฮติวัย 74 ปี ประกาศลาออกจากตำแหน่งตามความต้องการของกลุ่มอาชญากรรมที่ขณะนี้ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองหลวงปอร์โตแปรงซ์ไว้ได้เกือบทั้งหมด และเรียกร้องให้ประเทศกลับคืนสู่ความสงบ

การลาออกของอองรีเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเข้าร่วมการประชุมฉุกเฉินระดับภูมิภาคของกลุ่มชาติแคริบเบียนที่ประเทศจาเมกา เพื่อตอบสนองความต้องการของ จิมมี เชริซิเยร์ หรือ “บาร์บีคิว” (Barbecue) หัวหน้าแก๊งอาชญากรรมรายใหญ่ในเฮติ ที่ยื่นคำขาดให้นายกฯ อองรีลาออก

AFP/SIMON MAINA

ในวิดีโอแถลงการณ์ อองรีกล่าวว่า “รัฐบาลที่ผมเป็นผู้นำอยู่ในขณะนีจะลาออกโดยทันทีที่มีการแต่งตั้งรัฐสภาในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผมขอให้ชาวเฮติทุกคนอยู่ในความสงบและทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้สันติภาพและเสถียรภาพกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด”

อดีตผู้นำชาวเฮติรายนี้ติดอยู่ในเขตเปอร์โตริโกของสหรัฐฯ หลังจากกลุ่มอาชญากรปิดสนามบินไม่ให้เขาเดินทางกลับเข้าประเทศ โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ กล่าวว่า อองรีมีอิสระที่จะอยู่เปอร์โตริโกต่อไปหรือเดินทางไปที่อื่นได้ แต่แนะว่าหากจะกลับเฮติ ควรรอให้สถานการณ์สงบก่อน

กลุ่มอาชญากรรมเคยเตือนว่าจะเกิดสงครามกลางเมืองและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หากอองรีไม่ลาออกจากตำแหน่ง ในขณะเดียวกัน เฮติก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย เกิดมีความรุนแรงเป็นวงกว้าง เกิดการปล้นชิง และประชาชนเริ่มความหวาดกลัวต่อความอดอยาก

อองรีขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ ในปี 2021 หลังผู้นำคนก่อนถูกลอบสังหาร แต่เขาถูกหลายฝ่ายในเฮติมองว่าทุจริตมาโดยตลอด

ส่วนการประชุมของผู้นำระดับภูมิภาคประชาคมแคริบเบียน (CARICOM) มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับกรอบการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของเฮติ โดยมีสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วย ส่วนอองรีไม่ได้เข้าประชุม

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้เช่นกัน และสัญญาว่า จะมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 พันล้านบาท) สำหรับกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติเพื่อสร้างเสถียรภาพของประเทศ และอีก 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 พันล้านบาท) สำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

 

เรียบเรียงจาก Al Jazeera

เช็กชื่อ! กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดนตัดสิทธิฯ 10 ปี หลังยุบพรรค

ไฟไหม้ตลาดสี่มุมเมือง “เด็ก 4 ขวบพร้อมน้า” สำลักควันเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1

เปิดโปรแกรม 10 นัดสุดท้าย อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก